กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--มูลนิธิพัฒนาเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การดูแลผู้สูงอายุฯ
มูลนิธิพัฒนาเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การดูแลผู้สูงอายุฯ เผยเกียรติคุณแพทย์แผนไทย ช่วยรักษาหลายโรคฮิตในคนไทยหายขาด อาทิ เบาหวาน ความดัน มะเร็ง เสนอชื่อ หมอ “สุรพรรณ ศิริธรรมวานิช” ผู้สืบสานต้นตำรับยาสมุนไพรไทย รุ่นเก่านำมาประยุกต์-ผสมผสานตำราจีน-ความรู้แพทย์แผนปัจจุบัน ช่วยเหลือผู้ป่วยมากว่า 50 ปี ต่อคณะกรรมการเอกลักษณ์ไทย สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย สอดคล้องกับแนวทางด้านแพทย์แผนดั้งเดิมขององค์การอนามัยโลก (WHO) มุ่งหนุนการอนุรักษ์ ส่งเสริม สื่อสารกันอย่างกว้างขวางและเหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ
รองศาสตราจารย์ ดร.อ้อมบุญ ล้วนรัตน์ เลขานุการคณะอนุกรรมาธิการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วุฒิสภาและ กรรมการมูลนิธิพัฒนาเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การดูแลผู้สูงอายุฯ เปิดเผยว่า มูลนิธิฯ ได้รวมรวบเอกสารและผลงานต่างๆ ของ คุณหมอสุรพรรณ ศิริธรรมวานิช เสนอผลงาน ประเภทบุคคลที่สมควรได้รับเสนอชื่อให้เป็นบุคคลดีเด่นแห่งชาติ ประจำพุทธศักราช 2552 ต่อคณะกรรมการเอกลักษณ์แห่งชาติ เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทย มุ่งมั่นศึกษาค้นคว้าจากผู้รู้จากรุ่นสู่รุ่น และศึกษาศาสตร์แพทย์ทุกแขนง เอาส่วนดีของทุกแผนมาผสานกันในการวินิจฉัยโรค และตั้งตำรับยาไทยตามหลักพลังปราณจักระ เพื่อนำมารักษาโรคต่างๆ ที่คุกคามชีวิตคนไทยเป็นอันดับต้นๆ อาทิ โรคเบาหวาน ความดัน เกาท์ รูมาตอยด์ โรคมะเร็ง ตามอวัยวะต่างๆ ลำไส้ เต้านม ตับ เป็นต้น
คุณหมอสุรพรรณ ศิริธรรมวานิช ได้เริ่มต้นจากการศึกษาด้วยตนเองบนพื้นฐานความรู้ที่ได้รับจากครูแพทย์ทุกสาขา เริ่มจากการศึกษาเรียนรู้ศาสตร์แพทย์ตะวันตกและแผนจีน สามารถอ่านเขียนภาษาจีนโบราณได้ รวมทั้งศึกษาแพทย์แผนไทยจากหมอไทย และพระสงฆ์ที่มีความชำนาญด้านต่างๆหลายท่านรวมทั้งการเดินป่าหาสมุนไพร จนทำให้สามารถตั้งตำรับยาสมุนไพรในการรักษาโรคชนิดต่างๆ โดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่การแพทย์แผนตะวันตกไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ด้วยการยึดหลักสรีรวิทยาพลังปราณจักระมารักษาผู้ป่วย ผลปรากฏว่าการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายรายหนึ่ง สามารถหายขาดได้ในระยะเวลาเพียง 1 ปี ทั้งๆที่ผู้ป่วยรายดังกล่าวได้รับการรักษาจากแพทย์แผนปัจจุบันและวินิจฉัยว่ามีชีวิตเหลือเพียง 6 เดือน ซึ่งยาสมุนไพรที่ตั้งตำรับขึ้นช่วยชีวิตผู้ป่วยรายนี้ไว้ได้และมีสุขภาพแข็งแรงจนปัจจุบัน นอกจากนี้ตำรับยาสมุนไพรที่พัฒนาขึ้นบนหลักการพลังปราณจักระ ยังสามารถรักษาโรคร้ายแรงและเรื้อรังต่างๆได้ เช่น โรคเอดส์ เอสแอลอี รูมาตอยด์ เกาท์ เบาหวาน ความดัน กระดูกทับประสาท โรคไต โรคตับ ผู้ป่วยกลับมีสุขภาพดีเป็นปกติ ไม่ทุพพลภาพ และไม่ต้องรับประทานยาไปตลอดชีวิต
สำหรับบทบาทสำคัญของหมอสุรพรรณ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้พยายามเผยแพร่แนวคิดระบบสรีระวิทยาของการแพทย์แผนตะวันออกคือทฤษฎีพลังปราณจักระ และการตั้งตำรับยาตามระบบสรีระวิทยาตะวันออก ได้ผลักดันการใช้การแพทย์แผนไทยในระบบสาธารณสุขของประเทศ เพื่อการพึ่งตนเอง และเพื่อสุขภาพของคนไทยโดยรวม โดยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขถึง 2 สมัย และร่วมระดมแลกเปลี่ยน ในเวทีระดับชาติอย่างสม่ำเสมอ ล่าสุดได้ร่วมเสวนา ในหัวข้อ “แนวทางการผสมผสานการแพทย์แผนไทยเข้าสู่ระบบบริการสาธารณสุข” จัดโดยคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสารและโทรคมนาคม วุฒิสภา ร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข โดยมีผู้ร่วมประชุมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับวงการแพทย์แผนไทยกว่า 300 คน ต่างสนใจแนวทางการรักษาผู้ป่วยโดยอาศัยทฤษฎีพลังปราณจักระ แสดงว่าบุคลากรด้านนี้ขาดแคลนองค์ความรู้ด้านการวินิจฉัยโรคในลักษณะผสมผสานกับการแพทย์แผนปัจจุบันและการตั้งตำรับยา
อนึ่ง ในระดับเวทีโลกก็กำลังให้ความสนใจกับการแพทย์ท้องถิ่น เช่นองค์การอนามัยโลกได้จัดให้มีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องการแพทย์ดั้งเดิม เมื่อปลายปี 2551 และได้ประกาศปฏิญญาปักกิ่งสนับสนุนความสำคัญ และสนับสนุนให้มีการจรรโลงไว้ซึ่งการแพทย์ดั้งเดิมของแต่ละประเทศ โดยมีสาระสำคัญดังนี้ ควรอนุรักษ์องค์ความรู้ด้านการแพทย์ดั้งเดิม การรักษาและเวชปฏิบัติด้วยการแพทย์ดั้งเดิม ควรได้รับการอนุรักษ์ ส่งเสริม สื่อสารกันอย่างกว้างขวางและเหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ รัฐบาลควรมีนโยบายรับผิดชอบต่อสุขภาพของประชาชนในประเทศ ควรจัดทำนโยบายและมาตรการต่างๆของการแพทย์แผนดั้งเดิมให้เป็นส่วนหนึ่งในระบบสาธารณสุขของประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจการใช้การแพทย์แผนดั้งเดิมอย่างเหมาะสม ปลอดภัยและได้ผล ควรมีการพัฒนาการแพทย์ดั้งเดิมต่อไปบนพื้นฐานการวิจัยและนวัตกรรมด้วย รัฐบาลควรจัดให้มีระบบสำหรับการสอบคุณสมบัติ การรับรองคุณวุฒิ หรือการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบโรคศิลปะแผนดั้งเดิม และควรมีการสื่อสารระหว่างผู้ให้บริการการแพทย์แผนปัจจุบันและแผนดั้งเดิมให้มากขึ้น
แสดงให้เห็นว่าประเทศทั่วโลกที่ใช้การแพทย์แผนตะวันตกเป็นการแพทย์กระแสหลักในการดูแลสุขภาพกำลังประสพปัญหาที่ไม่สามารถทำให้ประชากรโลกมีสุขภาวะที่ดีได้ และการแพทย์ท้องถิ่นเป็นทางออกที่องค์กรอนามัยโลกให้ความสำคัญ
นับเป็นโอกาสที่สำคัญของประเทศไทยในการเป็น Medical Hub บนพื้นฐานภูมิปัญญาไทย หากมีความร่วมมือระหว่างแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทยผ่านการผสมผสาน ตามแนวทางที่หมอ สุรพรรณ ศิริธรรมวานิช ได้ปฏิบัติมาตลอดชีวิต