กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--G Communications
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ครอบครัวและประชาชนทั่วไปให้การตอบรับอย่างดีกับกิจกรรม พิพิธพาเพลินเชิญเที่ยว ตอน เที่ยวย่านพิพิธภัณฑ์ภาค 1 ที่จัดขึ้นโดยสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) พาคนรักการเรียนรู้กว่า 150 คน แบ่งออกเป็น 3 รอบ เดินทางเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ฟรี โดยมีวิทยากรให้ความรู้ และมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกตลอดการเดินทาง
เริ่มต้นการเดินทางด้วยการลงทะเบียน ณ มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ รับตั๋วเดินทาง ประกอบด้วนแผนที่ และเกมแรลลี่ตอบคำถามบันไดงูเพื่อไปค้นหาคำตอบตามจุดเที่ยวชม และออกเดินทางด้วยรถราง ชมความงามของสถาปัตยกรรม โบราณสถาน สิ่งก่อสร้าง และทิวทัศน์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ โดยมีคุณเมธาวี พั่ววงศ์แพทย์ วิทยากรคอยให้ความรู้
จุดเที่ยวชมแห่งแรก คือ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร” ตั้งอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สนามหลวง เดิมเป็น พระราชวังบวรสถานมงคล หรือ วังหน้า ภายในมีโบราณวัตถุอันล้ำค่ามากมาย หนึ่งในนั้นมี “พระที่นั่งปาฏิหาริย์ทัศไนย” เป็นพระที่นั่งองค์เล็ก ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นหลังจากได้ทอดพระเนตรปาฏิหาริย์แห่งองค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่หลังพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ซึ่งมีอาจารย์ท่านหนึ่งได้มากระซิบเราว่าให้รีบชมความงามของพระที่นั่งองค์นี้ ก่อนที่จะถูกย้ายกลับไปไว้ที่พระราชวังสนามจันทน์ นครปฐมในไม่ช้า
สถานที่แห่งที่ 2 คือ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์” ตั้งอยู่บนถนนเจ้าฟ้า เดิมเคยเป็นโรงกษาปณ์สิทธิการ หรือโรงงานผลิตเหรียญกษาปณ์ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่แสดงผลงานของศิลปินไทยและต่างชาติ ภายในแบ่งเป็นส่วนของนิทรรศการถาวร ซึ่งมีการจัดแสดงภาพฝีพระหัตย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระบรมสาทิสลักษณ์ ประติมากรรมและภาพวาดของศิลปินผู้มีชื่อเสียงแนวหน้าของเมืองไทย ลูกศิษย์ของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี บิดาแห่งศิลปะร่วมสมัย ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร นอกจากนี้ยังมีในส่วนของนิทรรศการชั่วคราวที่ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะทั้งของชาวไทยและชาวต่างชาติ ใครที่ชื่นชอบผลงานศิลปะ และอยากซื้อหากลับบ้านก็สามารถเลือกชมได้ที่ตลาดนัดศิลปะ ภายในบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์
จุดท่องเที่ยวต่อมาคือ พิพิธภัณฑ์พระสุเมรุ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ของป้อมพระสุเมรุ ตั้งอยู่บนถนนพระอาทิตย์ ข้างสวนสันติชัยปราการ ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการขนาดย่อมถึงประวัติความเป็นมา ภาพจำลองกรุงฯเก่า ป้อมพระสุเมรุเป็นป้อมอิฐทรง 8 เหลี่ยม มีฐาน 2 ชั้น มีการบูรณะในปี พ.ศ.2524 แต่ปัจจุบันเนื่องจากว่ามีการทรุดตัวของฐานกำแพงดิน จึงปิดทางขึ้น มิให้ผู้ใดขึ้นไปบนป้อมได้ ถือเป็นโอกาสที่ดีมากที่ครั้งนี้เราได้ขึ้นมาเยี่ยมชม เพราะเดิมนั้น บริเวณกรุงรัตนโกสินทร์มีป้อมล้อมรอบกรุงทั้งหมด 14 ป้อม ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 2 ป้อม ได้แก่ ป้อมมหากาฬ ตั้งอยู่สะพานผ่านฟ้า ถ.ราชดำเนิน และป้อมพระสุเมรุ เท่านั้น
จากป้อมพระสุเมรุและสวนสันติชัยปราการ เราก็ได้เคลื่อนขบวนกันโดยรถรางผ่านบางลำพู วัดชนะสงคราม สนามหลวง ไปจุดที่ 4 คือ “พิพิธภัณฑ์รัชกาลที่ ๖” ณ กรมการรักษาดินแดน หรือหน่วยบัญชาการกำลังสำรอง ที่นี่เราได้รับเกียรติจาก “พ.ท.หญิง ศรีวิตรี อินทร์สวาท” นายทหารประวัติศาสตร์ หน่วยปัญขาการรักษาดินแดน พาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชจริยวัตร และพระราชกรณียกิจต่างๆของพระบามสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ยังมีส่วนของนิทรรศการแสดงของใช้ส่วนพระองค์มากมาย ทั้งฉลองพระองค์ในวาระต่างๆ ฉลองพระบาท ซึ่งอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ รักษาไว้อย่างดี ทั้งอยู่ในตู้กระจก และลิ้นชักที่เราสามารถเปิดชมเองได้
พิพิธภัณฑ์แห่งสุดท้ายที่ไม่ควรพลาด คือ “มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้” ตั้งอยู่ในพื้นที่กระทรวงพาณิชย์ (เดิม) ถ.เศรษฐการ ติดกับสถานีตำรวจพระราชวัง พิพิธภัณฑ์แนวใหม่ที่เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง ผ่านสื่อมัลติมีเดียต่างๆ มากมายที่ช่วยทำให้เข้าใจประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของไทยได้ง่ายขึ้น ในนิทรรศการถาวรหัวข้อ เรียงความประเทศไทย ที่ทำให้เรารู้จักรากเหง้าของตัวเองดีขึ้น เน้นการตั้งคำถาม หาคำตอบ ว่าไทยแท้คืออะไร ไล่เรียงเรื่องราวความเป็นมาของไทยตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ ผ่านห้องต่างๆทั้งหมด 17 ห้องมาจนถึงเมืองไทยในวันนี้ และอนาคตของประเทศไทยที่อยู่ในมือของพวกเราทุกคน นิทรรศการที่ทำให้ค้นพบเรื่องราวความเปลี่ยนแปลง ความผสมผสานของความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประเพณี ของชนชาติมาตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไทย
1 วันกับกิจกรรมเที่ยวย่านพิพิธภัณฑ์ภาค 1 นอกจากจะได้ท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ เยี่ยมชมกรุงรัตนโกสินทร์ เล่มเกมแรลลี่ตอบคำถามบันไดงูที่ได้ความรู้ ยังได้รับของที่ระลึก “คนกบแดง” สัญลักษณ์ของมิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ อีกด้วย ทุกคนกลับบ้านพร้อมด้วยความรู้ทางประวัติศาสตร์ ความเข้าใจในดินแดนที่เรียกกันว่าประเทศไทย และสภาพบ้านเมืองในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ดีขึ้น และจากความสำเร็จครั้งนี้ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ จะจัดกิจกรรมเที่ยวย่านพิพิธภัณฑ์อีกครั้งแน่นอน ติดตามข่าวสารต่างๆได้ที่ www.ndmi.or.th หรือ โทร. 0 2225 2777
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2667-0174-6 G Communications