กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มลดลง ซึ่งเป็นการปรับตัวตามแรงขายทำกำไรระยะสั้นในตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังสหรัฐฯประกาศตัวเลขยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 11% ซึ่งสูงสุดในรอบ 8 ปี อย่างไรก็ตาม จากผลของตัวเลขเศรษฐกิจทั้งทางฝั่งยุโรปและสหรัฐฯที่ออกมาดีต่อเนื่องนั้น จะยังคงเป็นแรงผลักให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงต่อได้อีก ซึ่งหมายถึงการเข้าซื้อสะสมทองคำเพิ่มเพื่อเป็นทางเลือกในการคงมูลค่าของค่าเงินดอลลาร์จะยังคงดำเนินต่อไป (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป)
กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source : Bisnews (Daily)
Source : Bisnews (30 Min)
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นเป็นบวก, MACD 30 นาทีเคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบทำให้ดูราคาเป็นขาลง, MACDF เคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบทำให้ดูราคาเป็นขาลง, Fast Stochastic เคลื่อนตัวขึ้นทำให้ราคาดูเป็นบวก, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 49.894 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $947-$959 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.89-฿34.99
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางเป็นบวก, RSI อยู่ที่ระดับ 72.142 ถือเป็นระดับ overbought ทำให้ดูว่าราคามีโอกาสปรับตัวลง, MACD เคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกและได้ตัดเส้น Trigger จากด้านล่างทำให้ดูราคาเป็นขาขึ้น, MACDF เคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกทำให้ดูราคาเป็นบวก, Fast Stochastic เคลื่อนตัวลงทำให้ราคามีโอกาสกลับตัวลงอยู่เล็กน้อย, ทิศทางตลาดระยะกลางยังคงดูเป็นตลาด Sideways-up โดยจะใช้แนวต้านที่ $960 เป็นต้านระยะกลางที่สำคัญและแนวต้านราคาระยะกลางต่อไปอยู่ที่ $990 ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $927 และ $912
ตาราง 3: แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 2 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,350 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,380 หรือที่ $952.20) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ 30 บาท ขณะที่ราคาของ GFQ09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,460 บาท จะมีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 80 บาท ซึ่งมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFQ09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 80+30 = 110 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท จึงยังไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) และดอกเบี้ยในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ เพิ่มขึ้นมาที่ 3.84 แสนยูนิตในเดือนมิ.ย. หรือเพิ่มขึ้นราว 11% MoM สูงสุดในรอบ 8 ปีจาก 3.42 แสนยูนิตในเดือนพ.ค. บ่งบอกถึงตลาดที่อยู่อาศัยกำลังฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำและภาวะเศรษฐกิจก็มีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้นักลงทุนพร้อมลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงรอดูรายงานตัวเลขมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในวันศุกร์ ซึ่งตลาดคาดว่า GDP จะหดตัวเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน
ภาวะเศรษฐกิจเยอรมัน — ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมันพุ่งขึ้นมาที่ 3.5 ในเดือนส.ค. สูงสุดในรอบ 14 เดือน จาก 2.9 ในเดือนก่อนหน้าและมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 2.9 อีกด้วย ส่งผลให้ยูโรแข็งค่าขึ้น พร้อมๆ กับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นด้วย ขณะที่เงินเยนก็อ่อนค่าลง บ่งบอกถึงความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์อ่อนค่าลง +$0.0039 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4241 จากที่ปิด $1.4202 เมื่อวันก่อนหน้า หลังตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมันและตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐพุ่งขึ้น ซึ่งได้ช่วยหนุนยูโรเมื่อเทียบดอลลาร์ และกระตุ้นความต้องการเสี่ยงของนักลงทุน ขณะที่เช้านี้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น -$0.0009 มาที่ $1.4232
ราคาน้ำมันดิบ — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ย. ขยับขึ้นอีก +$0.33 มาปิดที่ $68.38 ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจแสดงถึงเศรษฐกิจสหรัฐและยูโรโซนมีเสถียรภาพ + ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง + การขยับขึ้นต่อเนื่องของตลาดหุ้นทั่วโลก ได้เพิ่มการคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ย. อ่อนตัวลง -$0.12 มาอยู่ที่ $68.26 ต่อบาร์เรล
ปัจจัยลบ
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น -1 สต. มาปิดที่ 33.94 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 33.95 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า โดยเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ปริมาณธุรกรรมค่อนข้างเบาบาง ขณะที่เช้านี้เงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงราว +3 สต. มาที่ 33.97 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.89 บาทและ 33.85 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 33.99 บาทและ 34.05 บาท
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกเปิดเผย ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์ร่วงลงอีกครั้ง 0.3% สู่ 78.1 ในเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 1993 โดยได้รับผลกระทบจากความอ่อนแอของภาคการผลิตเครื่องจักร โดยดัชนีร่วงลงจากระดับ 78.3 ในเดือนพ.ค.
คาดการณ์อัตราดอกเบี้ย - ประธาน Fed ของ Philadelphia นาย Charles Plosser ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคนที่เป็นห่วงเรื่องเงินเฟ้อมากที่สุดคงหนึ่งออกมาบอกว่า น่าจะมีความจำเป็นที่ Fed จะต้องขึ้นอัดตราดอกเบี้ยในเวลาอันใกล้นี้ และน่าจะเกิดขึ้นในช่วงที่การว่างงานยังสูงอยู่ และถึงแม้ว่าเขาจะไม่วิตกต่อเงินเฟ้อในระยะใกล้ แต่เชื่อว่าปลายปี 2010 หรือ 2011 ระดับเงินเฟ้อจะน่าเป็นห่วง
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 27 ก.ค.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,086.61 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.33 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34.94 ล้านออนซ์
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — คืนนี้
Conference Board จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ค. โดยรอยเตอร์คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจะอยู่ที่ 49.0 ในเดือนก.ค. ลดลงจาก 49.3 ในเดือนมิ.ย.
S&P/K จะเผยราคาบ้านเดือนพ.ค. โดยรอยเตอร์คาดว่า ราคาจะลดลง -0.5% ในเดือนพ.ค. จากที่ลดลง -0.6% ในเดือนเม.ย. และเมื่อเทียบเป็นรายปีราคาบ้านจะลดลง -17.9% ในเดือนพ.ค. ปีนี้ เมื่อเทียบกับที่ลดลง -18.1% ในเดือนพ.ค. ในปี 2008
ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
Source: Bloomberg
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอในรายงานดังกล่าว นี้เป็นเพียงความคิดเห็นซึ่งนำเสนอโดย บริษัท YLG Bullion International จำกัด โดยบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ จากความเสียหายที่เกิดจากการใช้รายงานหรือข้อความจากรายงานฉบับนี้
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9)
แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com