กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศอันดับเครดิตภายในประเทศ (National rating) ระยะสั้น ที่ระดับ ‘F2(tha)’ แก่ตั๋วแลกเงิน มูลค่าไม่เกิน 1 พันล้านบาท ซึ่งมีอายุไม่เกิน 270 วัน ซึ่งออกโดยบริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) (“FNS”) อันดับเครดิตมีพื้นฐานมาจากความน่าเชื่อถือของ FNS ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ระดับ ‘BBB(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F3(tha)’ และส่วนสนับสนุนอันดับเครดิตจากการค้ำประกันเงินต้นในสัดส่วน 50% โดย The Netherlands Development Finance Company (“FMO”) FMO มีอันดับเครดิตเทียบเท่ากับอันดับเครดิตของประเทศเนเธอร์แลนด์ (ซึ่งมีอันดับเครดิตสากลที่ ‘AAA’/ แนวโน้มมีเสถียรภาพ/ ‘F1+’) เนื่องด้วย FMO มีรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และได้รับการสนันสนุนภายใต้ข้อตกลงในปี 2541 จากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์
ผู้ถือตั๋วแลกเงินของ FNS คาดว่าจะได้รับการชำระคืนเงินต้นจาก FNS เป็นลำดับแรก ในกรณีที่ FNS ไม่สามารถทำการชำระหนี้ได้ FMO จะทำการชำระคืนในสัดส่วน 50% ของเงินต้นเท่านั้น การค้ำประกันบางส่วนจาก FMO ช่วยลดผลขาดทุนให้นักลงทุนในกรณีที่มีการผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขการค้ำประกันได้กำหนดให้ FMO มีสิทธิรับช่วงสิทธิในการเรียกชำระหนี้จาก FNS ในกรณีที่ FMO ได้ทำการจ่ายเงินส่วนใดส่วนหนึ่งจากการค้ำประกัน ดังนั้น หากตั๋วแลกเงินไม่ได้ถูกจ่ายเต็มจำนวนโดย FNS หรือในกรณีที่ FNS ประสบภาวะล้มละลาย อาจทำให้ทั้งผู้ถือตั๋วแลกเงินและ FMO ต้องทำการเรียกร้องการชำระหนี้คืนจาก FNS ได้พร้อมกัน เงื่อนไขดังกล่าวอาจส่งผลให้อัตราการได้รับชำระหนี้คืนของผู้ถือตั๋วแลกเงินลดต่ำลงได้
FMO ได้จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลเนเธอร์แลนด์และผู้ดำเนินธุรกิจต่างๆในประเทศเนเธอร์แลนด์ในปี 2513 ในปัจจุบัน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และธนาคารขนาดใหญ่ต่างๆในเนเธอร์แลนด์ถือหุ้นในสัดส่วน 42% กิจกรรมหลักของ FMO ซึ่งสนับสนุนภาคธุรกิจในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเกิดใหม่ในเอเชีย ละตินอเมริกา และยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจในเชิงโครงสร้างที่ยั่งยืนในประเทศเหล่านี้ รวมทั้งช่วยให้ภาคธุรกิจได้รับผลตอบแทนในระดับที่ดีไปด้วย เนื่องมาจากข้อตกลงระหว่างรัฐบาลเนเธอร์แลนด์และ FMO ซึ่งลงนามในปี 2541 รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ จะช่วยป้องกันสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นเนื่องมาจากการที่ FMO ไม่สามารถที่จะปฏิบัติข้อผูกพันต่างๆในเวลาที่กำหนด ข้อผูกพันดังกล่าวได้รวมถึงการค้ำประกันต่างๆแก่บุคคลที่สามซึ่งเป็นการจัดหาเงินทุนแก่บริษัทเอกชนต่างๆในประเทศกำลังพัฒนา ฟิทช์จึงเชื่อว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงมากที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์จะให้การสนับสนุนแก่ FMO ในกรณีที่มีความจำเป็น
อันดับเครดิตของ FNS สะท้อนถึงโครงสร้างของบริษัทที่เป็นบริษัทโฮลดิ้ง การกระจายความเสี่ยงของรายได้ และเงินกองทุนและสภาพคล่องที่เพียงพอของบริษัท อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการที่โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทไม่ได้ประกอบไปด้วยสถาบันการเงินที่แข็งแกร่ง ความเสี่ยงทางด้านเครดิตและความเสี่ยงทางด้านตลาด (market risk) ที่อาจเกิดขึ้นได้ของบริษัท และการพึ่งพารายได้ค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์ และรายได้จากการลงทุนและการค้าหลักทรัพย์เพื่อบริษัทเอง (proprietary trading) ที่ค่อนข้างผันผวน
FNS ได้รายงานผลขาดทุนสุทธิที่ระดับ 185.1 ล้านบาท ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2549 ลดลงอย่างมากจากผลกำไรสุทธิของบริษัทที่ระดับ 123.4 ล้านบาท ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2548 โดยมีสาเหตุหลักจากผลขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนและผลขาดทุนจากบริษัทเงินทุนอย่างมีนัยสำคัญ ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนของ FNS โดยส่วนใหญ่ มาจากการตั้งค่าเผื่อขาดทุนสุทธิพิเศษจำนวน 107 ล้านบาท สำหรับการด้อยค่าที่อาจเกิดขึ้นในกองทุน Siam Investment Fund (“SIF”) ซึ่ง FNS ได้ลงทุนในกองทุนดังกล่าวในสัดส่วน 49.5% ผ่าน Finansa Fund Management (“FFM”) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ FNS ถือหุ้นทั้งหมด การตั้งค่าเผื่อขาดทุนดังกล่าวได้กระทำหลังจากการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นของกองทุน SIF ที่จะไม่เลื่อนระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนกองทุนไปจนถึงปี 2551 ตามการคาดการณ์ของ FNS ก่อนหน้านี้ และจะทำการชำระบัญชีภายในสิ้นปี 2549 แทน ผลขาดทุนจากบริษัทเงินทุนเป็นผลมาจากแรงกดดันต่ออัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยและผลขาดทุนจากการขายตราสารหนี้และตราสารทุน
ในเดือนพฤษภาคม 2549 ฟิทช์ได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ FNS เป็นลบ จากเดิม มีเสถียรภาพ สืบเนื่องมาจากการประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2549 ของ FNS ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีสาเหตุหลักจากการตั้งค่าเผื่อขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นจากการด้อยค่าของเงินลงทุนที่ไม่ได้คาดการณ์เอาไว้ และการลาออกของทีมเจ้าหน้าที่การตลาดซึ่งดูแลลูกค้าหลักทรัพย์รายย่อยของบริษัท การลาออกของทีมเจ้าหน้าที่การตลาดฝ่ายหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ดังกล่าวนำไปสู่การลดลงของส่วนแบ่งการตลาดอย่างรวดเร็วเป็น 0.7% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2549 จาก 2.6% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2548 ซึ่งส่งผลให้รายได้ค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์ลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของรายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจของ FNS ได้ช่วยลดทอนผลกระทบดังกล่าวในไตรมาสที่ 2 ของปี 2549 และช่วยพลิกฟื้นผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักทรัพย์ให้เป็นกำไร ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2549 อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ของ FNS ยังคงที่อยู่ที่ประมาณ 0.8% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2549 ฟิทช์ได้ตั้งข้อสังเกตว่าความเสี่ยงจากการกันสำรองหนี้สูญของบริษัทก็ยังคงมีอยู่ เมื่อพิจารณาถึงระดับการกันสำรองหนี้สูญที่ต่ำและการที่บริษัทลงทุนในตั๋วแลกเงินของบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น เป็นจำนวนเงิน 90 ล้านบาท
ฟิทช์ชี้แจงว่าการว่าจ้างทีมเจ้าหน้าที่การตลาดซึ่งดูแลลูกค้าหลักทรัพย์รายย่อยของบริษัททีมใหม่ซึ่งคาดการณ์ว่าจะช่วยให้ส่วนแบ่งการตลาดดีขึ้นในครึ่งปีหลังของปี 2549 แนวโน้มเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นใน Siam Investment Fund III (“SIF III”) และแผนการของบริษัทที่จะปรับปรุงระบบควบคุมความเสี่ยงและการเปิดเผยข้อมูล อาจจะช่วยลดความเสี่ยงในแง่ลบที่มีต่อผลการดำเนินงานของ FNS ถ้าปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวข้างต้นเกิดเป็นมรรคเป็นผลขึ้นและสภาวการณ์ในการดำเนินธุรกิจปรับตัวดีขึ้นในระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า แนวโน้มอันดับเครดิตของ FNS ก็น่าจะได้รับการทบทวนและถูกปรับกลับมาเป็นมีเสถียรภาพ
ติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4762/4759
David Marshall, ฮ่องกง +852 2263 9963
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน