กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--ก.ล.ต.
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต. และคณะกรรมการกำกับตลาดทุน โดยคณะกรรมการกำกับตลาดทุนเห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการลงทุนในต่างประเทศ และการประกอบธุรกิจจัดการลงทุน รวม 3 เรื่อง ดังนี้
1. การลงทุนในต่างประเทศของบุคคลทั่วไปที่ลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ได้เห็นชอบ ให้สามารถลงทุนในหลักทรัพย์และอนุพันธ์ต่างประเทศเพิ่มเติมดังนี้
1.1 หลักทรัพย์ที่ออกโดยบริษัทในประเทศไทยที่ไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ
1.2 ตราสารหนี้ของภาคเอกชนต่างประเทศที่ซื้อขายนอกตลาดและได้รับการจัดอันดับความเสี่ยงในระดับที่ลงทุนได้ (investment grade)
1.3 สิทธิประโยชน์อันเกิดจากการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ได้ลงทุนไว้แล้วเช่น หุ้นเพิ่มทุน หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
1.4 หุ้นที่มีการเสนอขายต่อประชาชนและมีแผนชัดเจนว่าจะนำเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ
1.5 หน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่ซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์เฉพาะที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ตามประเภทที่ได้รับอนุญาตให้ลงทุนได้
1.6 ตราสารอนุพันธ์ต่างประเทศที่ซื้อขายในตลาด (exchange) โดยให้ลงทุนได้เฉพาะเพื่อการบริหารความเสี่ยงจากการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศเท่านั้น
ทั้งนี้ ประเภทหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ต่างประเทศที่เพิ่มเติมตามรายการข้างต้นนี้
ได้รับการผ่อนผันจากธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว
2. การจัดตั้งกองทุนรวม ได้เห็นชอบให้มีการอนุมัติการจัดตั้งกองทุนรวมแบบอัตโนมัติได้
ในกรณีที่กองทุนรวมมีลักษณะไม่ซับซ้อน เช่น ไม่มีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีหน่วยลงทุนประเภทเดียวซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน และจ่ายผลตอบแทนตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนธุรกิจของบริษัทจัดการ โดยในการยื่นคำขออนุมัติ ผู้บริหารของบริษัทจัดการจะต้องมีหนังสือรับรองว่ากองทุนรวมที่ยื่นนั้นมีลักษณะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว และในระยะแรกจะยังไม่อนุญาตให้กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศและไม่มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ยื่นคำขอจัดตั้งในลักษณะนี้ เนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. ต้องพิจารณาการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงของกองทุนรวมประเภทนี้อย่างละเอียด เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับทราบข้อมูลที่สำคัญนี้อย่างเพียงพอในการตัดสินใจลงทุน
3. การจัดการลงทุนของกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล ได้เห็นชอบให้เพิ่มเติมสินค้าและตัวแปรอ้างอิง (underlyings) ของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (structured notes) ที่กองทุนสามารถลงทุนได้ โดยอนุญาตให้กองทุนสามารถลงทุนอ้างอิงกับดัชนีเงินเฟ้อ และดัชนีกลยุทธ์การลงทุนได้ และเห็นชอบให้ปรับปรุงแก้ไขลักษณะของดัชนีที่ใช้เป็นตัวแปรอ้างอิงให้เป็นสากลยิ่งขึ้น กล่าวคือ เน้นเรื่องการกระจายตัวของดัชนีแทนการกำหนดให้ดัชนีต้องเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย พร้อมทั้งเพิ่มเติมข้อกำหนดให้ต้องมีการคำนวณดัชนีให้เป็นปัจจุบันตามความเหมาะสมขององค์ประกอบของดัชนี และให้ผู้พัฒนาดัชนีต้องเป็นอิสระจากบริษัทจัดการ แต่หากเป็นกลุ่มบริษัทเดียวกัน ก็จะต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ด้วย
นอกจากนี้ นายธีระชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า “คณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้มีมติแต่งตั้งกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวน 2 ท่าน ได้แก่ (1) นายสมพล เกียรติไพบูลย์ และ (2) นางจารุพร ไวยนันท์แทนนายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา และนายวิชัย พูลวรลักษณ์ ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ทั้งนี้ การแต่งตั้งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2552”