ภาครัฐส่งเสริมแนวคิดแพทย์แผนไทย ชูยุทธศาสตร์ดันผู้ประกอบการรุกตลาดโลก ปูทางให้ไทยเป็นฮับการดูแลสุขภาพแห่งเอเชีย

ข่าวทั่วไป Monday November 27, 2006 10:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์
สมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว “งานเทิดพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสนองพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง โดยภูมิปัญญาแพทย์ไทย” ขึ้น ในวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2549 ณ ห้องประชุมชั้น 1 อาคารกรมการแพทย์ 6 (DMS.6) กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี เวลา 14.00 — 16.30 น. โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 — 7 ธันวาคม 2549 ณ บริเวณสนามกีฬาภายในกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี ในการนี้ ทางคณะผู้จัดงาน ได้รับเกียรติจาก แพทย์หญิง ศรีวรรณา พูลสรรพสิทธิ์ ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข มาเป็นประธานเปิดงาน
นาย อร่าม อามระดิษ นายกสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ว่า “สมาคมแพทย์แผนไทย แห่งประเทศไทย ถือโอกาสจัดงานนี้เพื่อเป็นการร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเพื่อส่งเสริมการแพทย์แผนไทย อันเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านและศาสตร์ในการบำบัดของไทยมาเป็นเวลายาวนานให้เป็นแพทย์ทางเลือก (Alternative Medicine) เพื่อสร้างกระแสตื่นตัวในการเป็นที่รู้จักและยอมรับมากยิ่งขึ้นในแวดวงการบำบัดรักษาโรคในปัจจุบัน ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ ทางสมาคมได้รับความช่วยเหลือและร่วมมือเป็นอย่างดีจากกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งยังได้เอื้อเฟื้ออนุญาตให้ทางสมาคมใช้สนามกีฬาของกระทรวงเป็นสถานที่จัดงานอีกด้วย ทางสมาคมจึงรู้สึกซาบซึ้งและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติในครั้งนี้”
แพทย์หญิง ศรีวรรณา พูลสรรพสิทธิ์ ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงงานแถลงข่าวในครั้งนี้ว่า “ผมมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับเชิญให้มาเป็นประธานเปิดงานเทิดพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และวโรกาสฉลองพระชนมายุ ครบ 80 พรรษา
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนี้ สำหรับสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานหลักที่เป็นศูนย์กลางประสานงานการแพทย์แผนไทยทั่วประเทศ โดยมีภารกิจหลักในการส่งเสริมการพัฒนาการแพทย์แผนไทย รวมถึงเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ และ สนับสนุนบุคคลากรในสายงานแพทย์แผนไทย ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ”
นาย อร่าม อามระดิษ กล่าวว่า “โดยทั่วไปแล้ว การแพทย์แผนไทยแบ่งออกเป็น 4 สาขา คือ เวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย ผดุงครรภ์ และการนวดแผนไทย ในปัจจุบัน การแพทย์แผนไทยมีความแพร่หลายในทางธุรกิจที่เกี่ยวกับความงามและสุขภาพมากมาย อาทิ ธุรกิจสปา นวดเพื่อสุขภาพ นวดน้ำมันหอมระเหย และนวดเพื่อเสริมสวย มีการขยายตัวมากขึ้นในภาคธุรกิจนี้ จากกลุ่มสถาบันเสริมความงามสู่ผู้ประกอบการรายย่อยจนถึงรายใหญ่ ไปจนถึงโรงพยาบาลเอกชนต่างๆ โดยทางสมาคมแพทย์แผนไทย มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและกระตุ้นการเจริญเติบโตของการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย และวิชาชีพในสายแพทย์ไทย ซึ่งสถิติตัวเลขล่าสุดของจำนวนผู้ขึ้นทะเบียนกับกองการประกอบโรคศิลป์ มีจำนวน 36,777 ราย และหมอพื้นบ้านที่ขึ้นทะเบียนกับชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข ในขณะนี้มีมากกว่า 900,000 รายทั่วประเทศแล้ว จึงพิสูจน์ไดว่า การแพทย์แผนไทยในปัจจุบัน มีศักยภาพที่แข็งแกร่ง สามารถเป็นแพทย์ทางเลือกให้กับการรักษาโรคและการดูแลสุขภาพให้กับประชาชนในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี”
“ในปัจจุบันมีกระแสความนิยมในการหันกลับมาใช้การแพทย์แผนโบราณและธรรมชาติในการบำบัดรักษาโรคเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในภูมิภาค มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการใช้สมุนไพรและการแพทย์แผนโบราณ หรือ Traditional Medicine อย่างเห็นได้ชัด” แพทย์หญิง ศรีวรรณา พูลสรรพสิทธิ์ ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข กล่าว “ที่มาของสมุนไพรส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้คือประเทศจีน ประมาณ 30% - 40% จากยอดการบริโภคสมุนไพรทั้งหมด และตัวเลขจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แสดงให้เห็นว่าในมาเลเซียมียอดการบริโภคสมุนไพรสูงถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯในปีที่ผ่านมา ในขณะที่ยอดการบริโภคเวชภัณฑ์แผน
ปัจจุบัน มีมูลค่ารวมเพียง 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ สำหรับในยุโรปและอเมริกา ตัวเลขการใช้สมุนไพรและแพทย์แผนโบราณในปี 1997 มีมูลค่าตัวเลขที่สูงและน่าจับตามองมาก เช่น ในอเมริกา สูงถึง 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ออสเตรเลีย 80 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ แคนาดา 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ และสหราชอาณาจักร 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ” ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุขเปิดเผย
“เนื่องจากรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของการแพทย์แผนไทย เราจึงได้ตั้งเป้าหมายจากการใช้สินค้าและบริการแพทย์แผนไทย มูลค่า 50,000 บาทต่อปี และในจำนวนนี้ ตั้งเป้าว่า จะเป็นชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการอย่างน้อย 1,000,000 คน ทั้งนี้ รัฐบาลได้คาดหวังว่า ประเทศไทยจะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพแห่งเอเชีย หรือ Thailand Health Care Center of Asia โดยมียุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ การพัฒนาการบริการและระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ, การนำเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าและบริการให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว การประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อให้เกิดการตลาดเชิงรุก และการเพิ่มจำนวนและปรับปรุงประสิทธิภาพของบุคลากรทางการแพทย์แผนไทย” ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติม
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ได้มีการเสวนาจากเกจิอาจารย์ชื่อดังด้านต่างๆที่มีบทบาทกับวงการแพทย์แผนไทยในหัวข้อที่น่าสนใจและมีความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน อาทิ อ.เก่งกาจ จงใจพระ ในหัวข้อ โหราศาสตร์การแพทย์แผนไทย อ.กิตติพงศ์ ปังศรีวินิจ ในหัวข้อ ฮวงจุ้ยกับสุขภาพ อ.ไกร มาศพิมล ในหัวข้อ กินอยู่อย่างไรให้ร่างการแข็งแรง อ. ไกรสิงห์ รุ่งโรจน์สกุลพร ในหัวข้อ สุขภาพเท้าดีชีวีมีสุข และ อ.หยาง เผย ซิน ในหัวข้อ ชี่กงเสริมสุขภาพ
นายอร่าม อามระดิษ กล่าวต่อไปถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “งานนี้เป็นงานใหญ่ที่ทางสมาคมแพทย์แผนไทย แห่งประเทศไทย อยากเชิญชวนให้ประชาชนผู้สนใจและสื่อมวลชนมาร่วม
งาน เพราะนอกจากจะมีการออกบูทนิทรรศการและกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายแล้ว ยังมีการสาธิตวิธีการบำบัดรักษาต่างๆโดยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขาที่เกี่ยวกับวงการแพทย์
แผนไทยมากมาย อาทิ ฤาษีดัดตน นวดตอกเส้น ย่ำข่าง นวดนาตราชคืนชีพ เก้าอี้ไฟฟ้าสถิตบำบัด หินธิเบตดี.ซี.ไอ. เพื่อสุขภาพ, ดูดวงและฮวงจุ้ยเสริมชะตา และจับชีพจรวิเคราะห์โรค ฯลฯ”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
กาญจนา พึ่งทรัพย์ ( karnjana@kanokratpr.com ) 081-439-2378
นภารัตน์ ดำสีใหม่ ( napharat@kanokratpr.com ) 089-339-5525
มนธกานต์ รุกขรังสฤษฏ์ ชัทท์ ( montakarn@kanokratpr.com ) 081-019-1129
บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด (ตัวแทนดำเนินงานประชาสัมพันธ์)
โทร. 02-284-2662 โทรสาร 02-284-2287
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ