กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--กทม.
กทม. เตรียมเปิดตัวหอศิลป์ฯ อย่างเป็นทางการ 19 ส.ค. นี้ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พร้อมจัดแสดงนิทรรศการบารมีแห่งแผ่นดินและนิทรรศการโขนพรหมาศ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ 11 สิงหาคม — 11 ตุลาคม 2552
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวงานเปิดตัวหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมีท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และประธานคณะกรรมการจัดการแสดงนิทรรศการโขนพรหมาศ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา 12 สิงหาคม 2552 พร้อมด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี รองประธานคณะกรรมการจัดการแสดงนิทรรศการโขนพรหมาศ และ ศ.ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ ร่วมการแถลงข่าว ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการก่อสร้างหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครขี้นตามนโยบายด้านสถาปัตยกรรม ผังเมือง และศิลปวัฒนธรรมของกรุงเทพมหานคร เพื่อผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของเมือง โดยมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนไทยสนใจและร่วมกันอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม พร้อมทั้งเป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับงานศิลปะของไทยและสากล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาบุคลากรของชาติ ที่ถือว่าเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด และเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
ทั้งนี้หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถือเป็นจุดนัดพบของศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ ด้วยรูปแบบของอาคารสถาปัตยกรรมร่วมสมัยใจกลางกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกปทุมวัน ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน มีพื้นที่การจัดแสดงงานศิลปะกว่า 20,000 ตารางเมตร ซึ่งในขณะนี้ได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว และมีกำหนดจัดพิธีเปิดอาคารและจัดแสดงนิทรรศการ “บารมีแห่งแผ่นดิน” ในวันพุธที่ 19 สิงหาคม 2552 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
สำหรับพื้นที่ใช้สอยภายในอาคารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แบ่งออกเป็น 9 ชั้น ดังนี้ ชั้นที่ 1 เป็นพื้นที่ของร้านค้าสำหรับผู้รักงานศิลปะในกลุ่มของละคร ดนตรี และการศึกษา อาทิ ร้านสำนักพิมพ์นานมี บางกอกโอเปร่า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยศิลปากร และภัทราวดีเธียเตอร์ที่จะเปิดพื้นที่ในการสาธิตและการแสดงศิลปะร่วมสมัย ชั้นที่ 2 แหล่งรวบรวมผลงานวรรณกรรม จากสำนักพิมพ์เคล็ดไทย มูลนิธิรัชกาลที่ 9 ชมรมหนังสือสัญจร มูลนิธิหนังไทย และภาพยนตร์ต่างๆ จากหอภาพยนตร์ กลุ่มกิจกรรมต่างๆ จาก Art4D หอศิลป์ตาดู และกลุ่มการ์ตูน ชั้นที่ 3 มีทางเดินเชื่อมต่อกับทางยกระดับสถานีรถไฟฟ้า BTS และสนามกีฬาแห่งชาติ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มาใช้บริการ โดยเป็นที่ตั้งของร้านค้าตามพระราชดำริ ได้แก่ ร้านจิตรลดา ร้านภูฟ้า ร้านดอยตุง และร้านแม่ฟ้าหลวง รวมทั้งร้านขายอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการ “เส้นทางสายพระราชไมตรี” ที่จัดแสดงเรื่องราวการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตั้งแต่ปี 2503 พร้อมด้วยการจัดฉายสารคดีชุด “เส้นทางสายพระราชไมตรี” ในห้องฉายภาพยนตร์อีกด้วย ชั้นที่ 4 เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ “World Focus & Thai Focus” ซึ่งนำเสนอภาพถ่ายที่หาชมได้ยากจากมุมมองของสื่อทั้งในและต่างประเทศ พร้อมด้วยแกลเลอรี่ต่างๆ ที่ให้ความสนใจมาร่วมจัดแสดงภาพ ชั้นที่ 5 นิทรรศการเพลงกล่อมลูกของแต่ละภาค และนิทรรศการหนังสั้น รวมถึงการแสดงร่วมสมัยจากคณะละครชั้นนำหลากหลาย ที่เสนอแนวคิดต่างๆ ในสาระของความเป็น “แม่” สำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ชั้นที่ 6 ไม่มีการจัดแสดงผลงาน เนื่องจากใช้เป็นพื้นที่ของสำนักงาน ชั้นที่ 7 จัดแสดงนิทรรศการร่วมสมัย “ความเงียบจากเพลงกล่อม” จาก 3 กวี 7 ศิลปินที่นำเสนอผลงานในนิยามของคำว่า “แม่” ที่ถ่ายทอดผ่านงานจิตรกรรม ประติมากรรม ศิลปะการจัดวาง และบทกวีเพื่อถ่ายทอดมิติที่หลากหลายของ “แม่” และ “ผู้หญิง” ชั้นที่ 8 จัดแสดงนิทรรศการการแสดงโขน ชุด พรหมาศ เต็มรูปแบบ โดยแบ่งตามเนื้อหา เช่น ประวัติความเป็นมาของโขน และนิทรรศการทางดนตรี ฉากจำลองท้องพระโรง ฉากโรงพิธี แบบสร้างฉาก เครื่องสูง พัสตราภรณ์ หุ่นละครตัวเอก ถนิมพิมพาภรณ์ ศิราภรณ์ และหัวโขน พร้อมการสาธิตการทำหัวโขน นิทรรศการภาพถ่าย โรงปั้นช้าง และภาพลายเส้น ห้องฉายภาพยนตร์ รวมถึงร้านขายของที่ระลึก ชั้นที่ 9 จัดแสดงนิทรรศการภาพของพ่อ “บารมีแห่งแผ่นดิน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในมุมมองของศิลปินหลายรุ่น หลากวิธี โดยแบ่งเป็น 4 โซน ดังนี้ ในหลวงในชีวิตประจำวันของประชาชน ในหลวงในสังคม ในหลวงในภาพจากแหล่งต่างๆ ที่หาชมได้ยาก และเพลงสรรเสริญพระบารมี
ในโอกาสนี้ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงเนื้อหาของการจัดนิทรรศการโขนพรหมาศ ว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างพัสตราภรณ์และอุปกรณ์ประกอบฉากขึ้นใหม่ เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประจำชาติให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสกับศิลปวัฒนธรรมตามแบบประเพณีโบราณในรูปแบบที่ถูกต้อง จึงจัดนิทรรศการดังกล่าวขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนด้านการจัดนิทรรศการและการประชาสัมพันธ์จากสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษาได้รับรู้และสัมผัสศิลปวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ นิทรรศการบารมีแห่งแผ่นดินและนิทรรศการโขนพรหมาศ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 สิงหาคม — 11 ตุลาคม 2552 จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมชมนิทรรศการดังกล่าว ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร บริเวณสี่แยกปทุมวัน โดยเปิดให้บริการทุกวันอังคาร—อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00—21.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 2214 6630-1 หรือทาง www.bacc.or.th