กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--การกีฬาแห่งประเทศไทย
สำหรับการแข่งขันกีฬา “ยูยิตสู” ที่ได้จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ได้สร้างความประทับใจให้วงการกีฬายูยิตสู ในประเทศไทยและการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 1 เป็นอย่างมาก ทัพนักกีฬา “ยูยิตสู” ไทย กวาดมา 3 เหรียญทอง ต้องขอชื่นชมในความสามารถและความพากเพียรพยายามให้แก่ พันจ่าเอกบดินทร์ ปัญจบุตร ในรุ่น 77 กก. ชาย เสาวนีย์ ลิมปนะยิ่งยงในรุ่น 55 กก. หญิง และ วาสนาพร สามทอง สำหรับรุ่น 62 กก. หญิง
ความสำเร็จในเกมส์ครั้งนี้ทะลุความคาดหมาย เนื่องจากประเทศไทยจัดว่ายังเป็นน้องใหม่ในวงการกีฬา “ยูยิตสู” และยังไม่ค่อยมีประสบการณ์กับกีฬาประเภทนี้มากนัก ฉะนั้นการคว้าชัย 3 เหรียญทองจึงเป็นประเด็นร้อนที่ทุกคนพูดถึง
ด้วยเหตุนี้ทีมงานจากศูนย์สื่อมวลชนหลักจึงถือโอกาสในวันสุดท้ายของการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ สัมภาษณ์ นายกสมาคมยูยิตสูแห่งประเทศไทย อาจารย์ปราโมทย์ เมษะมาน หรือรู้จักในนาม “อาจารย์ใหญ่แห่งปราโมทย์ยิม พุทไธสวรรย์” ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงการ “ยูยิตสู” ไทย
ทีมงาน : อาจารย์ปราโมทย์คิดอย่างไรกับความสำเร็จครั้งนี้ครับ และที่สำคัญ “ยูยิตสู” ไม่ใช่กีฬาที่เราคุ้นเคย… อาจารย์มีความเห็นอย่างไรครับ
อ. ปราโมทย์: เป็นเรื่องที่น่ายินดีและปลื้มใจมากครับ เพราะกีฬา “ยูยิตสู” เป็นกีฬาที่ใหม่สำหรับนักกีฬาไทยจริงๆ ผมประทับใจกับความสำเร็จครั้งนี้เป็นอย่างยิ่งครับ และถึงแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ส่งทีมนักกีฬาไทยเข้าร่วมแข่งขัน แต่ทุกคนเตรียมตัวและฝึกซ้อมอย่างหนักมาก ตั้งแต่ช่วงก่อนแข่งขันครับ
ทีมงาน : ความสำเร็จในครั้งนี้สามารถบ่งบอกอะไรได้บ้างครับ
อ. ปราโมทย์: มันสะท้อนและพิสูจน์ให้เห็นว่าสมาคมยูยิตสูแห่งประเทศไทยมีความสามารถที่จะประสานงานและปฎิบัติงานให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น ซึ่งไม่เพียงแค่ทำให้งานจบลงเท่านั้น แต่เมื่อดูผลลัพธ์ที่ออกมานั้นมันยิ่งใหญ่จริงๆ นับจากนี้ไป ผมเชื่อว่าความพยายามที่ทางสมาคมฯ ได้ทุ่มเทมาโดยตลอดในการทำให้กีฬา “ยูยิตสู” เป็นที่รู้จักและยอมรับในการแข่งขันระดับชาติ แม้เป็นเพียงแค่ก้าวแรกแต่เป็นก้าวที่สำคัญต่อนักกีฬาไทยและองค์กร
ทีมงาน : อนาคตของวงการ “ยูยิตซู” ไทยจะเป็นอย่างไร
อ. ปราโมทย์: ก่อนอื่นเราต้องพัฒนาโครงสร้างขององค์กรเพื่อยกระดับมาตรฐานขององค์กรเสียก่อน และแน่นอน สมาคมฯ มุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมแข่งขันกีฬา เวิลด์มาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ที่ประเทศจีน และ อินดอร์เกมส์ ที่ประเทศ เวียดนาม ซึ่งสมาคมฯ และทีมนักกีฬามีความหวังที่จะนำชัยชนะและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกครั้งให้จงได้
ทีมงาน : อาจารย์คิดว่าจะเริ่มพัฒนาศักยภาพของกีฬา “ยูยิตสู” อย่างไรครับ
อ. ปราโมทย์: สมาคมฯ มีโครงการจะเปิดศูนย์ฝึก “ยูยิตสู” ประจำแต่ละภาค ทั้งนี้เพื่อสรรหานักกีฬาที่มีพรสวรรค์ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ซึ่งศูนย์ฝึกจะไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ และเปิดกว้างให้ผู้ที่สนใจเข้าฝึกและรู้จักกับกีฬาชนิดนี้ให้มากขึ้น นอกจากนี้สมาคมฯ ยังจัดให้มีโครงการอบรมให้กับผู้ฝึกสอน เพื่อเพิ่มปริมาณผู้เชี่ยวชาญกีฬานี้ในประเทศไทย ถึงแม้ว่าเรามีนักกีฬาที่มีความสามารถอยู่มาก แต่ยังขาดผู้ฝึกสอนที่มีความเชี่ยวชาญและความสามารถที่จะทำให้แวดวงกีฬานี้เติบโตขึ้น และผมก็หวังว่าแผนการเหล่านี้จะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว
ทีมงาน: รางวัลที่นักกีฬาจะได้รับคืออะไรครับ
อ. ปราโมทย์: นอกจากจะนำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศชาติแล้ว นักกีฬาทุกคนไม่ว่าจะได้เหรียญหรือไม่จะได้รับรางวัลทุกคนครับ แล้วแต่การพิจารณาของสมาคมฯ และผู้ใหญ่ในวงการครับ
สุดท้าย ทีมงานศูนย์สื่อมวลชนหลักขอขอบพระคุณ อาจารย์ปราโมทย์ ที่สละเวลาให้สัมภาษณ์ และเราขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จและอวยพรให้โครงการทั้ง 2 ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ประสบความสำเร็จ ก่อนจบอาจารย์ปราโมทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ทางสมาคมฯ ยินดีต้อนรับและเปิดโอกาสให้กับทุกคนที่มีความสนใจในศิลปะการป้องกันตัวทุกคนครับ”
Main Press Center: (MPC - 45 )
อาคาร 200 เตียง การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก กรุงเทพ 10240
โทรศัพท์ 02-369-4030-33 โทรสาร 02 -369-1567-1569