ลุยตรวจจับช้างเร่ร่อนในพื้นที่ตัดวงจรไม่ให้กลับมาเร่ร่อนอีก

ข่าวทั่วไป Wednesday August 19, 2009 16:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม. กทม. กำหนด 6 มาตรการแก้ปัญหาช้างเร่ร่อนเป็นกรอบปฏิบัติการให้ช้างเร่ร่อนหมดไปจากพื้นที่ ล่าสุดนำกำลังเจ้าหน้าที่และสัตวแพทย์ลุยตรวจจับและยึดช้างเร่ร่อนโดยไม่มีการผ่อนปรน แล้วนำไปดูแลที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี เพื่อตัดวงจรเร่ร่อน ส่วนช้างที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการโฮมสเตย์จะหาอาชีพแก่ควาญและดูแลช้างให้อย่างดี ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการช้างยิ้ม ว่า กรุงเทพมหานครมีการประชุมร่วมกับกรมปศุสัตว์ กลุ่มควาญช้างสุรินทร์ และเจ้าหน้าที่จากสำนักเทศกิจ กองการท่องเที่ยว สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนระยะยาวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้กำหนด 6 มาตรการ เพื่อเป็นกรอบปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรม ภายหลังที่กทม. สามารถแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง สามารถลดจำนวนช้างเร่ร่อนในพื้นที่เหลือเพียง 10% เท่านั้น ซึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนคือการซื้อช้างพังบัวคำเพื่อนำไปดูแลที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างลำปาง จากเงินบริจาคของประชาชน และการอายัดช้างพลายโชคดีไปดูแลที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี เนื่องจากตั้งข้อสงสัยว่าเป็นช้างป่า สำหรับมาตรการ 6 อย่างที่มีข้อตกลงร่วมกัน คือ 1. ในคืนนี้ (19 ส.ค. 52) จะนำกำลังเจ้าหน้าที่และสัตวแพทย์ลุยตรวจจับและยึดช้างเร่ร่อนในพื้นที่กรุงเทพ โดยไม่มีการผ่อนปรน แล้วนำไปดูแลที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรีเป็นเวลา 30 วัน เพื่อให้เจ้าของแสดงหลักฐานเจ้าของ รูปพรรณ สัณฐาน และดำเนินการปรับตามกฎหมาย ทั้งนี้จังหวัดท่องเที่ยวอื่นต้องให้ความร่วมมือในลักษณะเดียวกันด้วย 2. การแก้ไขปัญหาระยะยาว จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งจากการศึกษาพบว่ามีปางช้างหลายแห่งสามารถรองรับช้างได้จำนวนหนึ่ง เช่น ปางช้างสุรินทร์ที่กทม. จะร่วมกับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อบต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ สร้างโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวใช้ชีวิตร่วมกับช้างและเรียนรู้วิถีช้าง ขณะนี้มีควาญช้างประสงค์เข้าร่วมงาน 13 ราย ช้าง 36 เชือก โดยควาญช้างจะมีงานทำส่วนช้างก็จะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี พื้นที่ที่จะดำเนินการจำนวน 3,000 ไร่ ส่วนศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี มีพื้นที่ 130 ไร่ ก็จะจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ปลูกพืชอาหารช้าง กิจกรรมการเลี้ยงช้าง การอาบน้ำให้ช้าง และอนาคตจะมีโครงการช้างบำบัดผู้ป่วยออทิสติกด้วย 3. มีความเห็นร่วมกันว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องเป็นเจ้าของงานเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาระยะยาว โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะเข้าพบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ ด้วยตนเองเพื่อหารือในประด็นดังกล่าว 4. การส่งเสริมการท่องเที่ยวงานช้างสุรินทร์ที่จะจัดในเดือน พ.ย. นี้ พร้อมกับการเปิดตัวศูนย์อนุรักษ์ช้างสุรินทร์ด้วย 5. กทม. ร่วมกับหลายหน่วยงานจัดคอนเสิร์ตเพื่อช้างยิ้ม ในเดือน ธ.ค. 52 เพื่อหารายได้เข้ากองทุนอนุรักษ์ช้างที่ กทม.ได้เปิดบัญชีรับบริจาค ซึ่งรายได้จะนำไปบริหารจัดการโครงการช้ายิ้มต่อไป และ 6. กทม. โดยสำนักเทศกิจจัดเตรียมการเสนอให้ตราข้อบัญญัติช้าง ให้สามารถบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับช้างได้ในพื้นที่ ซึ่งจะนำเรื่องนี้เข้าบรรจุในวาระการประชุมสภากทม. ในเดือน ม.ค. 53 รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการสำรวจขณะนี้ในประเทศไทยมีช้างที่ไม่ใช่ช้างป่าทั้งหมด 3,825 เชือก เป็นช้างที่อยู่ในปางช้าง 1,991 เรื่อง นอกนั้นเป็นช้างเร่ร่อนหรือลากไม้อีก 1,834 เชือก โดยทั้งหมดฝังไมโครชิปแล้ว ทั้งนี้หากพบว่าเป็นช้างที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยหรือเป็นช้างป่า ก็จะดำเนินการอายัติและดำเนินคดีต่อไป ซึ่งในระยะนี้กทม. ยังคงรับบริจาคเงินจากผู้มีใจศรัทธาอยู่ เพื่อนำไปช่วยช้างไทยให้ยิ้มได้อย่างยั่งยืน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ