กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายฝึกซ้อมการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ด้านสาธารณภัย ประจำปี ๒๕๕๒ (C-MEX ๐๙) โดยจำลองสถานการณ์แผ่นดินไหวขนาดรุนแรงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เพื่อทดสอบความพร้อมในการปฏิบัติงานตามแผนบริหารวิกฤตการณ์และตอบโต้สถานการณ์ภัยพิบัติ และเปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พัฒนาปรับปรุงการปฏิบัติงานภายใต้การจำลองสถานการณ์ภัยพิบัติ ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศมีเอกภาพ และประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย และหน่วยงานภาคีเครือข่ายฝึกซ้อมการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ด้านสาธารณภัย ประจำปี ๒๕๕๒ (C-MEX ๐๙) โดยจำลองสถานการณ์แผ่นดินไหวขนาดรุนแรงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งแบ่งการฝึกซ้อมแผนฯ เป็น ๒ รูปแบบ ได้แก่ การฝึกปัญหาในที่บังคับการ (Command Post Exerise : CPX) ในลักษณะของการประสานการปฏิบัติการ ในภาวะฉุกเฉินด้านต่างๆ เช่น บุคลากร ยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ เครื่องมืออุปกรณ์กู้ภัย เครื่องมือสื่อสาร เครื่องมือทางการแพทย์ และเครื่องยังชีพสิ่งของบรรเทาทุกข์ เป็นต้น โดยได้ดำเนินการเสร็จไปแล้วเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน — ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒ สำหรับการฝึกปฏิบัติภาคสนาม (Field Training Exercise : FTX) กำหนดดำเนินการในวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยนำสถานการณ์ภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงเป็นสถานการณ์หลัก
ในการฝึกซ้อมและจำแนกพื้นที่การฝึกซ้อมเป็น ๕ จุดหลัก ดังนี้ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ ๗๐๐ ปี เป็นสถานที่ตั้ง ศูนย์บัญชาการสถานการณ์วิกฤต โรงพยาบาลสนาม การบริหารจัดการศพผู้เสียชีวิต จุดรองรับการอพยพ การสาธิต การกู้ภัย โรงเรียนนวมินราชูทิศ พายัพและโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เป็นสถานที่ฝึกซ้อมอพยพหนีภัยของนักเรียน อ่างเก็บน้ำห้วยสะลวง ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม เป็นสถานที่ฝึกซ้อมอพยพประชาชนการค้นหาผู้เสียชีวิตและสูญหาย หน่วยปฐมพยาบาล และจุดรับ-ส่งผู้บาดเจ็บสาหัสทางอากาศ โรงแรมเชียงใหม่รัตนโกสินทร์ เป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติการตอบโต้เหตุเพลิงไหม้ขั้นรุนแรง และการค้นหา กู้ชีพ กู้ภัย ซึ่งการฝึกซ้อมฯครั้งนี้เป็นการทดสอบความพร้อมในการปฏิบัติงานตามแผนบริหารวิกฤตการณ์และตอบโต้สถานการณ์ภัยพิบัติในด้านวิธีการ ขั้นตอน และทรัพยากร รวมถึงเพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติ อีกทั้งยังเป็นการทบทวนองค์ความรู้ ฝึกฝนทักษะ และปรับปรุงการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงานภายใต้การจำลองสถานการณ์ภัยพิบัติ โดยให้ความสำคัญกับการตัดสินใจ
ของผู้บริหารระดับสูงเป็นหลัก ซึ่งจะส่งผลให้การบริหารจัดการสาธารณภัยในภาพรวมของประเทศมีเอกภาพ ประสิทธิภาพ และทันต่อสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น