กลุ่มทุนจากโอซาการุกจับคู่ธุรกิจกับนักลงทุนไทย บีโอไอย้ำญี่ปุ่นยังครองแชมป์ลงทุนครึ่งปีแรก

ข่าวทั่วไป Monday August 10, 2009 07:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--บีโอไอ บีโอไอ เตรียมจัดผู้ประกอบการไทย 50 บริษัท กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ ร่วมจับคู่ธุรกิจกับนักลงทุนจากโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ เลขาธิการบีโอไอย้ำ ญี่ปุ่นครองแชมป์ลงทุนในไทย ครึ่งปี 52 มีมูลค่าแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท ด้านสำนักงานบีโอไอในโตเกียว และโอซากา เตรียมจัดกิจกรรมดึงการลงทุนเพิ่ม นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอจะจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจระหว่างนักลงทุนไทย และนักลงทุนญี่ปุ่น ซึ่งเดินทางมาจากเมืองโอซากา ประมาณ 20 บริษัท เพื่อมาศึกษาลู่ทางการลงทุน และศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นแหล่งรองรับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ในวันที่ 25 สิงหาคม 2552 นี้ ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โดยบีโอไอ ได้มอบให้หน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (BUILD) เป็นผู้ประสานงานความร่วมมือกับผู้ประกอบการไทย จำนวน 50 บริษัท ที่เป็นกลุ่มที่ได้ดำเนินกิจการประเภทเดียวกัน หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง กับนักธุรกิจญี่ปุ่นที่เดินทางมาครั้งนี้ คือ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการสร้างโอกาสเชื่อมโยงอุตสาหกรรม และขยายความร่วมมือในทางธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในอนาคต “กิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นกิจกรรมชักจูงการลงทุนที่สำคัญของไทยอีกครั้ง หลังจากที่การจัดสัมมนาและจับคู่ธุรกิจไทย-จีน ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีไปแล้ว โดยการเดินทางมาเมืองไทยของนักลงทุนญี่ปุ่นจะมีผู้ว่าราชการโอซากาเป็นผู้นำคณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสนใจ และความเชื่อมั่นในการเข้ามาลงทุนในไทย โดยคาดว่ากิจกรรมที่เกิดขึ้นจะก่อให้เกิดความร่วมมือด้านการลงทุนร่วมกันระหว่างนักลงทุนไทยและนักธุรกิจญี่ปุ่นเพิ่มได้อีกมาก” นางอรรชกา กล่าว ทั้งนี้กลุ่มนักธุรกิจญี่ปุ่นเป็นกลุ่มที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยสูงสุด ทั้งจำนวนโครงการ และมูลค่าเงินลงทุน โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (มกราคม-มิถุนายน 2552) แม้ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกจะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ยังมีโครงการลงทุนจากญี่ปุ่น ที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 107 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 20,747 ล้านบาท แม้จะมีจำนวนโครงการ ปรับลดลงจากช่วงเดียวกันปี 51 ประมาณ 34.7 % และมูลค่าเงินลงทุนลดลง 30% แต่ยังนับว่ามีสัดส่วนความสนใจเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ โดยล่าสุด จากการสอบถามความคิดเห็นของนักลงทุนญี่ปุ่นต่อประเทศไทย ของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน ณ เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น พบว่า ขณะนี้เริ่มมีนักลงทุนญี่ปุ่นติดต่อสอบถามข้อมูลเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่มีจำนวนน้อยมาก อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ บีโอไอ จะเร่งจัดกิจกรรมต่างๆ ผ่านการดำเนินงานของ สำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนที่มีอยู่ในเมือง โอซากา และโตเกียว เพื่อให้ข้อมูล ความรู้ ดึงดูดการลงทุนจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันจะเร่งให้ความช่วยเหลือนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้วให้ได้รับความสะดวกสูงสุด ทั้งการปรับปรุงนโยบายส่งเสริมการลงทุน การอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนเพิ่มขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ