กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--ปตท.
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น โดยยอดขายบ้านมือสองในเดือน มิ.ย. 52 ที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 11% และนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ จะมีปริมาณลดลง รวมถึงการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องของเงินเหรียญสหรัฐฯ ทำสถิติต่ำที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์ ประกอบกับเหตุการณ์ความไม่สงบในไนจีเรียยังคงลุกลามจนอาจกลายเป็นความขัดแย้งทางศาสนา ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยเฉพาะน้ำมันสำเร็จรูป ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวันนี้ (28 ก.ค. 52) ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 68.65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 สิงคโปร์ เพิ่มขึ้นอีก 5.2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ประมาณ 1.14 บาท) มาอยู่ที่ 78.32 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลราคาสูงขึ้นอีก 4.3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ประมาณ 0.95 บาท) มาอยู่ที่ 76.73 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปตท.จึงมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทั้งกลุ่มเบนซินและกลุ่มดีเซล 80 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (29 ก.ค.52) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E 85 พลัส) 21.92
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E 20 พลัส) 28.24
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 30.54
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 29.74
น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 34.14
น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 25.29
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 28.09
ฝ่ายสื่อสารองค์กร ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2571
โทรศัพท 0 2537 2517, 2572