กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--การกีฬาแห่งประเทศไทย
ทีมคูเวต
นับเป็นความโชคดีอย่างยิ่งของทีมงานจากศูนย์สื่อมวลชนหลักที่ได้รับความกรุณาจาก มร อับดุลลาเมีย อา อัลสาลาเมน คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศคูเวต ขณะที่เดินทางไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา เอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 1 ณ อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก มร อับดุลลาเมีย อา อัลสาลาเมน ได้แนะนำพวกเราให้รู้จักกับ มร ยูเซฟ บูคันดาร์ ในฐานะผู้จัดการทัพนักกีฬาคูเวต ซึ่งทั้งสองอาคันตุกะได้ให้เกียรติสัมภาษณ์ด้วยความเป็นกันเองอย่างมาก
ระหว่างทางจากโรงแรมอิมพีเรียลควีนส์พาร์คโดยรถบัสเพื่อมุ่งสู่สนามกีฬาอินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก มร ยูเซฟ บูคันดาร์ ในฐานะอดีตนักกีฬาบาสเก็ตบอลและผู้จัดการทัพนักกีฬาคูเวตได้กล่าวถึงมุมมองของเขาที่มีต่อการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ท ครั้งที่ 1 ว่า “ประเทศไทยไม่ใช่สถานที่แปลกใหม่สำหรับผม เนื่องจากผมได้มาเยี่ยมเยือนประเทศไทยนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งการนำทัพนักกีฬามาเข้าร่วมแข่งขันที่จังหวัดสุพรรณบุรีและการมาพักผ่อนเองในเวลาว่าง ผู้จัดการทีมนักกีฬาใจดีผู้นี้กล่าวถึง ภูเก็ต พัทยา และกรุงเทพฯ ว่าเป็นสถานที่ในประเทศไทยที่เขาชื่นชอบมาก สิ่งหนึ่งที่เขาสนอกสนใจเป็นพิเศษก็คือกีฬามวยไทยของเรา และสำหรับการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ประเทศคูเวตได้ส่งสองนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมแข่งขันในกีฬามวยไทยด้วยเช่นกัน “นักกีฬาสองคนนี้เป็นความหวังใหญ่ของเรา… พวกเขาได้ถูกคัดเลือกมาจากทั่วทั้งประเทศมาอย่างดีแล้ว คือ นานัฟ อามัด และ อาลี ทาเรส์ธ เป็นสองตัวแทนที่จะนำธงชาติของเราขึ้นสู่ยอดเสาเหนือธงชาติอื่นๆ” มร ยูเซฟ บูคันดาร์ กล่าว
ส่วนกีฬาประเภทอื่นที่คูเวตให้ความหวังไว้ก็คือ เทควันโด คาราเต้ และคิกบ๊อกซิ่ง ซึ่งทั้งสามประเภทดังกล่าวนี้เป็นที่นิยมมากในประเทศคูเวต
ทางด้านมุมมองที่มีต่อการแข่งขันในครั้งนี้ มร ยูเซฟ บูคันดาร์ ให้ความเห็นว่า “ในการแข่งขันที่มีนักกีฬาที่มีความสามารถมารวมตัวกันมากมายเช่นนี้ อีกทั้งการแข่งขันระดับนานาชาติที่ใหญ่ขนาดนี้ แน่นอนว่าย่อมจะก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีกันในกลุ่มประเทศในทวีปเอเชียอย่างแน่นอน”
“ถึงแม้ว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย แต่การแข่งขันนี้จะยังอยู่หากจะถูกรวมเข้ากับ เอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ โดยจะจัดการแข่งขันทุกๆ สองปี” และยังกล่าวทิ้งท้ายถึงความมั่นใจที่มีต่อความสามารถของประเทศเจ้าภาพและคณะจัดงานว่า ประเทศไทยเคยประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาเอเชี่ยนเกมส์มาแล้วก่อนหน้านี้ และครั้งนี้ไม่น่าจะมีปัญหาหรือข้อข้องใดๆ ต่อความสำเร็จในการจัดงาน และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นการแข่งขันที่เป็นไปอย่างขาวสะอาดยุติธรรม และได้เห็นธงชาติของคูเวตเชิญขึ้นสู่ยอดเสาด้วย” มร ยูเซฟ บูคันดาร์ กล่าวเสริม
ทีมจีน
จากนั้นทีมงานได้มีโอกาสสัมภาษณ์ มร เกา เตา ผู้จัดการทีมเทควันโดอารมณ์ดีของประเทศจีนและเป็นอีกผู้หนึ่งที่เคยพาทัพนักกีฬาจีนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ เมื่อปี 2541 โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
มร เกา เตา เล่าถึงประสบการณ์ที่ประทับใจมาตั้งแต่การมาเยี่ยมเมืองไทยครั้งนั้นแล้ว “ผมชอบกรุงเทพฯ มันเป็นเมืองที่น่าเที่ยว…แต่รถติดมากๆ” ผู้จัดการทีมเทควันโดให้สัมภาษณ์พร้อมอารมณ์ขัน
เมื่อเราได้พูดถึงการแข่งขันในครั้งนี้ เขาก็ตอบรับออกมาอย่างจริงใจว่าทั้งตัวเขาเองและสมาชิกทัพนักกีฬาประเทศจีนต่างพอใจกันทุกคนในเรื่องของการจัดงานก็ดีหรือจะเป็นเรื่องของการอำนวยความสะดวกก็ดี ซึ่งรวมถึงที่พักของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ประสานงานต่างๆ “ผมชอบและเห็นด้วยกับสโลแกนของการแข่งขันครั้งนี้คือ ‘The Games of Spirits, The Land of Smiles’ ถ้าจะแปลเป็นภาษาไทยแล้วก็คงจะเป็นดังต่อไปนี้ ‘ดินแดนแห่งรอยยิ้มและจิตวิญญาณของการแข่งขัน’ เรื่องอุปสรรคของเรื่องไข้หวัดใหญ่ 2009 คงไม่ใช่ปัญหาสำหรับตัวเขาและนักกีฬา เขากล่าวด้วยความมั่นใจว่า “พวกเรารู้เรื่องไข้หวัดใหญ่ดีมาก่อนหน้านี้แล้วจากข้อมูลที่ได้มาจากการกีฬาแห่งประเทศจีน แต่มันคงไม่มีผลกระทบใดๆกับพวกเราเป็นอย่างแน่นอน” เราถามถึงความพร้อมและความมั่นใจของทั้งตัวนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ มร เกา เตา ตอบอย่างหนักแน่นว่า “รัฐบาลของเราให้ความสนับสนุนเป็นอย่างดีมาตลอด รวมทั้งนักกีฬาของเราทุกประเภทก็ฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี และพวกเขาก็กำลังอยู่ในช่วงที่นักกีฬาทุกคนทำผลงานได้ดี” ผู้จัดการทีมเทควันโดจีนพูดขณะที่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม
กรรมการตัดสินกีฬาเทควันโด ประเทศศรีลังกา
นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้ที่มีส่วนสำคัญของการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ท ครั้งที่ 1 ก็คือ มร คี ซู ลี กรรมการกีฬาเทควันโดชาวเกาหลีนั่นเอง กรรมการท่านนี้เดินทางมาจากประเทศศรีลังกาเพื่อมาร่วมเป็นผู้ตัดสินครั้งนี้โดยเฉพาะ และท่านยังเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ เมื่อปี 2541 ด้วยเช่นกัน “ผมหลงรักประเทศไทยเข้าอย่างจังโดยเฉพาะอาหารไทย” สุดท้าย มร คี ซู ลี ย้ำว่าการแข่งขันครั้งนี้เป็นเรื่องที่ดีเพราะคนใน แวดวงศิลปะการป้องกันตัวจะได้มีโอกาสพบปะและสร้างความแข็งแกร่งให้กับกีฬาเพิ่มขึ้น”
หลังจากที่ได้มีการเลื่อนกำหนดการเปิดกีฬาเอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ทครั้งที่ 1 มาถึงสองครั้งสองคราด้วยกัน สุดท้ายคบเพลิงซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเกมกีฬาก็ได้ถูกจุดและลุกโชติส่องสว่างอยู่ด้านหน้าของการกีฬาแห่งประเทศไทย นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะสร้างความประทับใจให้กับอาคันตุกะผู้เข้าร่วมการแข่งขันเฉกเช่นครั้งก่อนๆ เราจะร่วมจารึกปฐมบทแห่งประวัติศาสตร์ของวงการศิลปะการป้องกันตัวในทวีปเอเชียด้วยกีฬาเอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 1 ไปพร้อมกัน
Main Press Center: (MPC - 16)
อาคาร 200 เตียง การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก กรุงเทพ 10240
โทรศัพท์ 02-369-4030-33 โทรสาร 02 -369-1567-1569