กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--บีโอไอ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ-เอกชน จัดกิจกรรมรับนักธุรกิจชั้นนำชาวจีน 300 ราย จากทั่วโลก ทั้งการสัมมนาครั้งใหญ่ การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ และนำนักธุรกิจจีนชมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และความพร้อมของสาธารณูปโภคต่างๆ ตั้งเป้าขยายมูลค่าการลงทุนและการค้าร่วมกัน 20,000 ล้านบาท
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 26-29 กรกฎาคม 2552 นี้ กระทรวงอุตสาหกรรม จะร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของไทย อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หอการค้าไทย สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยจีน เป็นต้น จัดกิจกรรมต้อนรับสมาชิกจากสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลกที่จะเดินทางมาประเทศไทยประมาณ 300 ราย เพื่อเป็นการสร้างโอกาสอันดีในความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างไทย-จีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการลงทุนและการค้าระหว่างไทยจีน ในปี 2552-2553 ให้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท
โดยกิจกรรมสำคัญ จะประกอบด้วย การจัดสัมมนาของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2552 ที่ โรงแรมดุสิตธานี พัทยา เพื่อชี้แจงนโยบาย และโอกาสการลงทุนในประเทศไทย รวมทั้งศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นฐานการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาค
นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการเจรจาจับคู่ ทางธุรกิจ เพื่อขยายโอกาสการซื้อขายสินค้า การร่วมทุน ตลอดจนการซื้อขายเครื่องจักรและเทคโนโลยีร่วมกันระหว่างนักธุรกิจจีน และนักธุรกิจไทย โดยในเบื้องต้นนักธุรกิจจีนทั้งหมด สนใจเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่กับนักธุรกิจไทยที่แจ้งความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้แล้ว 400 ราย ครอบคลุมกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเกษตร อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และท่องเที่ยว เป็นต้น
สำหรับวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 กระทรวงอุตสาหกรรม โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จัดให้มีกิจกรรมเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ได้ทราบศักยภาพด้านการผลิตและสาธารณูปโภคของไทย พร้อมกับจัดพบปะร่วมกันระหว่างกลุ่มนักธุรกิจจีนที่สนใจ และผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมของไทยอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
“สมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีน เป็นสมาคมขนาดใหญ่ มีสมาชิกกว่า 3 แสนราย มีบริษัทที่ติดอันดับ 500 บริษัทแรกของโลกหลายราย และมีนักธุรกิจจีนรายใหญ่จำนวนมาก ที่ มีศักยภาพสูงที่จะไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งการเดินทางมาประเทศไทยของสมาชิกจำนวน 300 ราย ครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญทำให้การค้าและการลงทุนกับประเทศไทยคึกคักมากยิ่งขึ้น ช่วยขยายการค้าและการลงทุนเดิมของไทยที่ประสบภาวะตกต่ำ และจะเป็นการสร้างโอกาสและขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและจีนได้อีกมาก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว
นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ นับเป็นผลจากความสำเร็จของการจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุน และเปิดสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ กรุงปักกิ่ง ในเดือน เมษายน 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี มีผู้แทนจากภาครัฐ และเอกชนให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมของบีโอไอกว่า 1,000 ราย โดยการเจรจาจับคู่ธุรกิจร่วมกันระหว่างนักธุรกิจไทยและจีนประสบความสำเร็จ มีการลงทะเบียนจับคู่ทางธุรกิจได้ถึง 80 ราย โดยสาขาการลงทุนที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนฝ่ายจีนเป็นพิเศษ อาทิ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติก อาหารแปรรูป เครื่องมือทางการแพทย์ โครงสร้างโลหะที่ใช้ในการก่อสร้าง หรืออุปกรณ์สำหรับงานอุตสาหกรรม และพลังงานทดแทน
สำหรับประเทศจีน เป็นประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรงดังเช่นประเทศอื่น ๆ โดยคาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2552 จะยังอยู่ในระดับสูงถึงร้อยละ 8 ในขณะเดียวกันยังมีแนวโน้มด้านการลงทุนที่ดีในประเทศไทย โดยสถิติการลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมจากบีโอไอมีตัวเลขสูงขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และสูงสุดในปี 2550 โดยมีมูลค่า 15,856 ล้านบาท