กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--บีโอไอ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีนแน่นแฟ้น ร่วมเปิดสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ เมืองกวางโจว นับเป็นสำนักงานฯแห่งที่ 12 ของบีโอไอ และเป็นแห่งที่ 3 ในประเทศจีน ตั้งเป้าดึงนักธุรกิจหัวเมืองเศรษฐกิจหลักจีนลงทุนในไทยเพิ่ม
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยระหว่างการเดินทางชักจูงการลงทุน ที่นครกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 18-21 สิงหาคม 2552 ว่า กิจกรรมชักจูงการลงทุน (โรดโชว์) พร้อมด้วยการเปิดสำนักงานส่งเสริมการลงทุนแห่งใหม่ ซึ่งเป็นสำนักงานแห่งที่ 12 ของสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน (บีโอไอ) ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ ของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญ และมีความพร้อมรองรับการลงทุนจากจีนที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น
โดยสำนักงานที่กวางโจว นับเป็นสำนักงานฯแห่งที่ 3 ในประเทศจีน หลังจากในช่วงที่ผ่านมา บีโอไอ ได้เปิดสำนักงานไปแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ ที่เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง โดยสำนักงานฯกวางโจว จะเป็นศูนย์กลางการให้ข้อมูล ให้คำปรึกษาเรื่องการลงทุนทั้งจากจีนมาไทยและไทยไปลงทุนในจีน มีเป้าหมายในการจัดกิจกรรมเชิงรุก และชักจูงการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม เกษตร ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ พลาสติก อสังหาริมทรัพย์ การบริการ และท่องเที่ยว เป็นต้น
“กวางโจวเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของมณฑลกวางตุ้ง และนับเป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากซึ่งไฮ้และปักกิ่ง ซึ่งสำนักงานฯของบีโอไอ จะเป็นศูนย์กลางการให้ข้อมูลที่สำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากกลุ่มนักธุรกิจจากเมืองกวางโจวเอง และพื้นที่ใกล้เคียงให้ตัดสินใจเข้าไปลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ในอนาคตบีโอไอยังพิจารณาถึงการเปิดสำนักงานฯแห่งที่ 4 ที่เมืองคุณหมิง มณฑลยูนนาน ซึ่งจะเป็นการกระจายการให้ข้อมูลส่งเสริมการลงทุนของไทย และดึงดูดการลงทุนจากจีนให้ครอบคลุมถึงเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของจีนได้ทั่วถึงยิ่งขึ้นอีกด้วย”นายชาญชัย กล่าว
นายชาญชัย กล่าวว่า สำหรับการจัดสัมมนา เรื่อง “Thailand Means Business” ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุน และผู้นำภาครัฐและเอกชนของไทยและสมาชิกของสมาคมยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลก รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจในเมืองกวางโจว เข้าร่วมเป็นจำนวนกว่า 500 คน ซึ่งเป็นโอกาสที่บีโอไอจะได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจในการส่งเสริมการลงทุน และชักชวนกลุ่มธุรกิจดังกล่าว ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ มีชื่อเสียง และมีความพร้อมที่จะเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ ได้พิจารณาและตัดสินใจที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศไทยในอนาคต
นอกจากนี้ในกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ มีกลุ่มนักธุรกิจไทยกว่า 50 รายที่เป็นสมาชิกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน และผู้ประกอบการในสาขา อาหาร ข้าว ยาง และอื่น ๆ เข้าร่วมหารือและเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการชั้นนำของจีนกว่า 350 คน ในกลุ่มอุตสาหกรรม อาหาร ข้าว และยาง ฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ พลาสติก วัสดุตกแต่งภายใน อสังหาริมทรัพย์ การบริการ และท่องเที่ยว เป็นต้น
ทั้งนี้จากการเดินทางไปเยี่ยมชมกลุ่มบริษัท TCL Corporation ที่เมืองฮุ้ยโจว ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตจอLCD โทรทัศน์สี โทรศัพท์มือถือ รายใหญ่ที่สุดของจีน และ เป็นผู้ผลิตอันดับต้นๆของโลกในกลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายชนิด เช่น เป็นผู้ผลิต เครื่องเล่นดีวีดีอันดับหนึ่งของโลก บริษัท TCL เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ดำเนินกิจการในหลายประเภท อาทิ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อสังหาริมทรัพย์ นิคมอุตสาหกรรมฯ นั้น พบว่าบริษัทได้แสดงความสนใจในนโยบายส่งเสริมการลงทุน และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับหากไปลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างมาก
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า กิจกรรมการจัดสัมมนา และจับคู่ธุรกิจ ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักธุรกิจเป็นจำนวนมาก ซึ่งนับเป็นกิจกรรมต่อเนื่องหลังจากในช่วงปลายเดือน กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา การจัดกิจกรรมสัมมนาและจับคู่ธุรกิจร่วมกันของนักลงทุนไทยและสมาชิกจากสมาคมนักธุรกิจเชื้อสายจีนยอดเยี่ยมทั่วโลก ในประเทศไทยประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี และคาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการค้าการลงทุนร่วมกันกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ บีโอไอจะเป็นหน่วยงานหลัก ที่ทำหน้าที่ประสานงานและส่งเสริมให้การจับคู่ธุรกิจดังกล่าว เกิดการลงทุนขึ้นได้จริงต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วง 39 ปีที่ผ่านมา มีโครงการลงทุนจากจีนที่บีโอไอออกบัตรส่งเสริมการลงทุนแล้ว รวม 277 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 36,141 ล้านบาท สำหรับการขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 10 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 507 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยปัจจุบันมีบริษัทรายใหญ่ในมณฑลกวางตุ้งลงทุนในไทยแล้ว อาทิ China International Marine Containers (Group) Co.,LTD. บริษัท Midea บริษัท Dongyun และ Minth Group Ltd. เป็นต้น
สำหรับสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ เมืองกวางโจว มี นางสาวบังอร ฐิตะไพศาลผล เป็นผู้อำนวยการฯ ตั้งอยู่ที่ Royal Thai Consulate-General Room 1216-1218,Garden Tower ,368 Huanshi Dong Road,Guangzhou 510064 P.R.C. E-mail : Guangzhou@boi.go.th