รัฐบาล โดย ศปถ. จัดงานสัมมนา “พลังเครือข่าย เพื่อถนนปลอดภัย : Partnership for Road Safety”

ข่าวทั่วไป Thursday August 20, 2009 10:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--ศปถ. รัฐบาล โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ซึ่งมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เป็นเลขานุการฯ ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจัดสัมมนาระดับชาติเรื่องอุบัติเหตุจราจร ครั้งที่ ๙ “พลังเครือข่าย เพื่อถนน ปลอดภัย : Partnership for Road Safety” ระหว่างวันที่ ๒๐- ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๒ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นเวทีให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้รับทราบนโยบายด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของรัฐบาล และร่วมเสนอแนะนโยบาย แนวทางการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่สามารถนำไปพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประธานเปิดการสัมมมาฯ เปิดเผยว่า ปัญหาอุบัติเหตุจราจรถือเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตและบาดเจ็บของคนไทย โดยในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรกว่าปีละ ๑๒,๐๐๐ คน หรือเฉลี่ยวันละ ๓๓ คน คิดเป็นอัตราผู้เสียชีวิต ๑๙ คนต่อแสนประชากร ซึ่งสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจถึงปีละหลายแสนล้านบาท รัฐบาลจึงได้ประกาศให้การป้องกันอุบัติเหตุทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ และจัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการความร่วมมือด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจราจรระดับประเทศ โดยมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นเลขานุการศูนย์ฯ ดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนทั้งในช่วงปกติและเทศกาลสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง และจากประสบการณ์การดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พบว่า การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เป็นแนวทางสำคัญที่จะทำให้การดำเนินงานป้องกันและ ลดอุบัติเหตุทางถนนบรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้น รัฐบาล โดย ศปถ. ซึ่งมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นเลขานุการฯ จึงได้ร่วมหน่วยงานภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน จัดการสัมมนาระดับชาติ เรื่อง อุบัติเหตุจราจร ครั้งที่ ๙ “พลังเครือข่าย เพื่อถนนปลอดภัย : Partnership for Road Safety” ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๒ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นเวทีให้ผู้บริหาร นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงานจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับทราบนโยบายด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของรัฐบาล และร่วมเสนอนโยบายสาธารณะ แนวทางการบูรณาการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่สามารถนำไปพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลโดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้กำหนดให้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเป็นวาระแห่งชาติที่จะต้องเร่งแก้ปัญหา โดยใช้แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. ๒๕๕๒ — ๒๕๕๕ เป็นทิศทางการกำหนดนโยบายการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน มุ่งเม้นการแก้ปัญหาผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์อย่างเป็นระบบ และส่งเสริมให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสนับสนุนการปฏิบัติงานของตำรวจจราจรให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ตลอดจนส่งเสริมการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนหลัก โดยเน้นมาตรฐานด้านความปลอดภัย ทั้งตัวรถ อุปกรณ์ และพนักงานขับรถที่มีคุณภาพ และที่สำคัญ รัฐบาลจะกำหนดนโยบายให้ทุกจังหวัดและทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสำคัญกับการสร้างความปลอดภัยทางถนน โดยจัดให้มีแผนงานและงบประมาณรองรับ ทั้งนี้ รัฐบาลจะผลักดันมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนของประเทศให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล โดยผนึกกำลังทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความปลอดภัยทางถนน นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมว่า ในงานสัมมนาครั้งนี้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีจะแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ทิศทางนโยบายการแก้ปัญหาอุบัติเหตุจราจร” และเป็นประธานมอบรางวัล Prime Minister Safety Award แก่องค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านความปลอดภัยทางถนน รวมทั้งมีการแสดงนิทรรศการด้านความปลอดภัยทางถนนของหน่วยงานภาคีเครือข่าย การบรรยายและแลกเปลี่ยนความรู้ในหัวข้อต่างๆ เช่น ใบขับขี่รุ่นเยาว์เพื่อถนนปลอดภัย มิติใหม่สู่ความปลอดภัย...มอเตอร์ไซค์กับวัยรุ่น การนำเสนอชุมชนต้นแบบด้านการส่งเสริมความปลอดภัยทางถนน การยกกรณีศึกษาในการจัดการข้อมูลระดับพื้นที่ในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา การขับเคลื่อนด้านการเมาไม่ขับ การจัดการด้านความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ การจัดระบบรถโรงเรียน เป็นต้น ทั้งนี้ ปภ.คาดหวังว่าการสัมมนาดังกล่าวจะก่อให้เกิดรูปแบบการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถนำไปขยายผลการพัฒนาให้มีรูปแบบที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ชุมชนในระดับท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจราจรมากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ