กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--ก.ไอซีที
ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเสนอ (ร่าง) แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ฉบับที่ 2 ของประเทศไทย เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ว่า หลังจากที่คณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งชาติ (กทสช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ ได้เห็นชอบในหลักการของ (ร่าง) แผนแม่บทฯ และได้มอบหมายให้กระทรวงไอซีทีไปดำเนินการปรับปรุง (ร่าง) แผนแม่บทฯ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการ กทสช. ซึ่งขณะนี้กระทรวงฯ ได้มีการปรับปรุงร่างดังกล่าวแล้ว
โดยร่างแผนแม่บทฯ ฉบับที่ 2 นี้มีเนื้อหาสาระที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญๆ ในด้านต่างๆ คือ การกำหนดวิสัยทัศน์ให้ “ประเทศไทยเป็นสังคมอุดมปัญญาด้วยไอซีที” และได้วางเป้าหมายให้ประชาชนไม่น้อยกว่า 50% ของประเทศมีความรอบรู้ สามารถเข้าถึง สร้างสรรค์ รวมทั้งใช้สารสนเทศอย่างมีวิจารณญาน รู้เท่าทัน และมีคุณธรรมจริยธรรม ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ การทำงาน และการดำรงชีวิตประจำวัน ตลอดจนยกระดับความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศให้อยู่ในกลุ่มที่มีระดับการพัฒนาสูงสุด 25% ของประเทศที่มีการจัดลำดับทั้งหมดใน Network Readiness Index และเพิ่มบทบาท ความสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยให้มีสัดส่วนมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมไอซีทีต่อจีดีพีไม่น้อยกว่า 15%
นอกจากนี้ในการร่างแผนแม่บทฯ ฉบับที่ 2 ได้กำหนดวัตถุประสงค์ของแผนไว้ 5 ประการ คือ 1.เพื่อเพิ่มปริมาณและศักยภาพของกำลังคน 2.เพื่อสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 3.เพื่อสนับสนุนการปรับโครงสร้างการผลิต 4.เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและปัจเจกบุคคล 5.เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของธุรกิจและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้มีการวางยุทธศาสตร์การพัฒนาไว้ 6 ประการ คือ ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนากำลังคนด้านไอซีทีและบุคคลทั่วไปให้มีความสามารถในการสร้างสรรค์ ผลิต และใช้สารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณและรู้เท่าทัน ยุทธศาสตร์ที่ 2 บริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศอย่างมีธรรมาภิบาล ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ยุทธศาสตร์ที่ 4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อสนับสนุนให้เกิดธรรมาภิบาลในการบริหารและบริการของภาครัฐ ยุทธศาสตร์ที่ 5 ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไอซีที เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและรายได้เข้าประเทศ และยุทธศาสตร์ที่ 6 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน
“หลังจากนี้กระทรวงฯ จะได้นำร่างแผนแม่บทฯ ฉบับที่ 2 ที่ปรับปรุงแล้ว เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในประเด็นต่างๆ คือ การขอความเห็นชอบต่อแผนแม่บทฯ ฉบับที่ 2 และการให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำหรือปรับแผนแม่บทฯ และแผนปฏิบัติงานของหน่วยงานให้สอดคล้องกับแผนแม่บทฯ ฉบับที่ 2 นี้ โดยมอบหมายให้กระทรวงไอซีที รับผิดชอบดำเนินการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และเป็นหน่วยงานหลักในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการและแผนงบประมาณรองรับตามแผนแม่บทฯ ฉบับที่ 2 นอกจากนี้ยังเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้หน่วยงานกลางที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดสรรทรัพยากรและการบริหารจัดการภาครัฐ เช่น สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. นำแผนแม่บทฯ ฉบับที่ 2 นี้มาใช้เป็นกรอบแนวทางในการบริหารจัดการ ปรับปรุงโครงสร้าง และจัดสรรทรัพยากรทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศในช่วงระยะเวลาที่แผนแม่บทฯ ประกาศใช้ด้วย
ซึ่งวัตถุประสงค์สำคัญที่จะต้องมีการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีก็เพื่อให้การกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทยในระยะ 5 ปีสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนเพื่อนำมาใช้กำหนดภารกิจและแนวทางปฏิบัติงานของกระทรวงไอซีที รวมถึงใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนแม่บทไอซีทีของกระทรวง กรม รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมได้ใช้แผนแม่บทฯ เป็นแนวทางในการประสานการพัฒนาประเทศร่วมกับภาครัฐ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ รวมทั้งช่วยให้การพัฒนาอุตสาหกรรมไอซีทีของประเทศมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น” ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ กล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 141 6747 ทวิติยา