กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--แสนสิริ
กลุ่มแสนสิริ ส่งสัญญาณชัดเจนปี 2552 มั่นใจกำไรเติบโตทั้งปีไม่ต่ำกว่า 50% หรือคิดเป็นประมาณการณ์ 1,400 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2552 สามารถสร้างยอดขายรวม 3,100 ล้านบาท มีรายได้รวมกว่า 3,650 ล้านบาท และมีกำไรกว่า 387 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 208 ล้านบาท หรือ 117% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งมีกำไรสุทธิ 179 ล้านบาท อัตราการเติบโตด้านกำไรสูงสุดในระบบอสังหาฯ ขณะนี้ ประกาศปรับเป้ายอดขายรวมปีฉลูใหม่ เพิ่มจาก 17,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีความชัดเจนเป็นลำดับ ทำให้มั่นใจว่า กลุ่มบริษัทแสนสิริจะมีอัตราการเติบโตด้านกำไรในปี 2552 สูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 50% หรือคิดเป็นประมาณการณ์กำไรทั้งปี 1,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่มีกำไร 913 ล้านบาท โดยการเติบโตด้านกำไรที่คาดว่าจะสูงขึ้นนี้เป็นผลจากการขยายการเติบโตที่ชัดเจนและต่อเนื่องจากการสร้างยอดขายที่อยู่อาศัยครบวงจร และการรุกขยายงานในตลาดต่างประเทศ
สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทแสนสิริ ในช่วงไตรมาส 2/2552 มีผลประกอบการที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก สามารถสร้างยอดขายรวมถึง 3,100 ล้านบาท คิดเป็นรายได้รวมกว่า 3,650 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมสูงถึง 57 % ของรายได้รวม หรือคิดเป็น 2,070 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 387 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 208 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 117% เทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปี 2551 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 179 ล้านบาท นับว่ามีอัตราการเติบโตด้านกำไรสูงที่สุดในระบบอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้
ขณะที่ ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1/2552 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทแสนสิริ มียอดขายรวมกว่า 6,100 ล้านบาท คิดเป็นรายได้รวม 2,950 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 119 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเกิดจากความสำเร็จในการนำเสนอที่อยู่อาศัยของกลุ่มบริษัทแสนสิริและพันธมิตรธุรกิจในงาน Living in Style 2009 ที่สามารถปิดการขายได้หลายโครงการภายในงาน ทั้งนี้เมื่อรวมกับยอดขายในช่วงไตรมาส 2 ที่สามารถสร้างยอดขายไปกว่า 3,100 ล้านบาท ทำให้สามารถสร้างยอดขายรวมในช่วงครึ่งปีแรกถึงประมาณ 9,200 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายรวมในช่วง 8 เดือน (ณ สิ้นสุดวันที่ 10 สิงหาคม 2552) สามารถสร้างยอดขายได้ถึงประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 59 % จากเป้าหมายยอดขายเดิมซึ่งตั้งไว้ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท
“ การที่กลุ่มแสนสิริมีการปรับแผนการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยที่ครบวงจรเพิ่มขึ้น จากเดิม 16 โครงการ เป็น 19 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 23,000 ล้านบาท ทำให้คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 17,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท ซึ่งการปรับเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจของแสนสิริในครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้แผนการรุกสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มแสนสิริมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น” นายเศรษฐา กล่าว
นอกจากนี้กลุ่มบริษัทแสนสิริ ยังสามารถสร้างยอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Pre-sale backlog) จากโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม เป็นมูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 1-3 ปี โดยจะเป็นมูลค่าที่สามารถรับรู้ภายในปีนี้ได้ถึง 14,500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 89% ของผลประกอบการที่ตั้งไว้ในปีนี้ ทั้งที่ระยะเวลาผ่านไปเพียง 6 เดือนเท่านั้น ซึ่งถือเป็นฐานรายได้สำคัญที่จะสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจในอนาคตที่มั่นคง