ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดประจำเดือนกรกฎาคม 2552 และในช่วง 10 เดือนแรกปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551 — กรกฎาคม 2552)

ข่าวทั่วไป Wednesday August 19, 2009 10:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังได้แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ในเดือนกรกฎาคม 2552 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณจำนวน 62,661 ล้านบาท ส่งผลให้ช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณจำนวนรวมทั้งสิ้น 449,241 ล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 71,138 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 378,103 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.3 ของ GDP สะท้อนถึงบทบาทของภาครัฐในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่ภาคเอกชนชะลอการใช้จ่าย ทั้งนี้ รัฐบาลได้ชดเชยการขาดดุลเงินสดด้วยการออกพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วเงินคลัง ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2552 เท่ากับ 278,987 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่มีความมั่นคงต่อฐานะการคลังของรัฐบาล โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1. ฐานะการคลังเดือนกรกฎาคม 2552 1.1 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 101,457 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 2,677 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.6) โดยมีสาเหตุสำคัญจากการจัดเก็บรายได้ที่ลดลงในช่วงเศรษฐกิจหดตัว ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้นิติบุคคล และอากรขาเข้าลดลงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 1.2 รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 164,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 25,280 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 18.2) ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ 128,632 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว รายจ่ายลงทุน 30,098 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว และมีการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อนอีกจำนวน 5,388 ล้านบาท (ตารางที่ 1) การเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สำคัญในเดือนนี้ ได้แก่ รายจ่ายให้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจำนวน 10,000 ล้านบาท รายจ่ายเงินสำรองให้กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ จำนวน 8,360 ล้านบาท และรายจ่ายให้สำนักงานประกันสังคมจำนวน 5,000 ล้านบาท ตารางที่ 1 การเบิกจ่ายเงินงบประมาณเดือนกรกฎาคม 2552 หน่วย: ล้านบาท เดือนกรกฎาคม เปรียบเทียบ 2552 2551 จำนวน ร้อยละ 1. รายจ่ายปีปัจจุบัน 158,730 134,497 24,233 18.0 1.1 รายจ่ายประจำ 128,632 115,870 12,762 11.0 1.2 รายจ่ายลงทุน 30,098 18,627 11,471 61.6 2. รายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 5,388 4,341 1,047 24.1 3. รายจ่ายรวม (1+2) 164,118 138,838 25,280 18.2 ที่มา: กรมบัญชีกลาง 1.3 จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนกรกฎาคม 2552 ขาดดุล 62,661 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 61,305 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการออกพันธบัตรตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อสมทบเงินคงคลังจำนวน 50,000 ล้านบาท การออกตั๋วเงินคลังสุทธิจำนวน 3,000 ล้านบาท และรายได้จากส่วนเกินพันธบัตรอีกจำนวน 800 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 1,356 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อการชดเชยการขาดดุลโดยออกพันธบัตรจำนวน 65,000 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังกู้ชดเชยการขาดดุล) เกินดุลจำนวน 63,644 ล้านบาท (ตารางที่ 2) ตารางที่ 2 ฐานะการคลังตามระบบกระแสเงินสดเดือนกรกฎาคม 2552 หน่วย: ล้านบาท กรกฎาคม เปรียบเทียบ 2552 2551 จำนวน ร้อยละ 1. รายได้ 101,457 104,134 -2,677 -2.6 2. รายจ่าย 164,118 138,838 25,280 18.2 3. ดุลเงินงบประมาณ -62,661 -34,704 -27,957 80.6 4. ดุลเงินนอกงบประมาณ 61,305 -32,799 94,104 -286.9 5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) -1,356 -67,503 66,147 -98.0 6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 65,000 5,809 59,191 1019.0 7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6) 63,644 -61,694 125,338 -203.2 ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 2. ฐานะการคลังในช่วง 10 เดือนแรกปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551 — กรกฎาคม 2552) 2.1 รายได้นำส่งคลัง รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,128,844 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 107,150 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 8.7) เนื่องจากการจัดเก็บภาษีของ 3 กรมหลักที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้นิติบุคคล อากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และภาษีธุรกิจเฉพาะ นอกจากนั้นการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจก็ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน 2.2 รายจ่ายรัฐบาล การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 1,578,085 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 219,165 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 16.1 ประกอบด้วยรายจ่ายปีปัจจุบัน 1,467,057 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 15.6 คิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 75.2 ของวงเงินงบประมาณ (1,951,700 ล้านบาท) และรายจ่ายปีก่อน 111,028 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้วร้อยละ 22.9 (ตารางที่ 3) รายจ่ายปีปัจจุบันจำนวน 1,467,057 ล้านบาท แบ่งออกเป็นรายจ่ายประจำ 1,228,648 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 19.1 และรายจ่ายลงทุน 238,409 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.8 ตารางที่ 3 การเบิกจ่ายงบประมาณในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 หน่วย: ล้านบาท 10 เดือนแรก เปรียบเทียบ 2552 2551 จำนวน ร้อยละ 1. รายจ่ายปีปัจจุบัน 1,467,057 1,268,554 198,503 15.6 1.1 รายจ่ายประจำ 1,228,648 1,031,920 196,728 19.1 1.2 รายจ่ายลงทุน 238,409 236,634 1,775 0.8 2. รายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 111,028 90,366 20,662 22.9 3. รายจ่ายรวม (1+2) 1,578,085 1,358,920 219,165 16.1 ที่มา: กรมบัญชีกลาง 2.3 ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ขาดดุล 378,103 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 449,241 ล้านบาท ส่วนดุลเงินนอกงบประมาณเกินดุลจำนวน 71,138 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการออกพันธบัตรตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง ฯ จำนวน 50,000 ล้านบาท และการได้รับรายได้จากการชดใช้เงินคงคลังจำนวน 27,540 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้บริหารเงินสดให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงิน รวมทั้งสร้างความมั่นคงของฐานะการคลัง จึงได้ชดเชยการขาดดุลดังกล่าวด้วยการออกพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วเงินคลังรวม 428,030 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล) เกินดุล 49,927 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2552 มีจำนวน 278,987 ล้านบาท (ตารางที่ 4) ตารางที่ 4 ฐานะการคลังตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 10 เดือนแรกปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551 — กรกฎาคม 2552) หน่วย: ล้านบาท 10 เดือนแรก เปรียบเทียบ 2552 2551 จำนวน ร้อยละ 1. รายได้ 1,128,844 1,235,994 -107,150 -8.7 2. รายจ่าย 1,578,085 1,358,920 219,165 16.1 3. ดุลเงินงบประมาณ -449,241 -122,926 -326,315 265.5 4. ดุลเงินนอกงบประมาณ 71,138 -50,381 121,519 -241.2 5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) -378,103 -173,307 -204,796 118.2 6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 428,030 157,700 270,330 171.4 7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6) 49,927 -15,607 65,534 -419.9 ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร 0-2273-9020 ต่อ 3558 และ 3555

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ