กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--ไมเนอร์ อินเตอร์แนชั่นแนล
ในไตรมาส 2/49 บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์แนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) มีรายได้รวม 2,915 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เนื่องจากธุรกิจอาหารและโรงแรมของบริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตรากำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 6% ในไตรมาส 2/48 เป็น 8% ในไตรมาส 2/49 และกำไรสุทธิต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 0.08 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานงวดหกเดือน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 640.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.22 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในไตรมาส 2/49 บริษัทไมเนอร์ฟูดส์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (MFG) มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 1,519 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมี EBITDA เท่ากับ 303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยที่สนันสนุนการเติบโตในไตรมาสนี้เกิดจาก 1) การรับรู้ผลการดำเนินงานทั้งหมด 100% ของธุรกิจในประเทศจีนที่ MFG เข้าไปลงทุนในช่วงสิ้นปี 2548 2) ยอดขายเฉลี่ยต่อร้านค้าเดิมเพิ่มขึ้น 10% 3) การขยายสาขาเพิ่มใน
ส่วนที่เป็นเจ้าของเองอีก 47 สาขา และ 4) รายได้จากค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น 27% ทั้งนี้ MFG ยังคงมีการขยายแฟรนไชส์เดอะพิซซ่า สเวนเซ่นส์ และซิซซ์เลอร์ ให้กับพันธมิตรในประเทศไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้ MFG มีสาขาแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น 39% เป็น 79 สาขาในไตรมาส 2/49 ซึ่งคิดเป็น 14% ของสาขาทั้งหมด
สำหรับธุรกิจโรงแรมในไตรมาส 2/49 บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจโรงแรมทั้งสิ้น 936 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากโรงแรมที่เพิ่งเปิดให้บริการ ได้แก่ โรงแรม โบดูฮูรา ที่มัลดัฟส์ จำนวน 50 ห้อง และ โรงแรมโฟร์ซีซันส์ เต้นท์แคมป์ ที่เชียงราย จำนวน 15 ห้อง ซึ่งทำให้รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar) โดยรวมเพิ่มขึ้น 13% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 2,596 บาท นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีก 3 แห่ง ภายในปี 2549 นี้ โดยจะผลักดันให้รายได้และกำไรของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) เป็นบริษัทผู้นำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ประกอบไปด้วยธุรกิจอาหารจำนวนสาขาทั้งหมด 585 สาขา ภายใต้เครื่องหมายการค้า เดอะพิซซ่า สเวนเซ่นส์ ซิซซ์เลอร์ แดรี่ควีน เบอร์เกอร์คิง และเลอแจ๊ซ อีกทั้งยังเป็นผู้นำในธุรกิจโรงแรมซึ่งประกอบด้วย 12 โรงแรม และห้องพัก มากกว่า 2,100 ห้อง ภายใต้เครื่องหมายการค้า แมริออทส์ โฟร์ซีซั่นส์ อนันตรา และในเครือไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล ทั้งในประเทศ
ไทย มัลดีฟส์ และเวียดนาม ในขณะเดียวกันบริษัทเป็นพันธมิตรกับ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมลงทุนในการสร้าง Marriott Vacation Club Time Share ที่ภูเก็ต จำนวน 144 ห้อง นอกจากนี้ MINT ยังเป็นผู้ให้บริการด้านสปาที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค โดยมีสถานบริการ 20 แห่ง ในประเทศไทย จีน และประเทศแถบตะวันออกกลาง ภายใต้เครื่องหมายการค้า "Mandara" "The Spa" และ "Anantara" รายละเอียดเพิ่มเติมเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซด์ www.minornet.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
Pratana Manomaiphiboon / Prapharat Tangkawattana / Jim Fralick at
Tel: (662) 381-5151