กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--บมจ.ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย
นายมงคล ลีลาธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย เปิดเผยว่า “ธนาคารมีการปรับเพิ่มวงเงินกู้สินเชื่อบุคคลที่มีทองคำเป็นหลักประกัน ได้แก่ สินเชื่อ ‘ทองแลกเงิน’ และ ‘ทองทันใจ’ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการจับจ่ายใช้สอยให้กับประชาชน โดยลูกค้าสามารถเลือกวงเงินสูงสุดต่อทองคำ 1 บาทได้ตามความจำเป็น สูงสุดถึง 14,000บาท ต่อทองคำ 1บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.39%ต่อเดือน วงเงินสูงสุด 13,500บาท ต่อทองคำ 1บาท อัตราดอกเบี้ย 1.19%ต่อเดือน หรือ วงเงินสูงสุด 12,650บาท ต่อทองคำ 1บาท อัตราดอกเบี้ยเพียง 0.99%ต่อเดือน วงเงินกู้ยืมตั้งแต่ 1,000 บาท สูงสุดต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท เมื่อใช้บริการ สาขาหรือสาขาย่อย และวงเงินกู้ยืมสูงสุดต่อรายไม่เกิน 5 ล้านบาท เมื่อใช้บริการที่สำนักธุรกิจรัชดาภิเษก อาคารไทยประกันชีวิต
ตารางสรุปอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลที่มีทองคำเป็นหลักประกัน
วงเงินสูงสุดต่อทองคำ 1 บาท อัตราดอกเบี้ย (ต่อเดือน)
วงเงินสูงสุด 12,650 บาท 0.99%
วงเงินสูงสุด13,500 บาท 1.19%
วงเงินสูงสุด 14,000 บาท 1.39%
ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2552
สินเชื่อบุคคลที่มีทองคำเป็นหลักประกันของธนาคารไทยเครดิตทั้ง 2 รูปแบบ ได้แก่ ‘สินเชื่อทองแลกเงิน’ สำหรับลูกค้าที่มีทองและมีแผนการใช้เงินอย่างชัดเจน แต่ยังต้องการเก็บทองไว้ใส่ในโอกาสต่างๆ สามารถนำทองคำมาเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที ระยะเวลาการกู้ยืม18 เดือน ต่อสัญญาพร้อมจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน และ ‘สินเชื่อทองทันใจ’ คือ สินเชื่อที่ลูกค้านำทองคำมาเป็นหลักประกันเพื่อเปิดวงเงินสดพร้อมใช้ ซึ่งลูกค้าจะได้รับบัตร ATM ที่สามารถเบิกใช้วงเงินผ่านตู้ ATM ของธนาคารไทยเครดิต และ ธนาคารกรุงไทยได้ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (ในเขตพื้นที่) และสามารถเบิกใช้วงเงินผ่านตู้ ATM ธนาคารอื่นๆ ทุกธนาคารฟรี 5 ครั้งแรกของเดือน หากไม่กดเงินมาใช้ก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
จุดเด่นของสินเชื่อบุคคลที่มีทองคำเป็นหลักประกัน คือ การตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ทองคำด้วยเครื่องสแกนทองคำที่ทันสมัย และการเก็บรักษาทองคำของลูกค้าอย่างปลอดภัยในตู้เซฟของธนาคาร ดังนั้น ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าทองคำที่ฝากไว้กับธนาคารจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิม” นายมงคลกล่าว
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บมจ.ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 0-2697-5454
www.tcrbank.com