กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--สหมงคลฟิล์ม
ผ่านการฝึกหนัก 4 ปีและโชว์แอ็คชั่นหลากหลายใน “ช็อคโกแลต” จนพอมาถึงย่างก้าวที่2 “จีจ้า ดื้อสวยดุ” พัฒนาการแอ็คชั่นของสาวบู๊หน้าหวานอย่าง “จีจ้า ญาณิน” ในมุมมองของ ท็อป วีระพล ภูมาตย์ฝน ผู้กำกับและออกแบบฉากแอ็คชั่นที่ปั้นจีจ้ามากับมือยืนยันว่าเหนือชั้นขึ้นเยอะแต่พอมาเจอโจทย์ใหม่ในหนังเรื่องที่2 งานนี้สาวจีจ้าก็ยังต้องผ่านการฝึกฝนเคี้ยวกรำทางด้านแอ็คชั่นอย่างสุดๆ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเดิม แถมกลับมาครั้งนี้เตรียมสารพัดศิลปะการต่อสู้ที่หลากหลายกว่าเดิมมาฝากแฟนๆ โดยเฉพาะฉาก “ดื้อ” สาวน้อยหน้าหวานที่มีนิสัยสมกับชื่อ ขี้เล่น ดุดัน และแสบสันต์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าชายหนุ่มอกสามศอก เกิดอาการอยากลองของอวดวิชา หลังจากบ่มเพาะฝึกฝนความสามารถและศิลปะการต่อสู้มาอย่างช่ำชอง ก็เลยเกิดเป็นฉากไฮไลท์จีจ้าบุกตะลุยเดี่ยวไปยังรังของผู้ร้าย เพื่อช่วยเหลือบรรดาหญิงสาวที่ถูกลักพาตัวมา งานนี้ผกก.ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล และ ผกก.ฉากแอ็คชั่นท็อป-วีระพล พร้อมทีมงานนับร้อยชีวิต และทีมสตันท์ฝีมือดียกกองไปบู๊แหลกันถึงใต้ท้องเรือขนสินค้าจริงๆ โดยให้ทีมงานฝ่ายฉากเนรมิตพื้นที่ที่มีอยู่จำกัดใต้ท้องเรือให้กลายสภาพเป็นรังของผู้ร้ายที่ไว้กักขังเหล่าบรรดาหญิงสาวที่ถูกลักพาตัวมา และเป็นพื้นที่ให้ จีจ้า ญาณิน ได้นำเอาสารพัดศิลปะการต่อสู้ทั้งบีบอย, TRICKZ, เมรัยยุทธ มวยไทย ฯลฯ โชว์ฟอร์มอัดเหล่าร้ายนับสิบคน
“สำหรับในภาพยนตร์นี้คือฉากแรกที่เราจะได้เห็นการต่อสู้ครั้งแรกของจีจ้า โดยจะรวมเอาการต่อสู้ที่เป็นทั้ง trickz, มวยไทย, บีบอย และการต่อสู้ที่เป็นการเต้น และการต่อสู้ที่เป็นศิลปะการต่อสู้หลายๆแขนงผสมผสานอยู่ ทั้งยิมนาสติก ทุกอย่างที่เป็นศิลปะการต่อสู้จะถูกรวมอยู่ในฉากนี้รวมทั้งหมัดเมามวยไทยด้วย ออกมาในอารมณ์ขี้เล่น สนุกสนาน ในฉากนี้เราจะเห็นพัฒนาการแอ็คชั่นการต่อสู้ของจ้าหวือหวาขึ้น เห็นพัฒนาการการต่อสู้ของจ้าที่เยอะขึ้นในหลายๆ รูปแบบ โดยมีการนำเอาความสามารถเฉพาะตัวผสมผสานกับใช้พื้นที่หรืออุปกรณ์รอบๆ ตัว เพราะด้วยดีไซน์ของฉากก็จะเป็นเหมือนใต้ท้องเรือซึ่งก็จะมีตาข่าย, มีทุ่นมีรู ซึ่งจ้าก็จะต้องใช้อุปกรณ์เหล่านั้น และต้องต่อสู้บีบอยบนพื้นราบด้วย และต่อสู้แบบหมัดเมาที่มีคนรุมเยอะๆ”
แต่ถึงกระนั้น ผู้กำกับและออกแบบฉากแอ็คชั่นที่ปั้นจีจ้ามากับมือก็อดทึ่งในสปิริตของลูกศิษย์คนนี้ไม่ได้ เพราะด้วยความยากของคิวแอ็คชั่นรวมไปถึงอุปสรรคของสถานที่ทำให้ต้องใช้เวลาในการถ่ายทำนานพอสมควรโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นแอ็คชั่นที่แทบไร้อากาศหายใจ
“ถ่ายทำของฉากนี้ยากพอสมควร เพราะใต้ท้องเรือมีรูระบายอากาศเพียงที่เดียวคือทางด้านบน แล้วเรือที่เราถ่ายจอดอยู่กลางแดด พอแดดส่องลงมาโดนเหล็ก เราเหมือนอยู่ในเตาอบพอคนลงไปอยู่เยอะๆ ทำให้หายใจไม่ออก ที่พื้นกับข้างๆเรือจะเป็นฝุ่นสนิมเยอะมาก ทำให้หายใจลำบาก พอเล่นคัทหนึ่ง ก็ต้องขึ้นมาหายใจข้างบนก่อน แล้วค่อยลงไปเล่นหรือถ่ายทำใหม่ในคัทต่อไป ทำให้การถ่ายทำในฉากนี้ต้องใช้เวลานานพอสมควร”
แต่ถึงกระนั้นพอภาพแอ็คชั่นปรากฎบนแผ่นฟิล์มก็สร้างความภูมิใจให้กับทั้งอาจารย์โดยเฉพาะลูกศิษย์สาวดื้อสวยดุอย่างจีจ้าไปแบบเต็มๆ
“ดูในหนังจริงๆ แล้วอาจจะประมาณนาทีครึ่งสองนาทีเองไม่เกินนี้ แต่ก็รู้สึกว่าคุ้มค่านะค่ะ เวลาที่เห็นผลงานของเราเห็นหนังของเราตัดออกมาใช้เวลานานก็เถอะตัดออกมาแค่เนี่ยะ เราเห็นแล้วเราชื่นใจเราเห็นแล้วเราภูมิใจ ดีใจที่แบบเสร็จไปอีกฉากหนึ่งแล้วนะ มันก้าวข้ามมาสเต็ปที่หนึ่งที่สองแล้วนะ ไปถึงสิบแล้วนะ”
อดใจรออีกนิดพิสูจน์ย่างก้าวที่สองของจีจ้าพร้อมกันกับ “จีจ้า ดื้อสวยดุ” 12 ส.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ