กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ประกาศจ่ายเงินปันผล 3% สำหรับผลประกอบการครึ่งปี 2552 ( 1 มกราคม — 30 มิถุนายน 2552)

ข่าวทั่วไป Tuesday July 28, 2009 11:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนรวมวายุภักษ์ และกรรมการในคณะกรรมการลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ได้แถลงผลการดำเนินงานรอบครึ่งปี 2552 ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ว่าจะจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปี 2552 สำหรับนักลงทุนทั่วไปในอัตราร้อยละ 3.0 หรือเท่ากับ 0.30 บาทต่อหน่วย และนักลงทุนประเภท ข.ในอัตราร้อยละ 0.00 หรือเท่ากับ 0.00 บาทต่อหน่วย ที่ประชุมคณะกรรมการการลงทุนมีมติเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2552 อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับรอบผลการดำเนินงาน 1 มกราคม — 30 มิถุนายน 2552 ในอัตราร้อยละ 3.0 สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. หรือนักลงทุนทั่วไป โดยพิจารณาจากรายได้จากการลงทุนสุทธิรวมกับกำไร(ขาดทุน)ที่เกิดขึ้นจริง สำหรับงวดครึ่งปี 2552 เท่ากับ 2,657.83 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2551 ที่ 6,628.24 ล้านบาท และมีผลกำไรจากการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงเท่ากับ 7,330.63 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับผลขาดทุนจากการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงในงวดเดียวกันของปี 2551 ที่มีผลขาดทุน 4,596.81 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 เท่ากับ 9,988.46 ล้านบาท โดยกองทุนได้รับผลบวกจากสภาวะตลาดตราสารทุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย SET Index งวดครึ่งปี 2552 ปรับเพิ่มขึ้น 32.8% เนื่องจากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวในปลายปี 2552 ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลรายปีในอัตราร้อยละ 3.0 สำหรับนักลงทุนประเภท ก. เป็นระดับที่ใกล้เคียงกับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ที่ประมาณ 2.90% และสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี ที่ประมาณ 1% โดยตลาดหลักทรัพย์จะประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 6 สิงหาคม 2552 ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ จะทำการปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 11 สิงหาคม 2552 และผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลในวันที่ 25 สิงหาคม 2552 กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง มีขนาดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ 30 มิถุนายน 2552 เท่ากับ 143,009.99 ล้านบาท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนของนักลงทุนประเภท ก (นักลงทุนทั่วไป) เท่ากับ 10.7572 บาท กองทุนเป็นกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่นซึ่งมีนโยบายการลงทุน ทั้งในตราสารแห่งทุนและตราสารแห่งหนี้ โดยปัจจุบันลงทุนในตราสารแห่งทุนประมาณ 85% และ ตราสารแห่งหนี้ ประมาณ 15%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ