กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ในช่วงต้นของสัปดาห์ราคาทองคำปรับลดลง จากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขการลดจ้างงานและอัตราการว่างงานที่ลดลงมากกว่าคาดของสหรัฐ รวมทั้งราคาน้ำมันที่ขยับปิดสูงขึ้น โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ จากการขายทำกำไร หลังหุ้นได้พุ่งขึ้นมากว่า 4 สัปดาห์ นอกจากนี้ สำนักงานวิจัย Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดจ้างงานในสหรัฐยังคงทรงตัวที่ 88.3 ในเดือนก.ค.เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่า การจ้างงานในสหรัฐจะยังคงอ่อนแอไปตลอดปีนี้ อีกทั้ง กองทุน ETF ของ SPDR (กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก) ก็ลดการถือครองทองคำลง -0.35 ตัน รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,068.55 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34.35 ล้านออนซ์ เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลลบต่อราคาทองคำ
สำหรับช่วงกลางของสัปดาห์ ราคาทองคำขยับในกรอบแคบๆ ในขณะที่นักลงทุนรอดูท่าทีอยู่นอกตลาดก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศผลการประชุมกำหนดนโยบายทางการเงิน
ราคาทองคำในช่วงปลายสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้น จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ หลัง FED ประเมินเศรษฐกิจในแง่บวกมากขึ้นเล็กน้อย จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กำลังแตะระดับต่ำสุด แต่ก็จะยังคงอ่อนแอต่อไปอีกระยะหนึ่ง ทำให้นักลงทุนคลายกังวลจากความวิตกก่อนหน้านี้ว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น รวมทั้งเศรษฐกิจของเยอรมันและฝรั่งเศสพลิกกลับมาเติบโตได้ในไตรมาส 2/09 ได้หนุนยูโรให้แข็งค่าขึ้น + การขยับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ หลัง International Energy Agency (IEA) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านพลังงานให้กับประเทศพัฒนาแล้วราว 28 ประเทศ ได้ปรับเพิ่มประมาณการอุปสงค์น้ำมันในปีนี้และปีหน้าอีก 1.9 แสนบาร์เรลและ 7 หมื่นบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ หลังอุปสงค์ในจีนและเอเชียเพิ่มขึ้นพอสมควร
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุน จากภาวะเศรษฐกิจยุโรป โดยGDP ไตรมาส 2/09 ของเขตยูโรโซน ลดลงเพียง -0.1% เท่านั้น ซึ่งลดลงน้อยกว่าที่คาดไว้ว่าจะลดลงถึง -0.5% โดยได้แรงหนุนจากการพลิกกลับมาขยายตัวได้ของเศรษฐกิจเยอรมันและฝรั่งเศสที่ทั้ง 2 ประเทศ ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/09 เพิ่มขึ้น +0.3% บ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยของทั้ง 2 ประเทศนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว
อย่างไรก็ตาม บรรดาตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ยังคงอ่อนแอ โดยยอดค้าปลีกเดือน ก.ค. ลดลง -0.1% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น +0.6% ในเดือนมิ.ย. และยอดค้าปลีกที่ไม่รวมรถยนต์ลดลง -0.6% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น +0.3% ในเดือนมิ.ย. ตามด้วยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ส.ค. เพิ่มขึ้น 4 พันราย มาที่ -5.58 แสนราย จาก -5.54 แสนรายในสัปดาห์ก่อนหน้า และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย. ลดลง -1.1% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่คาดไว้ว่าจะลดลงเพียง -0.8% และสุดท้าย ราคาส่งออกลดลง -0.3% ต่อเดือนในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น +1.0% ในเดือนมิ.ย. ส่วนราคานำเข้าลดลง -0.7% ต่อเดือนในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 2.6% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลลบต่อราคาทองคำได้ในอนาคต
วันนี้ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้ ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุน หากท่านต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางในการลงทุนทองคำ สามารถขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนของเรา ได้ที่เบอร์ 02-287-1155 หรือ www.ylgbullion.com ค่ะ