กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--กทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงความคืบหน้ากรณีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงจากบริษัทสไตเออร์ เดมเลอร์พุค สเปเชียล ฟาซอยต์ เอจี จำกัด เคจี โดยในวันนี้ (6 ส.ค.) ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศรับฟ้องคดีรถและเรือดับเพลิงตามที่สำนักอัยการสูงสุดยื่นฟ้องคดีให้แก่กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยนัดหมายรับฟังคำวินิจฉัยกรณีการให้ความคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้มีการเรียกเก็บค่างวดที่ 6-9 ในระหว่างการดำเนินคดีจำนวนเงิน 51,779,126.64 ยูโร หรือเป็นเงินประมาณ 2,782 ล้านบาท ในวันที่ 7 ส.ค. 52เวลา 14.00 น. ตามที่ อสส.ได้ทำหนังสือฟ้องศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กทม. ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายโดยมีหนังสือไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอให้สั่งฟ้องบริษัทสไตเออร์ในนามของกรุงเทพมหานครต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากการลงนามในข้อตกลงความเข้าใจ (Agreement of Understanding หรือ AOU) ซึ่งเป็นสัญญาระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลเพื่อซื้อขายรถและเรือดับเพลิงไม่ถูกต้องสมบูรณ์มาตั้งแต่ต้น ตามหนังสือของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ส่งมาถึงกรุงเทพมหานคร เนื่องจาก คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนแล้วพบว่าการทำสัญญาซื้อขายเป็นไปโดยทุจริต และสำนักงานอัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่ง รวม 3 สำนวน ประกอบด้วย 1.ขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาซื้อขาย บันทึกข้อตกลงซื้อขายตามข้อตกลงความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับ รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐออสเตรีย 2.สั่งห้ามไม่ให้จำเลยเรียกเก็บเงินงวดที่ 6-9 รวมจำนวน 51,779,126.64 ยูโร จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ 3. ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยคืนเงินใน 5 งวดที่จ่ายไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 3,905 ล้านบาทให้แก่โจทย์ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า ตลอดระยะเวลา 7 เดือนของการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ได้หารือข้อกฎหมายกับหลายฝ่าย รวมถึงที่ปรึกษากฎหมายต่างประเทศ และการเดินทางไปเจรจา ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21-24 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหารือกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท General Dynamics ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทสไตเออร์ฯ และได้ขอชะลอจ่ายเงินค่างวดที่ 6 ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ แต่บริษัท General Dynamics มีความเห็นว่าบริษัทฯ ไม่อยู่ในฐานะที่จะให้มีการระงับการจ่ายเงินเนื่องจากเป็นข้อตกลงระหว่างธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กับธนาคาร Raiffeisen Zentralbank กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย อย่างไรก็ตาม เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะแก้ไขปัญหาคดีรถและเรือดับเพลิง ยังคงดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสำนักงานอัยการสูงสุดรับที่จะยื่นฟ้องแทนกทม. ซึ่งจากนี้ไปจะเป็นอำนาจของศาลไม่ว่าผลจะออกมาในรูปใด กทม.พร้อมที่จะยอมรับ พร้อมกันนี้ กทม.ขอขอบคุณสำนักงานอัยการสูงสุดที่ได้สั่งฟ้องและทำคดีในนามของกรุงเทพมหานคร