Sabai-arom goes Green ให้ธรรมชาติดูแลคุณ

ข่าวทั่วไป Tuesday August 25, 2009 11:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--โฟร์ฮันเดรท มีข้อมูลที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งรายงานว่า* ผู้หญิงซึมซับสารเคมีผ่านจากเครื่องสำอางที่ใช้ทุกชนิด เฉลี่ยรวมปีละเกือบ 2 กิโลกรัม อันอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเก็บสารพิษตกค้างไว้ในร่างกาย เมื่อไม่สามารถกำจัดออกได้ตามธรรมชาติ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของความเจ็บป่วยนานาประการได้ในอนาคต ...และนั่น คือเหตุผลสำคัญ ที่เราควรจริงจังกับการเลือกสรรเครื่องสำอางให้มากขึ้นเสียที Say NO! To Chemical Ingredient การดูแลตัวเองในชีวิตประจำวัน ด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นธรรมชาติสูงอาจฟังดูเป็นเรื่องที่เราหลายคนมองข้ามไป แต่การสะสมพิษไว้กับร่างกาย อาจไม่ใช่เรื่องที่มองข้ามได้อีกต่อไป เมื่อวันนี้เราสามารถใส่ใจตัวเองให้มากขึ้นได้ กับการเลือกสรรสิ่งดีๆ จากธรรมชาติมาเป็นปราการสำคัญในการดูแลผิว และดูแลความงามตามธรรมชาติของเราได้อย่างยั่งยืน อิน คอสเมติกส์* ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดนิทรรศการชื่อดังรายงานว่า ผู้หญิงซึมซับสารเคมีผ่านจากเครื่องสำอางทุกชนิดเฉลี่ยปีละเกือบ 2 กิโลกรัม ในขณะที่เอนไซม์ในน้ำลายและน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร อาจทำลายสารเคมีในลิปสติกได้ แต่ถ้าเป็นโลชั่นที่ซึมซับผ่านทางผิวหนังและทางกระแสเส้นเลือดนั้น เราไม่สามารถป้องกันอะไรได้เลย และที่สุดแล้วก็จะไปสะสมที่ตับเมื่อร่างกายกำจัดออกทางผิวหนังและขับถ่ายออกมาไม่ได้ (เช่นเวลาเกิดผดผื่น นั่นคือการขับพิษตามธรรมชาติออกจากร่างกายทางหนึ่ง) จนทำให้เกิดพิษสะสมและเกิดโรคเล็กๆน้อยอย่างปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เรื่อยไปถึงความเสี่ยงต่อโรคอันตรายอย่างมะเร็งได้ ดังนั้นแล้ว เวลานี้จึงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่เราจะได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติให้มากที่สุด หนึ่งในทางออก นั่นก็คือการหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยสารสังเคราะห์ และมองหาผลิตภัณฑ์ที่มิตรกับร่างกายและสิ่งแวดล้อมเท่าที่เราจะดูแลได้ New! Sabai-arom Urban Wellness Body Care ทำไม วันนี้คุณถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Urban Wellness Body Care ได้อย่างมั่นใจที่สุด? เพราะ Sabai-arom Urban Wellness Body Care เลี่ยงการใช้สารเคมีที่ไม่เป็นมิตรกับร่างกาย ที่อาจก่ออันตรายต่อสุขภาพ สบายอารมณ์คัดสรรเฉพาะส่วนผสมที่มีความเป็นธรรมชาติสูง เพื่อให้คุณมั่นใจได้ถึงส่วนผสมที่เป็นมิตรกับการทำงานของร่างกาย มีความปลอดภัย เป็นเหตุให้เราปฏิเสธส่วนผสมจากสารเคมี 14 รายการที่มักผสมอยู่ในเครื่องสำอางทั่วไป ที่อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพระยะยาว เพราะ Sabai-arom Urban Wellness Body Care ดูแลความงาม และความสุขของคุณไปพร้อมๆ กัน สบายอารมณ์เห็นความสำคัญในคุณค่าความงามจากธรรมชาติ เฉกเช่นเดียวกับการดูแลความเครียด และปรับอารมณ์ภายในให้สมดุล เราจึงเติมคุณค่ากลิ่นบำบัด ด้วย 3 สูตรน้ำมันหอมระเหยที่เป็นเอกลักษณ์จากการผสานกลิ่นดอกไม้และสมุนไพรไทย อาทิ มะกรูด ตะไคร้ ขิง ส้ม มะนาว มะลิ จำปา ฯลฯ ให้คุณใกล้ชิดความสุขจากธรรมชาติ ในทุก 6 ชิ้นผลิตภัณฑ์น่าลอง เพราะ Sabai-arom Urban Wellness Body Care ผ่านกระบวนการผลิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ปราศจากการเติมแต่ง สบายอารมณ์เลี่ยงการใช้สารกันเสียกลุ่มเคมี แต่เลือกสารสกัดที่ได้มาจากพืชและใช้น้ำเป็นกรรมวิธีในการสกัด นอกจากนี้ยังไม่เติมแต่งสี และเลือกใช้สารชะล้าง (ในกลุ่มชาวเวอร์ เจล) ที่สกัดมาจากมะพร้าว ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ให้คุณมั่นใจได้มากขึ้นกับการผลิตที่ได้มาตรฐานและใกล้ชิดธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะ Sabai-arom Urban Wellness Body Care ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ ด้วยการผลิตที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน สบายอารมณ์จึงเลือกนำเม็ดพลาสติกรีไซเคิลในปริมาณ 50 เปอร์เซ็นต์มาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในบรรจุภัณฑ์กลุ่มชาวเวอร์เจล และแชมพู ให้คุณมั่นใจได้ว่า ทุกชิ้นผลิตภัณฑ์ที่คุณวางใจจากเรา มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปพร้อมกับการดูแลอันทะนุถนอมสำหรับคุณ Sabai-arom says NO to 14 chemical ingredients มาทำความรู้จักกับ 14 สารเคมี ที่สบายอารมณ์ปฏิเสธเลือกใช้ในคอลเลคชั่นสูตรธรรมชาติสูงสุด ใน Urban Wellness Body care Collection กับ 6 ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติสูงกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ ให้คุณสัมผัสได้ถึงความปลอดภัย และการดูแลกายและใจอันแสนอ่อนโยนอย่างแท้จริง What’s what? 1. No Mineral Oil (Petrolatum) เป็นสารที่แยกได้จากการสกัดน้ำมันปิโตรเลียม มักถูกนำมาใช้ในเครื่องสำอางจำพวกเบบี้ ออยล์ และเครื่องสำอางประเภทมอยเจอร์ไรเซอร์ ทำหน้าที่ในการเก็บรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิว เเต่ด้วยเพราะเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่จึงอาจเกิดการตกค้างที่ผิว เป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาผิว อาทิ ปัญหาสิวอุดตัน รูขุมขนอุดตัน ผิวหนังอักเสบ ฯลฯ 2. No Propylene Glycol เป็นสารเคมีที่ใช้เพื่อป้องกันการจับตัวกันเป็นของแข็ง ในภาคอุตสาหกรรมถูกนำไปใช้ในการทำละลาย อาทิ สีและพลาสติก และถูกนำมาใช้กับเครื่องสำอางในกลุ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ ทำหน้าที่เก็บรักษาความชุ่มชื่นในเครื่องสำอาง ซึ่งหากใช้ในปริมาณน้อยจะไม่เป็นอันตรายหรืออาจระคายเคือง แต่หากสะสมในปริมาณมาก อาจทำให้มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง และมีเเนวโน้มเป็นสารตั้งต้นสารก่อมะเร็ง 3. No Triethanolamine (TEA) สารเคมีชนิดนี้พบมากในเครื่องสำอางจำพวกบอดี้ โลชั่น แชมพู โฟมโกนหนวด และครีมบำรุงรอบดวงตากับหน้าที่ในการปรับค่า pH ไม่ให้เป็นกรด-ด่าง มากเกินไป ซึ่งหากร่างกายได้รับในปริมาณน้อยก็อาจไม่เกิดอันตราย แต่หากสะสมในปริมาณมาก อาจทำให้ผิวระคายเคือง อย่างไรก็ดี สตรีมีครรภ์ควรเลี่ยง เพราะเป็นสารเคมีที่มีผลต่อทารกในครรภ์ในช่วงพัฒนาการทางสมอง 4. No IPM (Isopropyl Myristate) เป็นสารเคมีที่ใช้กันมากในวงการเครื่องสำอาง กับคุณสมบัติในการเคลือบผิวเพื่อเก็บรักษาความชุ่มชื่น อย่างไรก็ดีจากการทดลองในสัตว์ พบว่าสารเคมีชนิดนี้ทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขน ซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคืองและอาจทำให้เกิดปัญหาทางผิวหนังได้ 5. No Polyethylene สารเคมีชนิดนี้ถูกพบมากในเครื่องสำอางจำพวกสครับ เนื่องจากเป็นพลาสติกที่ลื่นมัน ยืดหยุ่นดี จึงใช้ทำหน้าที่เป็นเม็ดสครับผิวได้ แต่เนื่องจากเป็นสารเคมีจำพวกพลาสติก จึงถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมในของใช้ต่างๆอาทิ ขวดใส่สารเคมี ขวดใส่น้ำ บรรจุภัณฑ์ ฉนวนไฟฟ้า หรือแม้แต่เก้าอี้ ซึ่งแม้จะไม่สามารถซึมผ่านสู่ผิวหนังได้ แต่ก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวและไม่เป็นมิตรกับร่างกาย 6. No Imidazolidinyl and Diazoliddinyl Urea สารกันเสียชนิดนี้ถูกนำมาใช้ทั่วไปในกลุ่มเครื่องสำอาง กับหน้าที่ในการกำจัดแบคทีเรียหรือจุลชีพต่างๆ แต่ด้วยการสลายตัวที่ทำให้เกิดสารฟอมาลดีไฮด์ (Formaldehyde) จึงทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบหายใจได้ ซึ่งพิษสะสมอาจทำให้การทำงานของเซลล์ร่างกายผิดปกติ อันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็ง 7. No Paraben คือสารกันเสียที่นิยมใช้อย่างมากในกลุ่มเครื่องสำอางจำพวกผิวหนังและเส้นผม รวมถึงผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นเพราะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย แต่เนื่องจากเป็นสารเคมีที่พบในผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่ง่ายต่อการสะสมในร่างกาย หลายองค์กรจึงรณรงค์ให้เลี่ยงการใช้พาราเบนที่พบว่าเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิว อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อ และอาจเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม 8. No SLES (Sodium Laureth Sulfate) คือสารเคมีที่นิยมเติมลงในเครื่องสำอางจำพวกแชมพู หรือเจลอาบน้ำเพื่อทำให้เกิดฟองและลดแรงตึงผิว สามารถพบได้ในแชมพูเกือบทุกประเภท ด้วยผู้บริโภครู้สึกว่าสามารถกำจัดไขมันออกจากผิวและผมอย่างหมดจด แต่แท้จริงแล้ว สารลดแรงตึงชนิดนี้มีส่วนเสียคือ มีฤทธิ์ทำให้กระบวนการป้องกันผิวและเส้นผมตามธรรมชาติอ่อนแอลง เสี่ยงต่อการระคายเคือง และหากกระบวนการผลิตมีการปนเปื้อนก็อาจเป็นสารก่อมะเร็งได้ 9. No Artificial Color มีเครื่องสำอางจำนวนไม่น้อยที่ใช้สีในการเติมแต่งเพื่อให้เกิดความสวยงาม น่าใช้ บางชนิดเป็นสารเคมีสังเคราะห์ และบางชนิดเป็นสีที่ใช้ในอาหาร (Food grade - ซึ่งค่อนข้างมีความปลอดภัย) อย่างไรก็ดี ย่อมเป็นการปลอดภัยกว่าในการงดการใช้สีที่มาจากการสังเคราะห์ทุกประเภท เนื่องจากอาจมีสารหนัก รวมทั้งสารหนูและสารตะกั่ว อันเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง 10. No Silicone ซิลิโคนมีลักษณะคล้ายยาง มีความยืดหยุ่นสูงและมีอยู่หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับประเภทใช้งาน แต่ถูกนำมาใช้ในวงการความงามอย่างแพร่หลาย โดยในเครื่องสำอางนั้น มักถูกนำมาใช้กับครีมนวดผมเพื่อให้รู้สึกนุ่มลื่น ช่วยเคลือบเส้นผมให้ดูเงางาม นุ่มสลวย แต่อาจเกิดการสะสมในตับและต่อมน้ำเหลืองหากใช้ในปริมาณมาก ซึ่งสามารถเป็นตัวเร่งการเกิดเนื้องอกและมะเร็งได้ 11. No Petroleum Derivative เป็นสารเคมีที่ได้มาจากการแยกน้ำมันปิโตรเลียม มักถูกนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหลายประเภท อาทิ ครีมรองพื้น ครีมล้างหน้า ครีมบำรุงผิว เพื่อทำหน้าที่เก็บกักความชุ่มชื่นผิวโดยการเคลือบผิวไว้ แต่ด้วยความที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่และผ่านกรรมวิธีทางเคมี จึงอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง อุดตันผิว และเกิดสิวได้ และหากเก็บกักสะสม อาจเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพของผิว และทำให้ฮอร์โมนและภูมิคุ้มกันในเพศหญิงอ่อนแอ 12. No Synthetic Polymer โพลิเมอร์มีสารตั้งต้นจากพลาสติก ที่ผ่านกระบวนการทางเคมีให้มีความเหนียวนุ่ม ยืดหยุ่น นิยมนำมาทำบรรจุภัณฑ์อาหาร รวมทั้งเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง อาทิ ครีมนวดผม หรือเจลแต่งทรงผม ทำหน้าที่หลากหลายขึ้นอยู่กับการใช้งาน อาทิ การเพิ่มเนื้อสัมผัส การเคลือบผิว หรือการเก็บรักษาความชุ่มชื่น อย่างไรก็ตาม มีสารโพลิเมอร์บางชนิดสามารถหาได้จากพืช อาทิ มันสำปะหลัง ข้าวโพด และมะพร้าว ซึ่งเป็นมิตรกับธรรมชาติและเหมาะสมกับร่างกายของเรามากกว่า 13. No PEG (Polyethylene Glycol) เป็นสารเคมีสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนสารเพิ่มความชุ่มชื่น มักถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ความงามจำพวกทำความสะอาดและบำรุงผิว โดยสถาบันเผยแพร่ข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัตถุในสหรัฐอเมริกา (III) ได้ออกคำเตือนให้หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีชนิดนี้ เพราะระคายเคืองต่อผิวสูง และอาจเป็นสาเหตุของความผิดปกติในตับและไต และอาจเกิดการปนเปื้อนจากการผลิตซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับและจมูก 14. Quats คือสารชะล้างที่มักนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ขัดล้างต่างๆ อาทิ น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาขัดพื้น และนำมาใช้กับเครื่องสำอางจำพวกแชมพู หรือเจลอาบน้ำทั้งหลาย เพื่อให้รู้สึกถึงการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นสารเคมีรุนแรง จึงมีความเสี่ยงที่จะทำให้ผิวเกิดผดผื่น แพ้ และทำลายระบบทางเดินหายใจหากใช้ในปริมาณสูงและใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ