กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--กู๊ด มอร์นิ่ง มันเดย์
วันแม่หนหนึ่ง สำหรับบางคนก็จะแกล้งรักแม่ทีหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ตลอดปีที่ผ่านมาไม่ได้พูด หรือทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความรู้สึกแม่-ลูกที่ดีต่อกัน ...ขอให้มองว่า วันแม่ เป็นวันที่เตือนให้ระลึกถึงความจริงที่ว่า เมื่อคนเราเกิดมาเป็นแม่เป็นลูกกัน ในช่วงแรก แม่ก็จะต้องเป็นที่พึ่งให้กับลูก แต่ต่อมา ลูกจะต้องทำใจและทำตัวให้เป็นที่พึ่งของแม่เหมือนกัน ..ถ้ายังทำไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดระลึกให้ได้ว่า เขาเป็นแม่เรา ท่านให้ชีวิตเรามา คนอื่นให้เงินคุณร้อยล้าน ก็ยังไม่เท่ากับให้ชีวิตนะ ...คนอื่นให้เงินคุณแค่หมื่นบาทแสนบาท ก็ไปไหว้กราบกรานเขา ...คุณเคยไปกราบคนที่ให้ชีวิตคุณมาหรือเปล่า ลองทบทวนดู... คำกล่าวโดย ดังตฤณ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ โรงเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษ เอ็นคอนเส็ปท์ อี แอคเคเดมี่ นำทีมโดยครูพี่แนน — อริสรา ธนาปกิจ รองผู้อำนวยการและหัวหน้าทีมเอ็ดดูเทนเนอร์ ผนึกมือ นักเขียนหนังสือธรรมะชื่อดัง ดังตฤณ — ศรันย์ ไมตรีเวช จัดโครงการเสวนาพิเศษ “ลึกซึ้งพระคุณแม่” ภายใต้โครงการ “ติว GAT (General Aptitude Test) ลึกซึ้งพระคุณแม่” เพื่อติวข้อสอบ GAT ภาษาอังกฤษ ไปพร้อมกับแนะนำ ธรรมะเบื้องต้นที่จะช่วยให้คุณแม่ และลูก ๆ เกิดความรู้สึกผูกพันรักใคร่กลมเกลียวด้วยความเข้าใจและมีความสุข
บรรยากาศภายในงานเนืองแน่นด้วยเยาวชนนับพันคน โดยจำนวนไม่น้อยที่ควงคู่พาคุณแม่มาร่วมฟังการเสวนาพิเศษครั้งนี้ ซึ่งมีการติว GAT ในช่วงเช้า และเปิดเวทีเสวนาพิเศษ “ลึกซึ้งพระคุณแม่” ในช่วงบ่าย โดย ครูพี่แนน พร้อมด้วย Sup’K ติวเตอร์คณิตศาสตร์ชื่อดังได้ร่วมกันนำประสบการณ์ชีวิตเกี่ยวกับพระคุณแม่ มาเล่าให้เด็ก ๆ ฟัง ขณะที่ นักเขียนหนังสือธรรมมะชื่อดัง “ดังตฤณ” ได้มาร่วมไขข้อข้องใจปัญหาแม่ ๆ ลูก ๆ และให้ข้อคิดการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข โดยมีคุณแม่และคุณลูกให้ความสนใจถามคำถามกันอย่างมากมาย
สำหรับคำถามยอดฮิตจากฟากของ คุณแม่ ๆ อาทิ “ทนไม่ไหวจริง ๆ แล้วเกิดลงไม้ลงมือกับลูก บาปไหมคะ?” ซึ่ง ดังตฤณ ได้ตอบว่า “การตีลูก มีด้วยกัน 2 อย่าง คือ ตีด้วยโทสะ หรือ ตีด้วยเมตตา หากตีด้วยโทสะ คือ ตีแบบไม่ยั้ง ทำให้รู้สึกว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกัน ลูกรู้ถึงรสชาติความเจ็บปวด กลัวความโหดร้ายของแม่ แต่ถ้าตีด้วยเมตตา คือ ตีแบบมีเหตุผล ตีเพื่อให้ลูกได้ดี กระแสที่มันออกมาหรือกระทบใจลูกจะต่างไป เวลาที่ลูกกลัวเขา จะกลัวในความยำเกรงแบบที่แม่มีเมตตา ที่แม่ใช้อำนาจนั้นมันต่างกัน เวลาลูกโตขึ้นเขาจะสำนึกในรสไม้เรียวสำนึกบุญคุณ ลูกเข็ดหลาบและได้ดีขึ้น หากใจเรายังนุ่มนวล เราตีลูกเพื่อไม่ให้เขาเตลิดไป เป็นการทำด้วยความรัก”
นอกจากนี้ ยังมีคำถามอย่างเช่น “แม่-ลูก เถียงกันเรื่องการเรียน แม่อยากให้เรียนอีกอย่าง แต่ลูกอยากเรียนอีกอย่าง บาปไหม?” ซึ่ง ดังตฤณ ได้ช่วยไขข้อข้องใจว่า “ความขัดแย้งระหว่างแม่ กับ ลูก เป็นปัญหาคู่โลก เป็นความขัดแย้งทางความคิด ไม่ถือว่าบาป เพียงแต่เราต้องไม่คิดหรือพูดต่อกันด้วยโทสะ หรืออารมณ์โกรธ สำหรับพ่อแม่ หากคุณเลี้ยงลูกในสิ่งที่คุณอยากให้เป็น คุณจะไม่มีทางได้รู้จักลูก หรือตัวตนที่แท้จริงของลูก และสำหรับลูก เราควรพูดกับพ่อแม่ดี ๆ ให้ท่านเข้าใจในตัวตนของเรา จะได้ไม่ต้องเถียงกัน พูดด้วยเหตุด้วยผล”
สำหรับคำถามยอดฮิต จากฟากเยาวชน อาทิ “หนูขยันแล้วทำไมถึงยังไม่ประสบความสำเร็จ ?” ซึ่งได้รับคำตอบจาก ดังตฤณ ว่า “คนส่วนใหญ่มักชอบคิดว่าขยันแล้วต้องฉลาด ซึ่งจริง ๆ ความขยัน กับ ความฉลาด มันคนละเรื่องกัน ก่อนอื่นให้มองว่า เราขยันแบบช่างสังเกต หรือ ขยันแบบวกวนย้อนไปย้อนมา หรือ ขยันไป ท้อไป บางคนขยันจริง แต่ขยันด่าว่าตัวเอง ต้องลองสังเกต เราต้องรู้จักให้กำลังใจตัวเอง ต้องรู้จักสังเกต ค้นหาทางลัดที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้จริง ๆ ไม่ใช่แค่เรียน ๆ ไป”
ในท่ามกลางคุณแม่นับครึ่งร้อยที่มาร่วมงานในวันนี้ คุณแม่ศรีจันทร์ กิตติพงษ์พัฒนา ผู้ร่วมงานกล่าวว่า “ประทับใจกิจกรรมนี้มากๆ มีประโยชน์สำหรับลูก เหมือนกับเราได้สอนลูกๆไปในตัวด้วยว่าคุณค่าของแม่เป็นยังไง” ขณะที่ คุณแม่พรทิพย์ ลิมสัมพันธ์เจริญ เปิดใจว่า “เป็นวันที่คุณแม่รอคอยอยู่แล้วคะ อยากให้เขามาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ซึ่งลูกก็อยากมา เลยชวนกันมา เพราะรู้สึกว่ามีประโยชน์มากได้ทั้งติว GAT และฟังธรรมะช่วงบ่าย ทำให้ได้แง่คิด”
ด้านคุณแม่สุวิมล ธีระภาพ บอกว่า “ การอ่านหนังสือของเด็ก บางครั้งมันวกวนอยู่อย่างนั้น หาทางออกไม่ได้ แต่การนั่งสมาธิทำให้เขามีสติขึ้น วันนี้เขาได้รับประโยชน์มากจริง ๆ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเด็กควรมีสิทธิ์ที่จะเลือกสิ่งที่เขาชอบ เพราะฉะนั้นไม่ต้องตั้งเป้า เขาไม่ใช่หนูทดลองที่ต้องทำตามใจแม่ ..แต่เขาทำในสิ่งที่เขาชอบจะดีที่สุด”ส่วน นางกรกมล จรดล อีกหนึ่งผู้หญิงเก่งที่เป็นผู้บริหารของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เปิดใจว่า “รู้สึกว่ากิจกรรมช่วย ทำให้เด็กมีความอ่อนโยน และได้ระลึกถึงพระคุณแม่ เป็นวัฒนธรรมที่งดงามมาก มันมีน้อยในโลกนี้ แต่ เอ็นคอนเส็ปท์ ได้สร้างสรรค์ความคิดที่ดีให้กับเยาวชน เชื่อว่าลูกได้รับสิ่งดี ๆ มากมายเกินกว่าจะบรรยายได้ในวันนี้ และเขามีครูพี่แนน เป็นไอดอลที่ดี เป็นผู้จุดประกายให้เขาคะ”
ในกิจกรรมครั้งนี้ ครูพี่แนน ยังได้เชิญ ดังตฤณ แนะหลักการฝึกสมาธิอย่างง่าย ๆ ให้กับเยาวชนและผู้ปกครองอีกด้วย เริ่มจากการนั่งขัดสมาธิ หลังตรงแต่ไม่เกร็ง สังเกตฝ่าเท้า ฝ่ามือ ใบหน้า ไม่มีอาการเกร็ง ทำให้เกิดความรู้สึกสบายขึ้นทั่วตัว แล้วลองสังเกตไปที่จิตใจของเรา ไม่มีอาการเกร็งหรือเคร่ง ไม่มีอาการคาดหวัง ให้มีแต่ความรู้สึกโล่ง ๆ สบาย ๆ เพียงแค่สังเกตตัวเองว่าร่างกายขณะนี้ต้องการลมหายใจเข้า หรือระบายลมออก ก็จะเป็นการเริ่มเข้าสู่สมาธิได้ ทำให้รู้สึกสบาย ทำได้ยิ่งบ่อยยิ่งดี
กิจกรรม “ลึกซึ้งพระคุณแม่” ปิดท้ายลงโดยครูพี่แนน ได้เชิญคุณแม่ทุกท่านที่มาร่วมงานออกมานั่งด้านหน้าเวทีพร้อมกัน เพื่อให้ลูก ๆ ที่พาคุณแม่มาร่วมงานได้นำพวงมาลัยดอกมะลิมากราบเท้าแม่เพื่อแสดงความรักและขอขมา นำมาซึ่งความตื้นตันใจและน้ำตาแห่งความปิติท่วมท้น
…“ไม่มีรักใด บนโลกที่อุบัติขึ้นเพียง 9 เดือน รักโดยไม่ต้องเห็นหน้ากันมาก่อน และเป็นรักที่นิรันดร เทียบเท่ารักของแม่ที่มีต่อลูกได้... พระคุณแม่นี้จึงยิ่งใหญ่ จักหาสิ่งใดเทียบเคียงได้” ...
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ภรณ์ธณัฐ สถิรกุล หรือ ฐิภา จิ๋วแก้ว ส่วนที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์
บริษัท กู๊ด มอร์นิ่ง มันเดย์ จำกัด โทร 02-953-9624-5 ต่อ 801/ 806
แฟกซ์ 02-953-9264-5 อีเมล์ gmmonday2020@gmail.com