ภาคเอกชนและนักวิชาการไทยสนับสนุนให้เปิดเสรีกับชิลี

ข่าวทั่วไป Wednesday September 27, 2006 16:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--ปชส.จร.
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยผลการสัมมนาของโครงการศึกษาร่วมไทย-ชิลีถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำเขตการค้าเสรีว่า นักวิชาการและผู้แทนจากภาคเอกชนไทยให้การสนับสนุนการศึกษาร่วมไทย-ชิลี โดยเห็นว่าชิลีแม้เป็นประเทศเล็กแต่เป็นประเทศที่มีความพร้อมด้านเศรษฐกิจมีทรัพยากร
ธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบให้กับสินค้าไทยได้ นอกจากนี้ธุรกิจด้านสปา โดยเฉพาะการนวดแผนไทย และร้านอาหารไทย น่าจะสามารถบุกตลาดชิลีได้
นางศรีวิชชา รักจำรูญ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2549 กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์จัดการสัมมนาตามโครงการร่วมศึกษาระหว่างไทยกับชิลีถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำเขตการค้าเสรี ณ โรงแรมเดอะแกรนด์ กรุงเทพฯ เพื่อเผยแพร่ผลการศึกษา และรับฟังข้อคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยได้เชิญผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สถานทูตชิลีประจำประเทศไทย Mr. Fausto J. Izquiel มาพูดเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของชิลี นโยบายการค้า การลงทุน การจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ การค้าระหว่างไทยกับชิลี และโอกาสทางการค้าในชิลี นอกจากนี้ ดร.สมจินต์ สันถวรักษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา และ ดร. พรเพ็ญ วรสิทธา อาจารย์จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาโครงการของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศมาพูดถึงผลของการศึกษา สรุปได้ว่า หากทั้งสองประเทศมีความตกลงการค้าเสรีระหว่างกันแล้ว จะทำให้การค้าสินค้า บริการ และการลงทุนระหว่างกันขยายตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การที่ทั้งสองประเทศมีระบบสาธารณูปโภค ตลอดจนการขนส่งที่ดี จะทำให้ทั้งสองประเทศสามารถเป็นประตูเชื่อมการค้าระหว่างเอเซียตะวันออกเฉียงใต้กับละตินอเมริกาได้ในอนาคต
ผลการสัมมนา นักวิชาการและผู้แทนจากภาคเอกชนไทยได้ให้การสนับสนุนผลการศึกษาร่วมไทย-ชิลี โดยเห็นว่าชิลี แม้เป็นประเทศเล็กแต่เป็นประเทศที่มีความพร้อมด้านเศรษฐกิจ มีทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบให้กับสินค้าไทยได้ นอกจากนี้ธุรกิจด้านสปา โดยเฉพาะการนวดแผนไทย มีความน่าสนใจที่จะไปลงทุนในชิลี เนื่องจากความเข้มงวดของกฎระเบียบมีไม่มาก สำหรับร้านอาหารไทย มีความน่าสนใจเช่นกัน โดยเฉพาะร้านอาหารที่เน้นกลุ่มลุกค้าในระดับบน จะสร้างรายได้ดีกว่าร้านอาหารแบบ Fast food เนื่องจากลูกค้าเหล่านี้ จะเดินทางไปต่างประเทศบ่อย จึงมีความคุ้นเคยและรู้จักอาหารไทยดี
ทั้งนี้มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับชิลีในระยะ 6 เดือนแรกของปี 2549 มีมูลค่า 8,451 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2548 ร้อยละ 40 โดยจำแนกเป็นมูลค่าที่ไทยส่งออกไปยังชิลี 4,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 86 และมูลค่านำเข้าจากชิลี 4,033 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้าชิลี 385 ล้านบาท สินค้าออกที่สำคัญของไทยที่ส่งเข้าชิลีได้แก่ รถยนต์ เครื่องซักผ้า อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ฯลฯ ส่วนสินค้าเข้าที่สำคัญได้แก่ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง สินแร่โลหะ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ฯลฯ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ