กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง
รับรู้กำไรสุทธิจากผลการดำเนิน 6 เดือนแรกปี 2552 จำนวน 3,900 ล้านบาท
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) แถลง ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2552 ฉบับก่อนสอบทานโดยผู้สอบบัญชี มีกำไรสุทธิ 3,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 31.33% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.69 บาท ขณะที่ผลการดำนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2552 ฉบับก่อนสอบทาน บริษัท มีกำไรสุทธิ 2,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 62.48% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.42 บาท
นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 และช่วง 6 เดือนแรกของปี 2552 เป็นที่น่าพอใจ และยังสะท้อนถึงความพยายามของบริษัทในการดำเนินงานตามแผนให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่งผลให้กำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรก เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนหน้า จำนวน 930 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2 ปีนี้ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 791 ล้านบาท เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับ ผลการดำเนินงานเด่นในช่วง 6 เดือนแรก บริษัทสามารถเจรจาลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของบริษัท ผลิตไฟฟ้าราบุรี จำกัด ซึ่งช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลงเป็นเงินจำนวน 540 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาอายุเงินกู้ที่เหลือ นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในโครงการประเภทโรงไฟฟ้าขนาดเล็กและเล็กมาก (SPP & VSPP) เพิ่มขึ้น โดยลงทุนในส่วนขยายของโครงการโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่า จังหวัดสุโขทัยเพิ่มอีก 35 ล้านบาท ได้กำลังผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 2.625 เมกะวัตต์ และยังได้ซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซัสเทนเนเบิล เอนเนอยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 60 เมกะวัตต์ เพิ่มเป็น 30% ทำให้บริษัทมีกำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 18 เมกะวัตต์
ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2 ประจำปี 2552 ฉบับก่อนสอบทาน มีกำไรสุทธิ 2,056.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าจำนวน 790.87 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 62.48% มีรายได้รวม 9,652.88 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ค่าขายไฟฟ้าจำนวน 8,901.08 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับจำนวน 62.46 ล้านบาท รายได้ค่าบริการและรายได้อื่นๆ รวม 83.16 ล้านบาท นอกจากนั้นบริษัท ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในกิจการร่วมค้าจำนวน 606.18 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 7,077.87 ล้านบาท ประกอบด้วย ต้นทุนขายจำนวน 6,894.06 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหารและค่าใช้จ่ายอื่นๆ จำนวน 183.81 ล้านบาท ขณะที่ดอกเบี้ยจ่าย มีจำนวน 227.03 ล้านบาท ลดลงจาก ไตรมาสที่ 2 ปี 2551 (316.70 ล้านบาท) จำนวน 89.67 ล้านบาท หรือ 28.31% จากการชำระคืนเงินต้นทุกไตรมาส รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยจ่ายที่ต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อน และภาษีเงินได้ มีจำนวน 291.40 ล้านบาท
ในไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้ค่าความพร้อมจ่ายสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวน 636.22 ล้านบาท เพราะอัตราค่าความพร้อมจ่ายในปี 2552 ของโรงไฟฟ้าราชบุรีสูงกว่าปี 2551 ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กอรปกับโรงไฟฟ้าราชบุรีมีการหยุดเดินเครื่องเพื่อบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันบริษัทมีรายได้ค่าพลังงานไฟฟ้าต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 2,048.53 ล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้าราชบุรีมีการหยุดเดินเครื่องตามความต้องการของระบบ (Reserve Shutdown) จึงทำให้ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนหลักลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 26.40
ด้านส่วนแบ่งกำไรในกิจการร่วมค้า ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 บริษัทรับรู้ผลการดำเนินงานของราชบุรีเพาเวอร์เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนตามสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 25 เป็นจำนวน 411.80 ล้านบาท ผลการดำเนินงานของไตร เอนเนอจี้เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนตามสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 50 เป็นจำนวน 131.41 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2552 บริษัท มีกำไรสุทธิ 3,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นเงินจำนวน 930 ล้านบาท
“บริษัทยังคงเดินหน้ามองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมุ่งหวังที่จะสร้างความเติบโตทั้งด้านกำลังผลิตติดตั้งและผลกำไร โดยเรามีเป้าหมายที่จะขยายกำลังผลิตติดตั้งให้ได้ 7,800 เมกะวัตต์ในปี 2559 ซึ่งในขณะนี้เรามีกำลังผลิตติดตั้งที่ได้จากการลงทุนในโครงการต่าง ๆ แล้ว 5,478.37 เมกะวัตต์ โดยเป็นโครงการที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 4,347 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 2 มีความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จประมาณ 85% และคาดว่าจะเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าระยะแรกได้ในปลายปี 2553 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น” นายนพพล กล่าวในท้ายที่สุด
ข้อมูลทั่วไป
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2543 ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ปัจจุบันมีกำลังผลิตติดตั้งรวม 5,478.37 เมกะวัตต์ จากโครงการโรงไฟฟ้าราชบุรี กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น 3,645 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น 350 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น 350 เมกะวัตต์ (โดยทั้ง 3 โครงการตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรี) และโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่า กำลังผลิตติดตั้ง 1.75 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดสุโขทัย ล่าสุดบริษัทได้ลงทุนเพิ่มในส่วนขยายของโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่า กำลังการผลิตติดตั้ง 0.875 เมกะวัตต์ นอกจากนั้น ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่บริษัทได้ลงทุนและอยู่ระหว่างการพัฒนาใน สปป. ลาว อีก 4 โครงการ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ - น้ำงึม 2 กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น 153.75 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ — น้ำงึม 3 สัดส่วนกำลังผลิตติดตั้งประมาณ 110 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย สัดส่วนกำลังการผลิตติดตั้ง 93 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าหงสา สัดส่วนกำลังการผลิตติดตั้ง 751เมกะวัตต์ ด้านโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก บริษัทได้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม จังหวัดเพชรบูรณ์ มีกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น 18 เมกะวัตต์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)ติดต่อ: ดวงแก้ว เธียรสวัสดิ์กิจ หรือ คณุตม์ บุญหนูกลับ โทร. 0 2978 5221-4 อีเมล์ : duangkeawd@ratch.co.th