ค่าย “เยาวชน ซี.ซี.เอฟ. รวมพลังทำดี ถวายพ่อหลวง”

ข่าวทั่วไป Monday August 3, 2009 13:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. ฯ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. ฯ ได้ตระหนัก และให้ความสำคัญด้านการศึกษาแก่เด็กยากไร้ จึงก่อตั้งกองทุน ซี.ซี.เอฟ. เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยมอบทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนจำนวน 80 คน อย่างต่อเนื่องจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี วัตถุประสงค์ของกองทุน มุ่งเน้นส่งเสริมให้เยาวชน ซี.ซี.เอฟ. ซึ่งมาจากครอบครัวยากไร้ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารได้รับโอกาสทางการศึกษาสูงสุดเท่าที่ความสามารถของตนเองจะอำนวยต้องเป็นสมาชิกของครอบครัว ซี.ซี.เอฟ. และระดับผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์การคัดเลือก มีความมุ่งมั่นที่จะศึกษาให้จบระดับอุดมศึกษา และต้องร่วมกิจกรรมกับมูลนิธิอย่างสม่ำเสมอ จะส่งแต่รายงานผลการเรียนอย่างเดียวไม่พอ เพราะปรัชญาของกองทุนประสงค์ที่จะให้เยาวชนได้รับการศึกษาสูงๆ เพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี ไม่ใช่เป็นเพียงคนเก่งแต่ขาดจริยธรรม ใช้ความเก่งในทางที่ไม่ถูกต้องหรือคดโกงเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ปรัชญาที่สอง คือเยาวชนจะต้องเป็นคนดี& nbsp; “คนดีของสังคม” ด้วย เป็นเพียงคนดีของพ่อแม่ หรือของครอบครัวของตนนั้นยังไม่เพียงพอ เพราะการที่จะเป็นคนดีได้ต้องประพฤติตนตั้งมั่นอยู่ในคุณความดี มีวินัยเป็นรากฐานของการพัฒนาชีวิต คือการฝึกตนเองให้ดีทั้งทางกาย วาจา และทางใจ มีระเบียบในการสัมพันธ์ ติดต่อปฏิบัติจัดการกับสิ่งแวดล้อม ทั้งทางวัตถุ และทางสังคม มีคุณธรรมไม่เบียดเบียนกดขี่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น (เมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซื่อสัตย์ กตัญญู อบรมจิตให้ มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ พากเพียร กล้าหาญ อดทน รับผิดชอบ) กล่าวโดยดร.กรรณชฎา พิริยะรังสรรค์ ผู้อำน วยการมูลนิธิ การเป็นคนดีของสังคม หมายถึงเมื่อตนเองเอาตัวรอดได้แล้ว ก็จะต้องดำเนินชีวิตของตนเองให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม คือการใช้ความรู้ความสามารถของตนให้เป็นที่พึ่งของผู้อื่น โดยแสดงบทบาทเป็น “ผู้ให้” ชดใช้สิ่งที่ตนเคยได้รับกลับคืนไปให้แก่สังคม ซึ่งค่ายเยาวชนรวมพลังทำดีครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เยาวชน “ลงมือทำ” หรือที่เรียกว่า “ปฎิบัติการสร้างความดี” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในความเห็นของซี.ซี.เอฟ. การแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อในหลวง ก็คือการลงมือทำความดีให้เกิดขึ้นจริงๆ และการพากเพียงทำความดีต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อลดทอนปัญหาของสังคม และเพื่อพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างจริงจัง การพร่ำพูดหรือตั้งความปรารถนาโดยไม่ขวนขวายปฎิบัติ ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ค่ายเยาวชนรวมพลังทำดี เป็น “โอกาส” ที่มูลนิธิหยิบยื่นให้แก่เยาวชน เพื่อให้เยาวชนยกระดับการพัฒนาตนเอง ให้ขยายวงกว ้างขวางออกไปจากการที่ได้เคยเป็นแกนนำในมวลหมู่ชาวซี.ซี.เอฟ. ด้วยกัน เป็นการชักชวนให้เพื่อนๆ ในสถาบันการศึกษาเดียวกัน สามัคคี “รวมพลัง” กันสร้างสรรค์ความดีงามในรูปแบบที่ตนเองถนัด และสนใจ เยาวชนที่จะสามารถนำสิ่งที่ตนเรียนรู้จาก “คำพ่อสอน” (พระบรมราโชวาท) ไปปฎิบัติเพื่อปรับปรุงการดำเนินชีวิตของตนเองให้เป็นคนดีได้และคาดหวังว่า เยาวชนเหล่านี้จะเป็น “ต้นแบบ” ช่วยเผยแพร่พระบรมราโชวาทของในหลวงในหมู่เพื่อนๆ และชักชวนเพื่อนๆ ให้สร้าง “ปฎิบัติการความดี” ขยายวงให้กว้างขวางออกไป ถ้าตั้งเป้าว่า เยาวชน 60 กว่าคน แต่ละคนจะขยายผล “ปลูกต้นไม้แห่งความดี” ให้งอกงามขึ้นในหมู่เพื่อนๆ อีก 10 คน ก็จะเกิดปฏิ กิริยาลูกโซ่เป็นเยาวชน 600 คน รวมพลังกัน เกิดเป็น “ต้นไม้แห่งความดี” ถึง 600 ต้น โดยมูลนิธิจะทำหน้าที่เป็นคนกลางในการขยายพันธุ์ต้นไม้แห่งความดี ด้วยการเป็น “สื่อกลาง” เช่น สร้าง Web blog ให้แก่เยาวชนต้นแบบเหล่านี้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกัน และกัน Web blog นี้จะเปิดกว้างให้ผู้อื่นที่สนใจมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น และร่วมสร้างปฏิบัติการ “รวมพลังทำดี” นี้ด้วย คาดว่าภายในระยะเวลา 4 เดือนก่อนที่จะถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่ 5 ธันวาคม เราน่าจะได้เห็น “ต้นไม้แห่งความดี” เจริญงอกงามขยายพันธุ์ ไปได้อย่างขวาง จนกระทั่งกลายเป็น “ป่าแห่งความดี” ขึ้นทั่วประเทศ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. ฯ อยากจะขอเชิญชวนทุกๆ ท่านมีส่วนร่วมในการปลูก “ป่าแห่งความดี” ขึ้นทั่วประเทศเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงของเรา โปรดสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณดวงพร แดงจันทร์ทึก 089 773 60 64 หรือ 02 7 47 2600 ต่อ 401 หรือดู เว็บไซต์ของมูลนิธิได้ที่ www.ccfthai.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ