กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์
คอนเสิร์ตคุณพระช่วยสำแดงสด เปิดการแสดงไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางความประทับใจของคนดู ที่พร้อมใจกันตบมือให้อย่างกึกก้องทุกรอบการแสดง เมื่อวันที่ ๒๒ และ ๒๓ สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ โรงละครอักษรา หลายๆ ครอบครัวจูงคุณพ่อคุณแม่มาชมกันอย่างอบอุ่น ซึ่งการแสดงทุกรอบนั้นอัดแน่นไปด้วยความบันเทิงระดับคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการมอบบทเพลงเพราะๆชวนซึ้งผ่านศิลปินเสียงดี อาทิ “น้ำตาแสงไต้” ขับขานโดย เบน ชลาทิศ , เพลง “จำเลยรัก” โดย ลูกโป่ง AF4 , “ความรักเพรียกหา” ที่ ก้อง สหรัถ ขับขานด้วยเสียงนุ่มลึก โดยทั้งหมดเป็นการบรรเลงโดยวงคุณพระช่วยออร์เครสต้า จากนั้นมาอึ้งและทึ่งกับลูกหลานไทยที่ขึ้นมาโชว์การประชันเปิงมางคอกสดๆกลางเวที เรียกเสียงตบมือได้เกรียวกราวเลยทีเดียว
และที่ดูจะเป็นขวัญใจของคนดูทุกรอบต้องยกให้ น้องวันใส เดอะเทรนเนอร์ ที่มาจับไมค์ร้องเพลง “เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ” ด้วยเสียงเจื้อยแจ้วน่าเอ็นดู ซึ่งนอกจากจะซาบซึ้งตรึงใจกับบทเพลงเพราะๆ แล้ว ทุกช่วงการแสดงเหล่าพิธีกรประจำรายการอย่าง ธงชัย ประสงค์สันติ, เท่ง เถิดเทิง และ ทอดด์ ทองดี คอยสร้างเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา เท่านั้นยังไม่พอ ทั้งหมดยังเตรียมการแสดงมาฝากคุณผู้ชมอีกด้วย เริ่มจากทอดด์ ที่นำเพลง we will rock u มาร้องผสมผสานกับรำลาวกระทบไม้ของไทย ร้องโต้ตอบกับเท่งได้อย่างสนุกสุดมันส์ และที่ทำเอาคนดูกรี๊ดสนั่นเมื่อ เท่ง เถิดเทิง ขอเซอร์ไพรส์ด้วยการแต่งตัวเป็นขุนนางเกาหลีร้องเพลง “รักริงโง” ร่วมกับคณะหุ่นละครเล็กอักษรา ส่วนบักธงนั้นของัดเพลงเก่าที่เคยร้องไว้ในอดีตอย่าง “น้ำตาฟ้า” มาร้องคู่กับขุนขลุ่ยฝีมือเยี่ยมของเมืองไทย อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ที่เสียงขลุ่ยบาดลึกชวนเศร้าสุดบรรยาย
นอกจากพิธีกรจะสร้างความสนุกสนานและขนโชว์มามอบให้คนดูแล้ว ยังมีโชว์ศิลปการแสดงพื้นบ้านของไทย อาทิ การแสดงหน้าม่าน ของ โย่ง เชิญยิ้ม และชาวคณะ กับการร้องเพลงฉ่อยโต้ตอบกัน เล่นเอาผู้ชมหัวเราะกันสนั่นหวั่นไหว, ลิเกฮูลู จากน้องๆที่มาไกลจากปัตตานี , โชว์สุดยอดการเป่าแคนของขุนพลแคนอีสาน อ.สมบัติ สิมหล้า ปะทะท่วงทำนองบีโธเฟ่น ที่ใครๆก็ว่าเครื่องดนตรีไทยกับสากลผสมผสานกันได้อย่างลงตัวที่สุด ส่วนคู่ที่ซึ้งตรึงใจผู้ชมเห็นจะเป็นคู่หวาน เบน และ ลูกโป่ง ที่จับคู่กันมาครวญเพลงละครอมตะเรื่อง “คู่กรรม” จากนั้นมาซาบซึ้งกันต่อกับการดวลเปียโน ของ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ กับเสียงขลุ่ยนุ่มๆ ของอาจารย์ธนิสร์ ในเพลง “พม่าเขว” ที่สะกดผู้ชมให้เคลิบเคลิ้มไปตามๆกัน ซึ่งบทเพลงนี้เองที่โต๋บอกกับทุกคนว่า แม้ตัวเองจะเล่นเครื่องดนตรีสากล แต่ทุกครั้งไม่ว่าจะไปเล่นที่ไหน เขาจะนำเอความเป็นไทยติดตัวไปด้วยเสมอ ฟังแล้วทำเอาทุกคนตบมือให้สนั่น ก่อนจะจบลงด้วยการโชว์เพลงผู้ชนะสิบทิศอย่างยิ่งใหญ่อลังการ โดย น้องตุ้ม จ่านกร้อง แชมป์ชิงช้าสวรรค์ 2 ปีซ้อน เรียกว่าปิดฉากลงอย่างงดงามท่ามกลางเสียงตบมือดังสนั่นกึกก้องยาวนาน ทุกคนที่ได้ชมคอนเสิร์ตคุณพระช่วยสำแดงสดจะเกิดอาการเดียวกันคือรู้สึกอิ่มเอมซาบซึ้งและสำนึกเช่นเดียวกันว่า วัฒนธรรมไทยนั้นสำคัญ วัฒนธรรมควรค่าแก่การรักษาไว้เป็นสมบัติของพวกเราไปตราบนานเท่านาน