พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ รุกตลาดตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์เมืองไทย เดินหน้าขยายสาขา Plus Brokerage

ข่าวทั่วไป Tuesday July 18, 2006 11:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์เนอร์
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ รุกตลาดตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์เมืองไทย เดินหน้าขยายสาขา Plus Brokerage พร้อมเสริมทีมระดับอินเตอร์เจาะตลาดลูกค้าต่างชาติ
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจตัวแทนซื้อ-ขาย-เช่า อสังหาริมทรัพย์คุณภาพของเมืองไทย วางหมากขยายสาขา Plus Brokerage ในไตรมาส 3 ปี 2549 อีก 2 แห่ง หวังเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง หลังประสบความสำเร็จกับการเปิด 5 สาขาแรก ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวหิน พร้อมเสริมทีมงานชาวต่างชาติเพื่อให้บริการหลากภาษาตอบโจทย์ตลาดระดับอินเตอร์เขยิบกินแชร์คู่แข่งอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 2549 โกยรายได้ค่าธรรมเนียมจากบริการด้านนี้กว่า 180 ล้านบาท
นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส ประธานอำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการสร้าง Brand Awareness ของ Plus Brokerage เป็นอย่างมาก โดยทำให้คนทั่วไปรู้จักบริการของ Plus Brokerage มากยิ่งขึ้น ผ่านช่องทางใหม่ทั้ง Shop และ Kiosk ของ Plus Brokerage ทั้ง 5 สาขา ที่ได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ต้นปี ประกอบด้วย สนามบินดอนเมือง, อาซ่า การ์เด้น สุขุมวิท 24, เซ็นทรัล ชิดลม, สยามพารากอน และหัวหิน ทั้งนี้เห็นได้จากยอดตัวเลขจำนวนลูกค้าที่เข้ามาติดต่อสอบถามและใช้บริการซื้อ ฝากขาย หรือฝากเช่า มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากเมื่อปีที่ผ่านมา โดยตั้งแต่มีการเปิด Plus Brokerage มาตั้งแต่ต้นปี 2549 มียอดลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทั้ง 5 สาขา กว่า 30,000 ราย โดยคิดเป็นยอดเฉลี่ยเดือนละ 5,000 ราย ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่เดือนละ 3,000 ราย ทั้งนี้ในครึ่งปีแรกของปีนี้ เราสามารถสร้างยอดรายได้จากธุรกิจการเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์รวมเป็นจำนวน 91 ล้านบาท คิดเป็น 51 % ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะสามารถทำยอดรายได้รวมตามที่ตั้งเป้าไว้ได้อย่างแน่นอน
เกี่ยวกับผลการตอบรับในการใช้บริการของ Plus Brokerage นั้น นายเมธากล่าวว่า “เราค่อนข้างพอใจกับผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการที่สาขาของเรา โดยพบว่าลูกค้าที่ Kiosk ที่สนามบินดอนเมือง ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติที่ต้องการหาเช่าบ้าน และหาซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด สำหรับสาขา อาซ่า การ์เด้น สุขุมวิท 24 ลูกค้าที่เข้ามาสอบถามข้อมูลส่วนใหญ่จะเป็นชาวญี่ปุ่นและยุโรปที่ต้องการเช่าบ้านและคอนโดมิเนียม ส่วนที่สยามพารากอนมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยมีความต้องการหลากหลายประเภท และเป็นทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เฉลี่ยอายุระหว่าง 20-50 ปี ซึ่งสินทรัพย์ที่สนใจส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยระดับราคาเฉลี่ยประมาณ 3 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์กลุ่มผู้ใช้บริการ Plus Brokerage พบว่า กว่าร้อยละ 70 เป็นชาวต่างชาติ ส่งผลให้พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ ได้เสริมทีมงานผู้ที่มีความรู้ความสามารถในระดับอินเตอร์ ที่สามารถสื่อสารได้หลากหลายภาษา อาทิเช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น และภาษาฝรั่งเศส เป็นต้น เพื่อให้บริการที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ซึ่งจุดนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกุญแจสู่ความสำเร็จของบริษัทฯ”
“สำหรับแผนการเปิด Plus Brokerageในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ จะมีการเปิด Plus Brokerage เพิ่มขึ้นอีก 2 สาขา เป็น Kiosk 1 สาขาได้แก่ สาขาอาคารสิริภิญโญ และ Shop 1 สาขา ได้แก่ สาขาโครงการคอนโดมิเนียมสุขุมวิท พลัส ทั้งนี้จะยังคงเดินหน้าสร้าง Brand Awareness ต่อไป โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดแบบผสมผสานเข้ามาช่วย โดยจะมี Road Show ตลอดช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 2549 เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายทราบถึงบริการ Plus Brokerage ว่ามีอะไรบ้าง รวมถึงสต๊อกโครงการที่อยู่อาศัยที่เรามีอยู่ในระบบฐานข้อมูล โดยจะไปตามพื้นที่บริเวณศูนย์กลางธุรกิจเป็นหลัก นอกจากนั้นยังได้เพิ่มช่องทางในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ใหม่ www.thaipropertyplus.com/Huahin ซึ่งเป็น WEBSITE พิเศษที่จัดทำขึ้นเพิ่มเติม เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่สนใจซื้อ ขาย ให้เช่า สินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่ในพื้นที่หัวหินและชะอำอีกด้วยทั้งนี้ตั้งแต่พลัสเปิดตัวเว็บไซต์ www.thaipropetyplus.com เมื่อต้นปี 2549 ที่ผ่านมา มีผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์กว่า 100,000 ราย โดยมีผู้สนใจสมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับข้อมูลข่าวสารจากเราถึง 40,000 ราย ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ สำหรับเว็บไซต์ที่เพิ่งเปิดตัวมาแค่ 6 เดือนเท่านั้น ” นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส เผยถึงกลยุทธ์การรุกตลาดในปี 2549 ของ Plus Brokerage
ด้านมุมมองต่อภาพรวมของธุรกิจตัวแทนซื้อ-ขาย และเช่าสินทรัพย์ในครึ่งปีหลังของ 2549 นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส แสดงความเห็นว่า “แนวโน้มตลาดบ้านมือสองในช่วงครึ่งปีหลัง น่าจะมีความคึกคักมากขึ้นและมีอัตราการเติบโตเล็กน้อย โดยมีแนวโน้มที่ปริมาณ Stock ที่อยู่อาศัยจะเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น จากการที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ กำลังเตรียมนำสินทรัพย์มือสองที่มีอยู่มาเปิดขายในมหกรรมต่างๆ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภคในแง่ของการที่จะมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้แม้ว่าแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจะชะลอตัวลงเล็กน้อย ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันที่ยังคงตัวในระดับสูง รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะปรับตัวสูงขึ้นอีกเล็กน้อยตามภาวะตลาดการเงินของโลก แต่คาดว่าปริมาณความต้องการบ้านมือสองจะยังคงมีอยู่ เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยใหม่ได้ปรับตัวขึ้นตามภาวะต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรของไทย ทุนจดทะเบียน (ชำระแล้ว) 600 ล้านบาท ให้บริการด้านการเป็นตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์, บริหารงานขายโครงการอสังหาริมทรัพย์, ให้คำปรึกษาเรื่องการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์, การบริหารอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัย และโครงการที่พัฒนาเอง ปัจจุบันมีทั้งสิ้นกว่า 30 โครงการ และโครงการที่รับบริหาร (Property Management) รวมกว่า 105 โครงการ ซึ่งถือเป็นอันดับหนึ่งของเมืองไทยในปัจจุบัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
อัญญาพร ธรรมติกานนท์, สุภาพร อ่อนดี
ส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาด
บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์เนอร์ จำกัด
โทร. 0 2661-7555 ต่อ 7889, 7901
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ