กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัด การประชุมสมัชชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา ครั้งที่ 8 (วทน.) “สร้างชาติด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม” ขึ้น ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ ศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทค บางนา โดยการประชุมครั้งนี้จะเน้นเรื่องของการสร้างงาน สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้เปิดงานและปาฐกถาพิเศษเรื่อง “สร้างชาติด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม”
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในการปาฐกถาว่า รัฐบาลได้กำหนดให้เรื่องการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรมเป็เนนโยบายหลัก และพร้อมสอดแทรกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในทุกมิติของการพัฒนา โดยให้มีการส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยขั้นพื้นฐาน และการวิจัยประยุกต์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ภาคอุตสาหกรรม การพัฒนาคุณภาพชีวิต และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในอนาคต อาทิ เทคโนโลยีอวกาศ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน และเทคโนโลยีความมั่นคง เป็นต้น รวมทั้งยังมีการเร่งรัดการผลิตบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยให้มีการลงทุนร่วมทั้งภาครัฐและเอกชนในการวิจัยมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความพยายามของรัฐบาลในการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะสั้น และระยะกลาง โดยมีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ด้วยการลงทุนของภาครัฐ โดยตั้งเป้าหมายในการสร้างตำแหน่งงานใหม่จำนวน 1.6 ล้านคนภายใน 3 ปี และภายใต้แผนงานดังกล่าวได้มีแผนงานยกระดับคุณภาพการศึกษา การเรียนรู้ทั้งระบบให้ทันสมัย โดยในส่วนของกระทรวงวิทย์ฯได้รับการสนับสนุนงบประมาณภายใต้โครงการประเภท 1 ในวงเงินกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาปัจจัยที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาของประเทศบางด้าน เรายังห่างจากนานาชาติอยู่พอสมควร เมื่อเทียบสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GERD/GDP) ประเทศไทยมีสัดส่วนในระดับต่ำคือ 0.25% ซึ่งต้องพยายามหาทางกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในเรื่องนี้เพิ่มขึ้น
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการการสร้างกลไกการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในรูปของการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(กรอ.วท.)เพื่อยกระดับความ สามารถในการแข่งขันของประเทศ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาคเศรษฐกิจ และยังนำมาซึ่งการเพิ่มรายได้ของประชาชน ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจท้องถิ่น และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาสังคมอีกด้วย
ด้าน ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึง การจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(กรอ.วท.) ว่าการประชุมสมัชชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 8 จะเป็นโจทย์ตั้งต้นสำหรับการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อนำวทน.ไปสนับสนุนภาคการผลิตและบริการให้มีประสิทธิภาพและผลผลิตที่สูงขึ้น รวมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายระหว่างผู้มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่มูลค่า (Value Chain)
สำหรับการประชุมครั้งนี้ได้มีการระดมความคิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ ผู้แทนชุมชน นักวิชาการ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงบทบาทของ วทน.ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อรัฐบาลต่อไป เช่น ภาคการเกษตรและอาหาร ซึ่งประเทศไทยถือเป็นผู้ส่งออกอาหารที่สำคัญของโลก ในอนาคตการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศจะเข้มข้นขึ้น ดังนั้นมาตรฐานและความปลอดภัยของสินค้าจะเป็นเงื่อนไขที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องมีความสามารถทางเทคโนโลยีที่สูงเพียงพอ และมีนวัตกรรมที่สามารถนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดจึงต้องได้รับการพัฒนา
นอกจากนี้ยังมีการระดมความเห็นของภาคอุตสาหกรรมการผลิต จากมุมมองของอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์และปิโตรเคมี ซึ่งต้องการเพิ่มขีดความสามารถเรื่องการออกแบบและวิศวกรรมเชิงสร้างสรรค์ รวมทั้งองค์ความรู้ด้าน ICT ส่วนภาคของโลจิสติกส์และการท่องเที่ยว ซึ่งมีส่วนแบ่งใน GDP สูงมาก วทน.จะเข้าไปช่วยปรับปรุงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ทันสมัยในระดับสากล ทั้งนี้ กระทรวงวิทย์ฯมีนโยบายการเร่งสร้างตลาดออนไลน์ให้กับผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวด้วย
ในส่วนของภาคสังคมและชุมชน วทน.จะเข้าไปสนับสนุนการพัฒนาสินค้าวิสาหกิจชุมชน การรักษาและพัฒนาสิ่งแวดล้อมในชุมชน และให้ประชาชนเข้าถึงความรู้ เทคโนโลยีใหม่ๆที่สามารถยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่นได้อย่างเหมาะสม มีกรณีศึกษาของชุมชนวิทยาศาสตร์ หมู่บ้านวิทยาศาสตร์จำนวน 30 แห่ง รวมถึงการยกเครื่องเรื่องการพัฒนากำลังคนด้าน วทน.ที่จะมีการเสนอแนะและระดมความเห็นที่เหมาะสมต่อไปว่าจะเดินไปในทิศทางใด
สำนักงานปลัดกระทรวง สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์
โทร. 0 2354 4466