กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มร่วงลง หลังจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย แม้จะยังได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกและข้อมูลการผลิตที่สดใสของสหรัฐเมื่อคืนนี้ก็ตาม อย่างไรก็ดี ปัจจัยส่วนใหญ่ในวันนี้ยังคงขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะเป็นอย่างไร โดยการจับตาดูหุ้นจีนเพื่อการวัดความเชื่อมั่นแทน พร้อมทั้งรอดูตัวเลขเศรษฐกิจในเขตยูโรโซน ซึ่งจะมีการประกาศผลสำรวจภาคการผลิตของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนส.ค. ในช่วงบ่ายๆ และในช่วงค่ำๆ สหรัฐจะประกาศยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. พร้อมๆ กับประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "Reflections on a year of crisis" ในคืนนี้ด้วย (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป)
กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source : Bisnews (Daily)
Source : Bisnews (30 Min)
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นดูเป็นบวก, MACD 30 นาทีเคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบ ทำให้ดูราคาเป็นลบ, MACDF 30 เคลื่อนตัวอยู่ใกล้ 0 ทำให้ดูว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, Fast Stochastic กำลังเคลื่อนตัวขึ้น ทำให้ราคามีโอกาสจะปรับตัวขึ้น, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 42.421 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $936-$944 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.97-฿34.03
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, RSI อยู่ที่ระดับ 44.286 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD เคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกทว่าได้ตัดเส้น Trigger จากด้านบนทำให้ดูราคาเป็นลบ, MACDF เคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบ ทำให้ดูราคาเป็นลบ, Fast-Stochastic กำลังเคลื่อนตัวขึ้น ทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นช่วงนี้, ทิศทางตลาดระยะกลางเป็นตลาด Sideways โดยจะใช้แนวต้านที่ $960 เป็นต้านระยะกลางที่สำคัญและแนวต้านต่อไปจะอยู่ที่ $990 ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $927 และ $912
ตาราง 3 : แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,250 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,200 หรือที่ $939.60) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ 50 บาท ขณะที่ราคาของ GFQ09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,280 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาในตลาดโลกเท่ากับ 80 บาท ซึ่งเท่ากับว่า GFQ09 มีพรีเมี่ยมมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFQ09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 80-50 = 30 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท ซึ่งยังคงไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) และดอกเบี้ยในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ - เมื่อคืนนี้
1. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคโรงงานในเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐทะยานขึ้นมาอยู่ที่ระดับ +4.2 ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับระดับ -7.5 ในเดือนก.ค. หลังหดตัวมานาน 10 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดสั่งซื้อใหม่
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์อ่อนค่าลง +$0.0014 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4248 จากที่ปิด $1.4234 เมื่อวันก่อนหน้า หลังการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกและข้อมูลการผลิตที่สดใสของสหรัฐได้ลดความต้องการดอลลาร์และเยนในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย ขณะที่เช้านี้ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลง +$0.0007 มาที่ $1.4255
ภาวะเศรษฐกิจอังกฤษ — สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) ของอังกฤษรายงาน ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น +0.4% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบเป็นรายปียอดขายเพิ่มขึ้น +3.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2008 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดถึงการเพิ่มขึ้นรายเดือนไว้เพียง +0.2%
ปัจจัยลบ
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ - เมื่อคืนนี้
1. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 1.5 หมื่นราย มาที่ 5.76 แสนรายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ส.ค.จาก 5.61 แสนรายในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะอยู่ที่ 5.5 แสนราย ขณะที่บริษัทต่างๆยังคงปรับลดการจ้างงานลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ
2. Conference Board เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น +0.6% มาที่ 101.6 ในเดือน ก.ค. หลังเพิ่มขึ้น +0.8% ในเดือน มิ.ย. เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนก.ค.ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยเริ่มทรงตัว แต่ต่ำกว่าที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น +0.7%
ราคาน้ำมันดิบ — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ต.ค. ร่วงลง -$0.92 มาปิดที่ $72.91 ต่อบาร์เรล สวนทางกับราคาของสัญญาส่งมอบเดือนก.ย. ขยับขึ้นในวงจำกัด เนื่องจากเทรดเดอร์ปิดสถานะการลงทุนในสัญญาส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งครบกำหนดส่งมอบเมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ต.ค. ได้รับแรงกดดันในช่วงแรกจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจอาจฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า โดยเฉพาะหลังจากที่สหรัฐรายงานว่า ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นอย่างพลิกความคาดหมาย นอกจากนี้ภาวะอุปทานน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันก็ยังคงอยู่สูงกว่าอุปสงค์ ซึ่งจะส่งผลลบต่อราคาน้ำมันมากยิ่งขึ้นในช่วงที่อุปสงค์อยู่ในระดับอ่อนแออย่างต่อเนื่อง ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ต.ค. ขยับขึ้นเล็กน้อย +$0.09 มาอยู่ที่ $73.00 ต่อบาร์เรล
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น -3 สต. มาที่ 34.00 บาท จากที่ปิด 34.03 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า โดยยังคงได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นไทยที่ปรับขึ้น ตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค ขณะที่เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าลง +3 สต. มาที่ 34.03 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.97 บาทและ 33.94 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 34.03 บาทและ 34.06 บาท
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ - คืนนี้
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. โดยผลสำรวจคาดว่า ยอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 5.00 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจาก 4.89 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย.
กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 20 ส.ค.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,065.49 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.22 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34.25 ล้านออนซ์
ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
Source: Bloomberg
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอในรายงานดังกล่าว นี้เป็นเพียงความคิดเห็นซึ่งนำเสนอโดย บริษัท YLG Bullion International จำกัด โดยบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ จากความเสียหายที่เกิดจากการใช้รายงานหรือข้อความจากรายงานฉบับนี้
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9)
แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com