กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--สปส.
ภาวะเศรษฐกิจของประเทศในตอนนี้อยู่ในภาวะดี หรือไม่ดี สรุปได้ยากเพราะธุรกิจบางประเภทเติบโต แต่บางธุรกิจก็ซบเซา เนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งน้ำมันแพง และสถานการณ์การเมืองที่ยังอึมครึม ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวการลงทุน ต่างก็ต้องปรับตัวและยอมรับกับความผันผวนเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้
ในขณะที่นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์หลายท่านเห็นตรงกันว่า ‘สภาพการณ์เช่นนี้อาจต่อเนื่องไปถึงปีหน้าด้วย จากการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งราคาน้ำมัน—ค่าครองชีพที่สูงขึ้นทำให้การลงทุนมีปัญหา ทิศทางการเมืองไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในการลงทุน เพราะไม่ทราบทิศทางนโยบายของรัฐบาลที่แน่ชัด อัตราการตกงาน-ว่างงาน อาจจะมีทิศทางที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จำนวนคนต้องการทำงานมีมาก คนที่จบการศึกษามีมากขึ้น แต่ปริมาณงานที่เป็นอยู่ขณะนี้เติบโตไม่ทัน ทำให้ไม่เกิดการจ้างงาน สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อัตราการลดการจ้างงานสูงขึ้น
เมื่อเศรษฐกิจมีปัญหา .... มีผลต่อการตกงาน-ว่างงาน คาดการณ์ว่าคนเตะฝุ่นจะเพิ่มขึ้น!’ ตัวเลขจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่สำรวจภาวะการมีงานทำของประชากร ระบุว่า ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี ’49 จำนวนประชากรทั้งประเทศ 65.16 ล้านคน ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานมี 36.01 ล้านคน ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในกำลังแรงงาน 14.32 ล้านคน และผู้มีงานทำ 35.08 ล้านคน ผู้ว่างงาน 6.3 แสนคน โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ว่างงาน 2.1% ของผู้ว่างงานทั้งหมดทั่วประเทศ เพราะเป็นช่วงนอกฤดูการเกษตร คาดว่าครึ่งปีหลังอัตราว่างงานลดลงเพราะเข้าสู่ฤดูการเกษตรและเก็บเกี่ยว กรุงเทพฯ และภาคเหนือ ว่างงานเท่ากัน 1.7% ภาคกลาง 1.6% และภาคใต้ 1.5%
แต่ ... ลูกจ้างผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ที่ประสบปัญหาว่างงานได้รับความคุ้มครอง! ซึ่งผู้ประกันตนจะรับสิทธิกรณีว่างงาน จะต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงาน จึงจะได้รับประโยชน์ทดแทนเมื่อผู้ประกันตนถูกเลิกจ้าง หรือลาออกจากงาน ก็เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและไม่ขาดรายได้ระหว่างรองานใหม่ และจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนคือ ขึ้นทะเบียนหางานที่สำนักจัดหางานของรัฐทั่วประเทศ ภายใน 30 วันนับจากวันที่ว่างงาน และต้องหางานทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำได้หลายวิธี เช่นหางานทำด้วยตัวเอง หรือหางานได้ที่สำนักจัดหางานของกรมจัดหางานทั่วประเทศ มีตำแหน่งงานให้เลือกตามความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ หรือหางานทำโดยผ่านบริษัทจัดหางานเอกชนก็ได้
ที่สำคัญ ... ต้องไม่ปฏิเสธงานที่เจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสม และการฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่เจ้าหน้าที่เห็นว่ามีความจำเป็น เพื่อเป็นประโยชน์ในการบรรจุงาน ตลอดจนต้องไปรายงานตัวเพื่อรายงานถึงความก้าวหน้าในการหางานทำต่อเจ้าหน้าที่ตามที่กำหนด ที่สำนักจัดหางานที่ไปขึ้นทะเบียนไว้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง เพราะการไม่ไปรายงานตัวตามที่กำหนดโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จะไม่ได้รับประโยชน์ทดแทนในเดือนนั้น และหากผู้ประกันตนได้กลับเข้าทำงาน จะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้งาน พร้อมทั้งเตรียมเอกสารที่ใช้ประกอบการการติดต่อขอรับสิทธิ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว 1 รูป สำเนาหนังสือแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน หรือหนังสือ หรือคำสั่งของนายจ้างที่ให้ออกจากงาน (ถ้ามี) สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ หน้าแรกซึ่งมีชื่อเลขที่บัญชีของผู้ประกันตน เพื่อ สปส.จะโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารใดธนาคารหนึ่งใน 6 แห่ง คือธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย กรุงศรีอยุธยา กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ และทหารไทย
สำหรับเงินทดแทนการขาดรายได้ที่ผู้ประกันตนจะได้รับนั้น ในรายที่ ถูกเลิกจ้าง ต้องออกโดยสมัครใจและไม่ได้ทำความผิด จะได้รับ 50% ของค่าจ้าง ระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน ส่วนผู้ที่ลาออก หรือ สิ้นสุดสัญญาจ้าง จะได้รับในอัตรา 30% ของค่าจ้าง ระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ซึ่งเงินทดแทนการขาดรายได้นี้จะจ่ายเป็นงวดเดือนโดยโอนผ่านบัญชีธนาคารตามที่ผู้ประกันตนแจ้งไว้
ที่ผ่านมา มีผู้ประกันตนบางส่วนที่ได้รับเงินทดแทน แต่ สปส.ไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีให้ได้ ด้วยสาเหตุต่าง ๆ เช่น บัญชีถูกปิดแล้ว ไม่พบเลขที่บัญชีและเลขที่บัญชีไม่ใช่ประเภทออมทรัพย์ ฯลฯ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด ขอให้ผู้ว่างงานตรวจสอบบัญชีของท่านว่ายังมีการเคลื่อนไหวอยู่หรือไม่ ก่อนใช้ประกอบหลักฐานในการขอรับประโยชน์ทดแทน
นอกจากนั้น ...ผู้ประกันตนที่ออกจากงานจะได้รับความคุ้มครองจากกองทุนประกันสังคมต่ออีก 6 เดือนใน 4 กรณี นับจากวันที่ออกจากงาน ได้แก่ เจ็บป่วยหรือ ประสบอันตราย คลอดบุตร ทุพพลภาพ และตาย
จะพบว่า ผู้ประกันตนยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานมีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะเดือนสิงหาคม’49 สปส.จ่ายเงินทดแทนให้ผู้ว่างงาน รวม 38,237 คน เป็นเงิน 112,822,254.40 บาท และตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค.’49 มีผู้มาขอใช้สิทธิรวม 236,885 คน ยอดเงินที่สั่งจ่ายทั้งสิ้น จำนวน 741,745,061 บาท โดยผู้ประกันตนที่ลาออกจากงาน มีจำนวนสูงที่สุดถึง 148,080 คน เลิกจ้าง 79,445 คน และหมดสัญญาจ้าง 9,350 คน
ย้ำอีกครั้งว่า ... เพื่อให้ได้รับประโยชน์ทดแทนครบถ้วนตามสิทธิ ต้องไปขึ้นทะเบียนหางานภายใน 30 วันนับแต่วันที่ว่างงาน ไปรายงานตัวตามที่เจ้าหน้าที่นัดอย่างน้อยเดือนละ1 ครั้ง ต้องไม่ปฏิเสธงานและการฝึกอบรมฝีมือแรงงงาน หากยื่นเรื่องล่าช้ากว่า 30 วัน ประโยชน์ทดแทนที่ได้รับจะลดลงตามวัน/เวลาที่มายื่นขึ้นทะเบียนว่างงาน
ทั้งนี้ การออกจากงานของลูกจ้างผู้ประกันตน มีความเกี่ยวเนื่องกับนายจ้าง/สถานประกอบการโดยตรงด้วยคือ เมื่อลูกจ้างออกจากงานให้นายจ้างรีบส่งแบบ สปส.6-09 เมื่อลูกจ้างออกจากงานมายังสปส.ที่สถานประกอบการได้ขึ้นทะเบียนไว้ทันที เพื่อบรรเทาปัญหากรณีที่ลูกจ้างไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ หรือได้รับสิทธิประโยชน์ล่าช้า รวมทั้งการได้รับสิทธิประโยชน์ที่ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย และช่วยส่งผลให้การตรวจสอบสถานะของลูกจ้างมีความถูกต้องตามสิทธิที่จะได้รับจากประกันสังคมมากยิ่งขึ้น
จำนวนคน ‘เตะฝุ่น’ จะเพิ่มขึ้นหรือไม่? ฟันธงได้ยาก แต่การประกันการว่างงานของ สปส.เป็นระบบการให้ความช่วยเหลือผู้ทำงานที่ว่างงาน เป็นผลทำให้สูญเสียรายได้ ซึ่งจะได้รับความช่วยเหลือในระยะเวลาที่กำหนด โดยผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือจะต้องเป็นผู้ที่ว่างงานจริง และมีความพร้อมที่จะทำงาน
ตกงาน-ว่างงาน ผู้ประกันตนไม่ต้องตกใจ ประกันสังคมดูแลให้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สปส.ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสำนักจัดหางานของรัฐทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1506
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506 /www.sso.go.th