ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผย 6 เดือนแรก บจ. ระดมทุนแล้วกว่า 3 แสนล้านบาท

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 30, 2009 16:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--ตลท. ครึ่งปีแรก ตลาดหลักทรัพย์ฯ ระดมออกสินค้าใหม่กระตุ้นความสนใจผู้ลงทุนทั้ง Gold Futures DW Single Stock Futures และดัชนีใหม่ FTSE SET Shariah Index และเตรียมออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าเร่งเพิ่มบริษัทจดทะเบียนหลังได้สิทธิประโยชน์จากบีโอไอ ให้ธุรกิจทุกประเภทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนและเข้าจดทะเบียนได้รับยกเว้นภาษีโดยไม่จำกัดวงเงิน ส่วนการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนครึ่งปีแรกสูงถึงกว่า 3 แสนล้านบาท โดยออกตราสารหนี้มากที่สุดกว่า 2 แสนล้านบาท นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รายงานผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรก ต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการประชุมเมื่อ 29 กรกฎาคม 2552 ว่า ภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรก และปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 2 ทำให้มีการกลับเข้ามาซื้อขายเพิ่มขึ้น โดย อันเป็นผลมาจากมุมมองของนักลงทุนต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น โดยในช่วง 6 เดือนแรก มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรวมในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) อยู่ที่ 15,126 ล้านบาทต่อวัน ในขณะที่ตลาดอนุพันธ์ (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 10,678 สัญญาต่อวัน ส่วนการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต มีมูลค่ารวม 363,817 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.2 ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ( SET Index ) ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2552 ปิดที่ 597.48 ปรับตัวสูงขึ้นจากสิ้นปี 2551 ร้อยละ 33 มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (SET + mai) เท่ากับ 4.77 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 ร้อยละ 33 เช่นกัน สำหรับการซื้อขายแยกตามประเภทผู้ลงทุน ในช่วง 6 เดือนแรก ปรากฎว่าผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 20,128 ล้านบาท ผู้ลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 14,611.77 ล้านบาท ผู้ลงทุนภายในประเทศขายสุทธิ 5,516.23 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นโดยรวมและการเพิ่มสินค้าใหม่ ส่งผลให้มีผู้ลงทุนที่เป็น Active account หรือทำการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น (มีการซื้อขายอย่างน้อย 1 ครั้งในรอบ 1 เดือน) โดย ณ 30 มิถุนายน 2552 มี Active account จำนวน 129,704 บัญชี ขณะที่มีจำนวนบัญชีซื้อขายที่เปิดกับบริษัทสมาชิก จำนวน 549,502 บัญชี สำหรับการระดมทุน (SET + mai) ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทจดทะเบียนมีการระดมทุนด้วยการออกหุ้นสามัญและตราสารหนี้รวม 304,832 ล้านบาท (เป็นการระดมทุนผ่านการออกหุ้นสามัญ จำนวน 12,271 ล้านบาท และผ่านการออกตราสารหนี้ 292,561ล้านบาท) นางภัทรียา กล่าวว่า การดำเนินงานในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา การออกตราสารใหม่มีความรวดเร็วมากขึ้น โดยตราสารใหม่ที่ได้เปิดทำการซื้อขายแล้ว ได้แก่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำ (Gold Futures) Single Stock Futures 11 ตัว และใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หรือ Derivatives Warrant (DW) นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว FTSE SET Shariah Index เพื่อให้เป็นดัชนีอ้างอิงเพื่อการออกตราสารใหม่ ๆ โดยเร็ว ๆ นี้ จะมีการเปิดให้มีการซื้อขายอีทีเอฟที่อ้างอิงดัชนี FTSE SET Large Cap หรือ ThaiDex FTSE SET Large Cap ETF “ในช่วงครึ่งปีหลัง ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนงานต่อเนื่องในการออกสินค้าใหม่ โดยเตรียมการออกกองทุนอีทีเอฟที่อ้างอิงดัชนี FTSE SET Shariah Index และกองทุน Islamic funds ซึ่งจะสามารถดึงดูดความสนใจผู้ลงทุนเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ตลาดอนุพันธ์อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการซื้อขายดอกเบี้ยล่วงหน้า (Interest Rate Futures) เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับผู้ลงทุน” นางภัทรียากล่าว ด้านการเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียนช่วง 6 เดือนแรก มีบริษัทเข้าจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 7 บริษัท (SET 2 บริษัท และ mai 5 บริษัท) มีมูลค่าตามราคาตลาด ณ ราคา ไอพีโอ 6,833 ล้านบาท และมีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อีก 1 กอง มีขนาดกองทุน 1,005 ล้านบาท โดย ปัจจุบันมีบริษัทได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และอยู่ระหว่างรอเข้าซื้อขาย 11 บริษัท (SET 7 บริษัท / mai 4 บริษัท) ด้วยมูลค่าตลาดประมาณ 21,515 ล้านบาท และมีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่รอเข้าจดทะเบียนอีก 3 กองทุน ซึ่งมีขนาด 2,881 ล้านบาท รวมถึงมีบริษัทที่อยู่ระหว่างยื่นคำขอกับสำนักงาน ก.ล.ต. อีก 10 บริษัท (SET 1 บริษัท / mai 9 บริษัท) นางภัทรียากล่าวด้วยว่า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเร่งเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียน หลังจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อนุมัติมาตรการจูงใจให้กิจการทุกประเภทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน และเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน ให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากเดิมที่กำหนดวงเงินภาษีเงินได้ที่ได้รับยกเว้น เป็นไม่จำกัดวงเงินภาษี โดยให้มีผลจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะร่วมกับบีโอไอ จัดสัมมนาให้กับบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมบีโอไอ และบริษัททั่วไป รวมถึงที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้สอบบัญชี ให้ทราบถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน พร้อมทั้งร่วมโรดโชว์กับบีโอไอ และเข้าพบบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีบริษัททั้งขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ในกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญที่มีอัตรากำไรต่อเงินลงทุนสูงกว่าที่ BOI กำหนด อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมเบา เข้าจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังให้ความสำคัญและดูแลบริษัทที่เข้าจดทะเบียนแล้วอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เข้าพบเพื่อให้คำแนะนำแก่บริษัทจดทะเบียน ทั้งด้านการสร้างมูลค่าเพิ่ม และรับฟังข้อคิดเห็นทั้งด้านกฎเกณฑ์ การดำเนินงานด้านต่าง ๆ แล้ว 141 บริษัท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 200 บริษัท” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222 สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กนกวรรณ เข็มมาลัย โทร. 0-2229 — 2048 วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ