กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--สศค.
ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้จัดการสัมมนาวิชาการของ สศค. (FPO Forum) ภายใต้หัวข้อ “ความคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถภาคบังคับ: เข้มแข็ง เพียงพอ หรือยัง” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม 2552 ณ ห้องประชุมป๋วย อึ๊งภากรณ์ สศค. โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่างๆ จำนวน 8 ท่าน ได้แก่
1) ดร. อัมมาร์ สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย 2) ดร. คณิศ แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง 3) นายวิวัฒน์ เกิดไพบูลย์ ผู้ช่วยเลขาธิการสายกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) 4) นายชูฉัตร ประมูลผล ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักเลขาธิการ สำนักงาน คปภ.
5) นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด 6) นายนพดล สันติภาภรณ์ ประธานกรรมการประกันภัยยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัย 7) นายแพทย์เทียม อังสาชน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี และ 8) นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมการสัมมนาฯ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จำนวน 130 คน
ดร. สมชัย สัจจพงษ์ ได้กล่าวเปิดการสัมมนา และกล่าวถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ในการจัดการเสวนาฯ ว่า จากผลการศึกษาคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในช่วงปี พ.ศ. 2550 พบว่า ผู้ประสบภัยจากรถยังคงมีปัญหา อุปสรรค ความยุ่งยาก และความเดือนร้อน จากการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (กฎหมายปัจจุบัน) ดังนั้น เพื่อให้กระบวนการและการบริหารจัดการเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถภาคบังคับมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คณะกรรมาธิการฯ จึงเสนอให้ยกเลิกกฎหมายปัจจุบัน และให้ออกเป็นกฎหมายใหม่ ใช้ชื่อว่า “ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถภาคบังคับ พ.ศ. ....” แทน ดังนั้น สศค. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานเสนอแนะนโยบายต่างๆ ต่อกระทรวงการคลัง ซึ่งในปัจจุบันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้กำกับดูแลกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับการประกันภัยในภาพรวม จึงเห็นว่า การจัดการสัมมนาในวันนี้เป็นโอกาสที่ดีของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ที่จะได้รับฟังความเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อที่จะใช้ในการปรับปรุงและพัฒนานโยบายการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
การแลกเปลี่ยนความเห็นของการสัมมนาฯ สรุปประเด็นที่สำคัญได้ดังนี้
1. ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายปัจจุบันอาจทำให้ผู้ประสบภัยจากรถประสบปัญหาด้านการทดรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อน และทำให้สถานพยาบาลอาจประสบความยุ่งยากในการเบิกค่าเสียหายจากบริษัทประกันภัย
2. สำหรับในด้านการบริหารจัดการของภาคเอกชนในปัจจุบัน มีต้นทุนค่อนข้างสูง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากค่าการตลาด เมื่อเทียบกับจำนวนเบี้ยประกันภัยที่ได้รับ และจำนวนต้นทุนที่สูงนี้เป็นจำนวนเกือบเทียบเท่ากับจำนวนค่าสินไหมทดแทน นอกจากนี้ ผู้ประสบภัยจากรถส่วนใหญ่ยังไปใช้สิทธิรักษาพยาบาลอื่นๆ เช่น สิทธิตามกองทุนประกันสุขภาพ ตามระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นต้น นอกเหนือจากสิทธิตามกฎหมายปัจจุบัน
3. จากปัญหาข้างต้น จึงได้มีข้อเสนอที่จะปรับปรุงกฎหมายปัจจุบันที่จะให้กลไกภาครัฐในการบริหารจัดการ และใช้หลักการประกันภัยโดยไม่ต้องพิสูจน์ความผิด (no-fault insurance) เพื่อที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการนั้นมีจำนวนลดลง และทำให้ผู้ประสบภัยจากรถได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
จากการสัมมนาฯ ในครั้งนี้ สศค. จะได้นำข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ รวมทั้ง ประเด็นปัญหาและอุปสรรคในด้านต่างๆ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ และหารือแนวทางการปรับปรุงกฎหมายร่วมกับสำนักงาน คปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอกระทรวงการคลังต่อไป