กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--สหมงคลฟิล์ม
เบิกโรงความเสียวไส้ฉบับไตรภาคเอาฤกษ์เอาชัยกันไปแล้วกับ “บุปผาราตรี 3.1” แต่ความเฮี้ยนมันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ผีสาวตัวแม่ของ “พลอย เฌอมาลย์” กำลังจะกลับมาส่งท้าย “ความสวยสยองยกกำลัง 3” อีกครั้งใน “บุปผาราตรี 3.2” เตรียมเลือดสาดหวาดผวาขนหัวลุกได้อีก 20 ส.ค. นี้ ทุกโรงภาพยนตร์
“บุปผาราตรี 3.2” เป็นความสยองแบบต่อเนื่องจาก “บุปผา 3.1” ยังไงบ้าง
พลอย - ค่ะ จริงๆ แล้ว บุปผาราตรี 3.1 กับ 3.2 เนี่ย หลายๆ คนอาจจะเข้าใจ เอ๊ะ...เป็นภาค 3 กับภาค 4 คนละภาคกันหรือเปล่า เพราะดู 3.1 จบแล้วยังงงๆ อยู่ (หัวเราะ) แต่จริงๆ แล้วก็คือภาค 3 เป็นภาค
เดียวกัน ด้วยความที่เรื่องราวของเรามันค่อนข้างจะยาวมาก มีความสนุกสนานมากมาย มีเหตุการณ์น่ากลัวมากขึ้น มีเหตุการณ์มีตัวละครเข้ามาใหม่เยอะเลยในภาคนี้นะคะ เราก็เลยต้องแบ่งเป็น 3.1 กับ 3.2 เพื่อความสนุกสนานอย่างต่อเนื่องค่ะ เพราะถ้าให้หลายคนมานั่งดูทีเดียว 3-4 ชั่วโมง มันอาจจะเบื่อกันอะไรอย่างงี้ค่ะ ก็เลยแบ่งเป็น 2 ตอนดีกว่า
บุปผา 3.1 มันก็เป็นการเริ่มต้นของผีบุปผาที่กลับชาติมาเกิดใหม่ในร่างของเด็ก มีการเล่าเรื่องว่าบุปผามาเจอกับหรั่งได้ยังไง ความสัมพันธ์เริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ มีการปูตัวละครใหม่ๆ เข้ามาสร้างสีสัน
ส่วนใน บุปผา 3.2 นี้ ก็จะมีเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆ มากขึ้น จุดที่น่าสนใจน่าจะเป็นเรื่องราวของบุปผาว่ามันจะเดินเรื่องต่อไปยังไง และก็จะเป็นบทสรุปความรักของหรั่งกับบุปผาว่าสุดท้ายจะลงเอยกันยังไง มีมุขตลกที่อินเทรนด์เหลือเกินทันสมัยทันเหตุการณ์บ้านเมืองเหมือนเดิม มีตัวแสดงใหม่ๆ ที่เข้ามาเยอะอย่าง คู่หูตำรวจหมวด-จ่า ที่หลายคนบ่นคิดถึงก็จะโผล่มาใน 3.2, มีแก๊งเพื่อนมาริโอ, มีพี่ๆ ตลกรับเชิญนอกจากพี่ค่อมกับพ่อดมด้วย รวมถึงนักแสดงรุ่นเล็กอย่างผีเด็ก น้องพูกัน แล้วก็มีน้องเซนผีเด็กอีกตัวที่เพิ่มเข้ามาใหม่ อารมณ์ของหนังก็จะน่ากลัวขึ้น สยองขึ้นค่ะ คือภาคนี้จะสนุกมากขึ้นด้วย แล้วก็จะวาไรตี้มากขึ้นด้วยแน่นอนค่ะ
ย้อนรอยชีวิตบุปผาราตรี
พลอย - บุปผาราตรีมีที่มาที่ไปยังไงเหรอคะ ก็คือเขาเป็นนักศึกษาแพทย์ปี 1 น่ะค่ะ แล้วก็เป็นเด็กที่เรียนเก่ง มีความสามารถ แต่ว่ามีแบ็คกราวด์พื้นฐานชีวิตที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คือโดนพ่อเลี้ยงข่มขืน คาแร็คเตอร์ก็เลยจะดูนิ่งๆ จิตๆ หน่อย บุปผาจะเป็นเด็กซื่อๆ ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องความรักเลย กับพี่เอก (กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์) เองก็เหมือนเป็นรักครั้งแรกของเขา แล้วก็ถูกรุ่นพี่หลอกให้มีอะไรกันแล้วก็โดนถ่ายคลิปไว้ หลังจากนั้นก็ท้องแล้วก็ต้องทำแท้ง พอทำแท้งก็ตกเลือดมากจนเสียชีวิต มันจึงทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมาก เรียกว่ายังไม่มีภูมิคุ้มกันไม่มีประสบการณ์แย่ๆ กับความรักมาก่อน พอมาเจอเรื่องแบบนี้ปุ๊บ ก็โป้งป้างปึ้งตายเลย มันก็เลยค่อนข้างเลวร้ายสำหรับตัวบุปผาจนกลายเป็นดวงวิญญาณที่ค่อนข้างหดหู่ดูน่ากลัว เป็นดวงวิญญาณที่ไม่สงบน่ะค่ะ แต่เขาก็ไม่ได้เฮี้ยนถึงขนาดผีแม่นาคหรือว่าผีกระสืออะไรอย่างนั้น มันจะแตกต่างกัน บุปผาจะเป็นเหมือนวิณญาณที่ไม่สงบนิ่งโผล่ไปโผล่มาตลอด ก็คือเขาจะถูกรังควานถูกรบกวนอยู่ตลอด ก็จะโมโหว่าอะไรของพวกแก แต่ว่าก็ยังไม่ได้ฆ่าคนนะ เหมือนภาคแรกๆ ก็จะยังงงกับตัวเองอยู่ว่าตายไปตั้งแต่เมื่อไหร่
พัฒนาการความสวยงามของบุปผา
พลอย - บุปผาเขาก็พัฒนามาเรื่อยๆ นะคะ อย่างภาคแรกเขาเป็นนักศึกษาแพทย์ เขาจะไว้เป็นผมบ๊อบหน้าม้า ตัดเรียบร้อยเป็นทรงมัธยมปลายอยู่เลยค่ะแต่มันก็ดูจิตๆ ดีนะคะ พอมาภาค 2 ก็ผมยาวขึ้นประบ่า พอมาถึงภาค 3 นี้พี่ต้อมก็จะให้ใส่วิกผมบ๊อบเหมือนเดิม แต่พอใส่วิกแล้วมันดูปลอมอ่ะ มันดูไม่จริง แล้วตอนนี้พลอยก็ผมยาว พลอยว่ามันก็ดูโหดดีนะ แล้วก็ไปย้อมสีดำให้เข้มแล้วก็ทำผมให้มันยุ่งๆ ซึ่งพลอยมองว่ามันจะดูโหดๆ ดูน่ากลัว ดูลึกลับ มันดูแบบเซอร์ๆ ดีอ่ะค่ะ แล้วภาคนี้พลอยก็ขอขนตาเพราะพลอยมองว่าดวงตามันเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถสื่อถึงความรู้สึกความต้องการของตัวละครได้ชัดยิ่งขึ้น มีขนตามาช่วยยิ่งจะทำให้เด่นมากขึ้น พลอยเป็นคนค่อนข้างที่จะตาสองชั้น แล้วแบบถ้าไม่ปัดขนตาแล้วตามันจะดูปรือๆ ง่วงๆ ตลอด พอปัดขนตาแล้วตาพลอยจะโตแล้วเวลาแสดงอารมณ์มันจะชัดขึ้นน่ากลัวขึ้นด้วย
ความโหดสยองของผีบุปผาในตอน 3.2 ก็จะมีมากขึ้น
พลอย - จริงๆ มันก็โหดมาตั้งแต่ 3.1 แล้วล่ะค่ะ ที่โหดเพราะว่ามันเป็นการมาเกิดใหม่ของวิญญาณบุปผาที่กลับมาอย่างไม่รู้ตัวค่ะ คือบุปผาเขากลับมาเกิดใหม่เป็น “น้องปลา” ที่เป็นเด็กที่ถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง โดนพ่อทุบตีตลอด พออยู่มาวันหนึ่งก็โดนเพื่อนแกล้งผลักตกบันได ทีนี้ก็ทำให้ตัวเองระลึกชาติได้ว่า ตัวเองเนี่ยเป็นบุปผากลับชาติมาเกิด ก็เลยพาตัวเองมาที่ออสการ์อพาร์ทเม้นท์ เหมือนกับว่าฉันคุ้นเคยกับที่นี่มากมายอะไรอย่างงี้ค่ะ แล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นกับน้องปลาก็คือถูกฆ่าข่มขืนเลยทำให้วิญญาณของบุบผาและปลาอยู่ด้วยกัน แต่ถึงแม้ความโหดร้าย การเกลียดผู้ชายมันจะอยู่ในตัวบุปผา แต่ความที่อยากฆ่าคนเนี่ยมันมาจากตัวปลา พอมารวมอยู่ด้วยกันก็เลยโหดเป็นทวีคูณ บางคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะนั่นคือลูกของบุปผาเหรอ หรือว่านั่นคือคนๆ เดียวกันหรือเปล่า คือต้องบอกว่าเป็นคนๆ เดียวกันแหละ แต่ว่าวิญญาณสองชาติภพได้มาอยู่ในร่างเดียวกัน แล้ววิญญาณของปลาเนี่ยก็บังคับให้พลอยฆ่าคนค่ะ
ก็คือบุปผาจะโดนวิญญาณของผีปลาครอบงำ แล้วก็เป็นช่วงจังหวะที่แบบเหมือนบุปผากำลังซึมเศร้าที่โดนแต่ผู้ชายทำร้ายมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มต้นของบุปผาภาค 1 เลยก็โดนผู้ชายหลอกล่อให้มีอะไรด้วยแล้วก็ถ่ายคลิปไว้ มันก็ช้ำใจ แล้วเราก็ต้องทำแท้งด้วย เลยเหมือนกับฝังใจในเรื่องนี้มาตลอด แล้วพอมาถูกวิญญาณของผีปลาครอบงำก็เลยทำให้ฆ่าคนเลือดสาดกระจายอะไรอย่างนี้ค่ะ
ดูๆ ไปตัวบุปผาก็จะเป็นเหมือนฮีโร่หญิงที่พร้อมจะจัดการกับคนเลวๆ ได้เสมอ
พลอย - ก็ดีนะคะ คนเลวต้องถูกจัดการ เราเก็บไว้ไม่ได้ (หัวเราะ) แต่พลอยรู้สึกว่า บุปผาเป็นคาแร็คเตอร์ที่เหมือนกับเป็นอมตะไปแล้ว ก็ตั้งแต่ภาคแรกมาภาคนี้ก็ 6 ปีไปแล้ว แล้วก็ประสบความสำเร็จทุกภาค แล้วผีบุปผานี่มีคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจนมากๆ ด้วย สำหรับพลอยเองนะคะ ย้อนไปตั้งแต่ภาคแรก ครั้งแรกที่ได้อ่านก็ปฏิเสธไปด้วยซ้ำ เพราะไม่อยากเล่นหนังผีเพราะว่ายุคนั้นหนังผีเริ่มเกร่อแล้วเอะอะอะไรก็หนังผีๆ แต่เราก็ได้ให้โอกาสตัวเองที่จะเข้าไปหาพี่ต้อม ได้อ่านบท ได้พูดคุยกัน ก็รู้สึกหลงรักในตัวของบุปผาทันทีเลย ชอบแนวคิด แนวการทำงานของพี่เค้า แล้วก็ชอบคาแร็คเตอร์ของบุปผามาก เป็นผีที่มีเสน่ห์ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็อาละวาด แต่มีคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจนมาก ก็ดีใจมาจนถึงทุกวันนี้ว่า เลือกไม่ผิดจริงๆ เพราะเป็นบทที่ดีมากๆ ก็ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ
เรื่องราวความโรแมนติกของบุปผากับหรั่ง-ตัวละครของมาริโอ้เป็นยังไง
พลอย - ค่ะ นอกจากภาคนี้ที่พลอยบอกไปแล้วว่าจะมีทั้งความสนุกสนานและก็น่ากลัวแล้วเนี่ย ก็ยังมีอีกพาร์ทหนึ่งที่ชัดเจนมากขึ้นด้วยก็คือ ความรักความโรแมนติกของตัวหรั่งที่แอบรักบุปผา และความรู้สึกของบุปผาที่มีให้กับหรั่ง มันจะมีให้เห็นมากขึ้น ก็ซึ้งเลยทีเดียว เพราะในเรื่องบุปผาจะต้องฆ่าโอ้ แต่ว่าก็ไม่ได้อยากจะทำอะไรอย่างนี้
เรื่องนี้ไม่ว่าฉากฟันหน้าฟันตัวหรืออะไรก็ไม่เท่าไหร่นะคะ โหดสะใจดีค่ะ แต่จะมาเขินไอ้ฉากที่ต้องผายปอดโอ้นี่แหละ เราก็จะเขินมาก เพราะไม่เคยได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้มาก่อน ก็เขิน แต่ว่าฉากนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ แต่ก็หลายเทคอยู่ค่ะ พลอยก็ไม่รู้ว่าโอ้เขินหรือเปล่า เพราะโอ้เค้าดูนิ่งๆ อยู่แล้ว ในตอน 3.2 นี้ เราก็จะได้เห็นบทสรุปในเรื่องราวความรักของบุปผากับหรั่งด้วยค่ะว่าจะสิ้นสุดหรือลงเอยกันยังไง ต้องรอดูกันต่อไป เพราะทุกอย่างมันจะมาขมวดปมในตอนนี้แหละค่ะ
การร่วมงานกับน้องพูกัน ที่เล่นเป็นผีเด็ก เป็นยังไงบ้าง
พลอย - น้องพูกันเป็นเด็กที่น่ารักมากเลย คือเขาเป็นนักแสดงที่มีความสามารถมาก เล่นเก่งตั้งแต่เด็กเลยพลอยเด็กๆ ยังไม่เก่งขนาดนี้ เขาเป็นคนที่มีความสามารถและมีอัธยาศัยดี น่ารักค่ะ เป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาก ถ่ายถึงดึกก็ไม่เคยงอแง มีความอดทน แล้วก็ไม่ห่วงสวยซึ่งปกติเด็กในวัยนี้ใครจะมาอยากแต่งหน้าเอฟเฟคต์ ตาปูดๆ หน้าเลอะๆ อะไรอย่างงี้ใช่มั้ยคะ แต่คนนี้เค้าจะเอ็นจอยมากค่ะ เป็นเด็กที่น่ารักคือวันไหนที่ไม่ได้ถ่าย เขาก็อยากมากองถ่ายนะ เขาสนุกกับกองบุปผามาก อยากมากองบุปผามาก เอาการบ้านมานั่งเล่นนั่งทำไรงี้ค่ะ
การทำงานร่วมกันกับพี่ต้อมอีกครั้งเป็นยังไง
พลอย - กับพี่ต้อมเนี่ยจะสนิทกันมากเลยนะคะ เหมือนเป็นคู่บุญแล้วก็คู่ใจในการทำงานไปแล้ว เป็นพี่ที่น่ารัก คอยให้คำปรึกษาที่ดีตลอด กลับมาร่วมงานกับเค้านี่คือ พลอยดีใจนะ พลอยรู้สึกสบายใจ รู้สึกแฮปปี้ทุกครั้ง รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่จะได้ทำงานกับเค้า ทุกวันที่ตื่นมาคือรู้สึกว่าวันนี้ฉันมีความหมายจังเลย ฉันได้เจอทีมงานทีมเดิมที่เรารัก ที่เราคุ้นเคย อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ทำงานแล้วแบบเป็นเพื่อนอะไรอย่างงี้ พลอยค่อนข้างมั่นใจในผลงานพี่ต้อมนะว่า งานครั้งนี้จะต้องออกมาดูดีอย่างแน่นอน
คาดหวังโดยรวมกับบุปผา 3.2 ยังไงบ้าง
พลอย - จริงๆ พลอยเป็นคนไม่ค่อยคาดหวังอะไรนะคะ แต่จากที่พลอยทำงานมาทั้ง 3.1 และ 3.2 แล้ว พลอยเชื่อว่า บุปผาราตรีภาคนี้จะต้องไม่ธรรมดาและไม่ทำให้แฟนหนังบุปผาผิดหวัง รับรองได้เลยว่าจะเป็นบทสรุปจบของหนังที่ครบทุกรสชาติเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอนค่ะ
หลังจากที่ 3.1 ฉายออกไปก็มีทั้งคนชอบ-ไม่ชอบเป็นปกตินะคะ แต่หลายคนที่ดูแล้วยังงงๆ ว่ามันจะจบยังไง ก็ต้องรอดู 3.2 ได้เลย เพราะมันจะเป็นบทสรุปเรื่องราวที่สมบูรณ์แบบของ “บุปผาราตรี 3” เลยค่ะ มาดูแล้วก็จะเข้าใจทุกอย่างแน่นอน ก็อยากให้มาดูกันเหมือนเดิมนะคะ