กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มลดลง หลังนายเบอร์นันเก้ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะยังคงอยู่ที่ระดับต่ำต่อไปอีกนาน พร้อมแสดงความวิตกเกี่ยวกับยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐ ได้ถ่วงความต้องการเสี่ยงของนักลงทุนและหนุนดอลลาร์และเยนในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยแทน (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป)
กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source : Bisnews (Daily)
Source: Bisnews (30 Min)
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD 30 นาทีเคลื่อนตัวอยู่ใกล้ 0 ทำให้ดูราคาเป็นตลาด Sideways, MACDF อยู่ใกล้ 0 ทำให้ดูราคาเป็นตลาด Sideways, Fast Stochastic อยู่ใกล้ 50 ทำให้ดูราคาเป็นตลาด Sideways, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 40.81 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $938-$957 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.96-฿34.03
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง - Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, RSI อยู่ที่ระดับ 68.095 ถือเป็นระดับ overbought อยู่เล็กน้อยทำให้ดูว่าราคามีโอกาสปรับตัวลง, MACD เคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบ ทว่าได้ตัดเส้น Trigger จากด้านล่างทำให้ดูราคาป็นขาขึ้น, MACDF เคลื่อนตัวเข้าเข้าสู่แดนบวกทำให้ดูราคาเป็นบวก, Fast Stochastic อยู่เหนือเส้น Trigger ทำให้ราคาทีโอกาสกลับตัวลงอยู่เล็กน้อย, ทิศทางตลาดระยะกลางยังคงดูเป็นตลาด Sideways-up โดยจะใช้แนวต้านที่ $960 เป็นต้านระยะกลางที่สำคัญและแนวต้านราคาระยะกลางต่อไปอยู่ที่ $990 ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $912 และ $880
ตาราง 3: แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,250 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,320 หรือที่ $947.70) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ 70 บาท ขณะที่ราคาของ GFQ09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,380 บาท จะมีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 60 บาท ซึ่งมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFQ09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 70+60 = 130 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท แม้ยังคงคุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) และดอกเบี้ยในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้ แต่จะไม่คุ้มกับค่าดอกเบี้ยจ่าย
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ผลประกอบการไตรมาส 2/09 - บริษัทแอปเปิลเปิดเผยผลกำไรที่แข็งแกร่งเกินคาดหลังปิดตลาด ขณะที่บริษัท เมิร์ค แอนด์ โค ก็เปิดเผยผลกำไรที่ดีเช่นกัน แต่ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับผลกำไรได้ถูกกระทบจากการที่บริษัทคาเตอร์พิลลาร์ที่เตือนเกี่ยวกับแนวโน้มที่ยากลำบากในไตรมาสปัจจุบัน แม้ในไตรมาสที่ผ่านมาจะมีผลกำไรที่แข็งแกร่งเกินคาดก็ตาม
ราคาน้ำมัน — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ย. พุ่งขึ้น +$0.32 มาปิดที่ $65.61 ต่อบาร์เรล หลังปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอย่างพลิกความคาดหมายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปริมาณสำรองน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น +3.1 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ค. ส่วนปริมาณสำรองน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.47 แสนบาร์เรล และปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น +1.3 ล้านบาร์เรล โดยมีอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง -2% มาที่ 84% นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากทั้งความหวังเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และจากความกังวลเรื่องความเร็วในการฟื้นตัว หลัง FED แถลงต่อสภา อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าติดตามในคืนนี้ ว่า EIA (ซึ่งสำคัญกว่า API) จะเปิดเผยตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ค. ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ย. อ่อนตัวลง -$0.61 มาอยู่ที่ $65.00 ต่อบาร์เรล
ปัจจัยลบ
ธนาคารกลางสหรัฐ - เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) แถลงต่อสภาคองเกรสว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า จึงยังจำเป็นต้องมีการดำเนินนโยบายหนุนเศรษฐกิจต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้การว่างงานเพิ่มขึ้น ราคาบ้านที่ลดลง และภาวะสินเชื่อตึงตัวไปจำกัดการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเป็นอุปสรรสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและผลกำไรของภาคธุรกิจในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม นายเบอร์นันเก้ ยังมั่นใจด้วยว่า FED จะสามารถยกเลิกมาตรการพิเศษเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันผลกระทบของการใช้นโยบายการผ่อนคลายทางการเงินในเชิงรุก ที่อาจเป็นสาเหตุของเงินเฟ้อ โดยความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ของนายเบน เบอร์นันเก้ ในการต้านเงินเฟ้อนี้อาจจะสร้างแรงกดดันต่อราคาทองในระยะอันใกล้
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกเปิดเผยรายงานบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐอ่อนแอน้อยลงในเดือนมิ.ย. มาที่ -1.80 ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก -2.30 ในเดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนีบ่งชี้การผลิตแข็งแกร่งขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับภาวะถดถอย และการที่ดัชนียังคงติดลบ ได้บ่งชี้ถึงการขยายตัวต่ำกว่าแนวโน้มเป็นเดือนที่ 22 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2007
? CIT Group — CIT Group Inc.เตือนว่าบริษัทอาจยังคงต้องยื่นล้มละลายหากข้อตกลงสว็อปหนี้ล้มเหลวหลังได้รับเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน3พันล้านดอลลาร์จากผู้ถือหุ้นกู้
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น -$0.0009 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4217 จากที่ปิด $1.4226 เมื่อวันก่อนหน้า หลังนายเบอร์นันเก้กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะยังคงอยู่ที่ระดับต่ำต่อไปอีกนาน พร้อมแสดงความวิตกเกี่ยวกับยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐ ได้ถ่วงความต้องการเสี่ยงของนักลงทุนและหนุนดอลลาร์และเยนในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยแทน ขณะที่เช้านี้ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องอีก -$0.0032 มาที่ $1.4185
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาททรงตัวที่ 33.99 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 33.99 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า โดยเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ แม้จะพยายามทดสอบให้ผ่านแนวต้านที่ 34.00 แต่ยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นได้มากนัก เพราะไม่มีแรงขาย ดอลลาร์ออกมาสนับสนุน ขณะที่เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าลง +3 สต. มาที่ 34.02 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.96 บาทและ 33.94 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 34.03 บาทและ 34.08 บาท
กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 21 ก.ค.52 ลดลง -2.13 ตัน จากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,092.41 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.33 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 35.12 ล้านออนซ์
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — คืนนี้ EIA จะเปิดเผยตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ค.โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบอาจลดลง -2.1 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณสำรองน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น +1.5 ล้านบาร์เรล และปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น +8 แสนบาร์เรล โดยมีการใช้อัตรากำลังการกลั่นน้ำมัน ลดลง -0.4%
IMF - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จะลงมติในวันที่ 7 เดือนส.ค.เกี่ยวกับข้อเสนอในการใช้ทรัพยากรที่ไม่เคยถูกใช้มาก่อนเป็นเวลานาน 30 ปี เพื่อเพิ่มทุนสำรองของประเทศสมาชิก 186 ประเทศให้สูงขึ้น 2.50 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศสมาชิกสามารถรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจโลกได้ดียิ่งขึ้น โดยปริมาณ SDR ที่แต่ละประเทศได้รับนั้นจะขึ้นอยู่กับโควต้าของสมาชิกแต่ละรายใน IMF โดยสมาชิกสามารถนำ SDR ไปแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินอื่นเช่น ดอลลาร์สหรัฐ เยน ยูโร หรือปอนด์
ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
Source: Bloomberg
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอในรายงานดังกล่าว นี้เป็นเพียงความคิดเห็นซึ่งนำเสนอโดย บริษัท YLG Bullion International จำกัด โดยบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ จากความเสียหายที่เกิดจากการใช้รายงานหรือข้อความจากรายงานฉบับนี้
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9)
แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512
www.ylgbullion.com