กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--คิธ แอนด์ คินฯ
ปิโก โชว์ศักยภาพอีกครั้งใน มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปี 2552 ชูรูปแบบงานเป็น “Interactive Science Exhibition” สร้างประสบการณ์จริง สัมผัสได้ กระตุ้นความคิดและการเรียนรู้ “บิ๊กปิโก” มั่นใจธุรกิจประเภทสื่อสารองค์ความรู้ มีศักยภาพขยายตัวเต็มที่ สร้างสัดส่วนรายได้กว่าร้อยละ 20 ของรายได้ทั้งหมดในครึ่งปีแรก
นายศีลชัย เกียรติภาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำในอุตสาหกรรมทางด้านการจัดกิจกรรมทางการตลาดระดับสากลเปิดเผยว่า บริษัทได้รับความไว้วางใจจาก กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ภายในมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2552 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-23 สิงหาคม 2552 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “วิทยาศาสตร์ ก้าวไกล นำไทยก้าวหน้า”
สำหรับการจัดสร้างนิทรรศการต่างๆ ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ครั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการครอบคลุม ตั้งแต่การค้นคว้าข้อมูลเชิงลึก และกระบวนการส่งผ่านข้อมูลไปยังกลุ่มเป้าหมายให้เกิดความเข้าใจและถูกต้องครบถ้วน ไปจนถึงการออกแบบและจัดสร้างส่วนนิทรรศการทั้งหมดภายในงาน
“งานมหกรรมวิทยาศาสตร์จัดเป็นงานประเภท Knowledge Communication หรือแหล่งการสื่อสารองค์ความรู้ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของบริษัท ที่มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนงานประเภทนี้กว่า 20% จากรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาที่มีรายได้ 311 ล้านบาท ส่วนธุรกิจประเภท MICEs มีสัดส่วนอยู่ที่ 60%และ Event อยู่ที่ 20%” นายศีลชัยกล่าว
ทั้งนี้ การจัดนิทรรศการต่างๆ ภายในงานมหกรรมวิทยาศาตร์ปีนี้ เกิดจากแนวคิด สนุกคิด สนุกวิทย์ ชีวิตมีสุข เพราะเชื่อว่าการเรียนและการทำงานอย่างมีประสิทธิผลนั้น จะต้องเป็นไปด้วยความสนุก เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์ผลของงานที่มีประสิทธิภาพ และเต็มไปด้วยความสุขสนุกสนานที่ได้เรียนรู้ หรือEdutainment
โดยกิจกรรมภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ จะนำเสนอในรูป “Interactive Science Exhibition” เพื่อให้เด็กเยาวชน และประชาชนทั่วไปได้สัมผัสประสบการณ์จริงในหลายๆ รูปแบบรวมถึงการมีส่วนร่วมเพื่อกระตุ้นให้เกิดการคิด วิเคราะห์ตามหลักวิทยาศาตร์ ไปพร้อมกับการชมนิทรรศการ
จุดเริ่มต้นของการชมนิทรรศการนั้น จะเริ่มจาก Landmark Highlight ของงานที่นำเสนอพระอัจฉริยภาพของพระบิดาทางวิทยาศาสตร์ไทย (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 4) และพระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย และพระบิดานวัตกรรมไทย (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9) ในรูปแบบ Hydro Kenetic ทั้งภาพ เสียง ม่านน้ำ และ Mechanic ต่างๆ อย่างยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยไฮไลท์ใน Royal Pavilion นี้ จะมีทั้งการแสดงละคร ผสานเทคนิคสื่อผสม อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ และผู้ชมงานสามารถน้อมนำหลักการทรงงานของพ่อหลวงของเรา ทั้ง 23 หลักการ ในรูปแบบสื่อ Multi Media ไปปฏิบัติเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
นอกจากนี้ บริษัทได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าประกอบกิจกรรม และนิทรรศการ เช่น เทคโนโลยี 3D ที่ผู้ชมจะได้พบการเคลื่อนที่ของดวงดาวในเอกภพในรูปแบบภาพยนตร์ 3 มิติ ซึ่งอยู่ในโซน ของ เอกภาพวิทยา (Cosmology Zone) และเพื่อเป็นการฉลองปีดาราศาสตร์สากล ครบ 400 ปี ทางบริษัทฯ ได้จัดทำภาพยนตร์ 3 มิติ ถึง 2 ห้องด้วยกัน เพื่อให้เพียงพอต่อผู้ชมจำนวนมากในแต่ละวัน และที่พลาดไม่ได้คือการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับภาระกิจรณรงค์ช่วยลดโลกร้อนในโซน Global Warming โดยจะพาผู้ชมทุกท่านสัมผัสกับประสบการณ์ของภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นในทุกส่วนของโลกใบนี้ในรูปแบบ 4D Simulator
นายศีลชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทเน้นความสำคัญของธุรกิจ Knowledge Communication เนื่องจากมองว่าธุรกิจด้านนี้มีโอกาสในการเติบโตสูงในอนาคต และเป็นปัจจัยหลักต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานทุกภาคส่วนให้ความสำคัญด้านการสื่อสารองค์ความรู้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญพิเศษ คือ ด้านการสื่อสาร โดยนำความเชี่ยวชาญดังกล่าวมาผสมผสานและประยุกต์ เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ และสร้างคุณค่าต่อสังคม
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อบริษัท คิธ แอนด์ คินฯ จำกัด
คุณอรวรรณ เถลิงเกียรติกำจร โทร. 02- 663-3226 ต่อ 67