กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--ไทยประกันภัย
ไทยประกันภัย ประกาศแผนเน้นทำตลาดเชิงรุก ปีนี้ขอโตแบบก้าวกระโดด 40% เน้นกลยุทธ์สร้างแบรนด์ต่อเนื่อง เตรียมขยายช่องทางหาลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่ม พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่รองรับความต้องการลูกค้า
คุณพณิตา ตู้จินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้ว่ามีเบี้ยประกันภัยรับ 218.9 ล้านบาทมากกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 42.5% โดยเบี้ยรับที่มีมากกว่างบประมาณคือ เบ็ดเตล็ด และรถยนต์ทั้งนี้เบี้ยประกันงานเบ็ดเตล็ดมีจำนวน 55.6 ล้านบาทสูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนถึง 168.9% เนื่องจากมีการขยายตัวในประเภทของงานอุบัติเหตุส่วนงานประกันภัยรถยนต์มีเบี้ยรับ 105.1 ล้านบาทสูงกว่างวดเดียวของปีก่อนอยู่ 28.3% เนื่องจากการขยายช่องทางการขายมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเงินทุนและเช่าซื้อ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ Tele Marketing ที่ทาง ไทยประกันภัยได้ทำมานับปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว
ในไตรมาสแรก บริษัทฯ มีกำไรจากการรับประกันภัย 41.8 ล้านบาทสูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 39.7% และบริษัทมีกำไรสุทธิ 12.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนคิดเป็น 77%
สำหรับแนวโน้มธุรกิจประกันภัยในปีนี้คาดว่าจะมีการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 10.4 ถึงร้อยละ 11.8 หรือมีเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นประมาณ 11,400-13,440 ล้านบาท เนื่องจาก GDP น่าจะขยายประมาณ 4.5-5.5% แต่การแข่งขันในธุรกิจประกันภัยยังคงทวีความรุนแรงกันมากขึ้นโดยเฉพาะด้านราคา ในปีนี้ทางบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าการเติบโตที่ 40% หรือเบี้ยประกันภัยรับประมาณ 1,051 ล้านบาทซึ่งเป็นการตั้งเป้าการเติบโตแบบก้าวกระโดด หลังจากประสบความสำเร็จโตตามเป้าที่ตั้งไว้ในปีที่ผ่านมาคือ 25% นับเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แน่นอน ทั้งนี้บริษัทมีความพร้อมทั้งในเรื่องของบุคลากร การพัฒนากระบวนการทำงาน และการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน ตลอดจนการขยายช่องทางการขาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างพันธมิตร หรือคู่ค้า และตัวแทนเพิ่มขึ้น มีการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน และให้ความสำคัญในการเสริมสร้างประสิทธิภาพด้วยการเพิ่มพูนความรู้ จัดอบรม/สัมมนา
เกี่ยวกับการประกันภัยให้เกิดความเข้าใจ และบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิผล พร้อมทั้งในปีนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมการรองรับการขยายงานและเพื่อการเพิ่มขนาดของฐานเงินกองทุนให้เพียงพอในอนาคตที่จะรองรับการเปิดเสรีทางการค้าและเพิ่มความคล่องตัวในการลงทุน โดยมีแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 100 ล้านบาทและ 200 ล้านบาทโดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมทั้งจำนวนในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1.08 หุ้นละ 14 บาท (Par 10 บาท)
ในปีนี้บริษัทฯ ได้มีการวางแผนการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น โดยกลยุทธ์ที่ใช้ในปีนี้จะยังคงเน้นในเรื่องของการทำให้ประกันภัยเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ อย่างต่อเนืองเพื่อสร้างภาพลักษณ์และการจดจำในใจของผู้บริโภค โดยปีนี้เน้นให้จดจำให้ได้ว่าไทยประกันภัยคือผู้นำด้านบริการประกันวินาศภัย หลังจากปีที่ผ่านเน้นเรืองประกันภัยรถยนต์เป็นหลัก ซึ่งก็ได้รับผลการตอบรับค่อนข้างดี นอกจากนี้บริษัทฯ ยังต้องการขยายฐานตลาดเพิ่มขึ้นโดยจะทำการมุ่งหาตลาดใหม่ๆ เน้นที่ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อย ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง SMEs และผู้ไม่เคยทำประกันภัยมาก่อนซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังได้วางแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งเน้นการทำประกันภัยให้ง่ายสำหรับลูกค้าที่ต้องการทำประกันภัย โดยบริษัทฯ ออกกรมธรรม์ที่ครอบคลุม และสะดวกสำหรับลูกค้า ทำเป็น Package ออกมาในปีนี้คือ
1. Package ประกันอัคคีภัย — Home Insurance Package เป็นการประกันภัยที่ครอบคลุมถึงภัยหลายประเภทที่อาจจะเกิดขึ้นกับบ้านที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นอัคคีภัย โจรกรรม ความเสียหายต่อทรัพย์สินจากการโอนย้าย และอีกหลายอย่าง โดยที่ลูกค้าสามารถเลือกให้เหมาะสมกับบ้าน และความต้องการได้ ซึ่งมีPackageให้เลือก 2 แบบคือ Home และ Home plus โดยประกันภัยแบบ Home เป็นการประกันอัคคีภัยแบบ Fire Plus และสำหรับประกันภัยแบบ Home Plus เป็นการประกันอัคคีภัยแบบ All risk ซึ่งแบบนี้เป็นประกันภัยครอบคลุมในส่วนของความคุ้มครองโจรกรรมไม่ปรากฏร่องรอยงัดแงะด้วย
2. Package SME insurance เป็นการประกันภัยสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยบริษัทฯคิดให้ครอบคลุมตั้งแต่อาคารสถานที่ ไปจนถึงพนักงาน นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นคือ อัตราเบี้ยประกันภัยที่คุ้มค่าต่อความคุ้มครอง เมือเทียบกับมูลค่าธุรกิจ อาทิ ธุรกิจมูลค่าประมาณ 1 ล้านจะเสียค่าเบี้ยประกันเพียง 1,700 บาท เมือคิดเป็น % คือ 0.17%
นางสาวพณิตา ตู้จินดา
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)