การยกเว้นภาษีแอร์

ข่าวทั่วไป Tuesday August 25, 2009 14:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--กรมสรรพสามิต นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าจากการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2552 ได้มีมติให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องปรับอากาศที่มีขนาดทำความเย็นไม่เกิน 72,000 บีทียูต่อชั่วโมง ชนิดที่ใช้กับอาคารสำนักงานและบ้านพักอาศัย แต่ไม่รวมถึงเครื่องปรับอากาศชนิดที่ใช้กับรถยนต์ลงเหลือ 0% จากเดิมที่จัดเก็บภาษีตามมูลค่า 15% โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี และเป็นธรรม รวมถึงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศนั้น และในวันอังคารที่ 25 สิงหาคม 2552 คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบตามมติของ คณะกรรมการ กรอ. แล้ว กระทรวงการคลังได้พิจารณาแล้วได้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อยกเว้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องปรับอากาศเฉพาะชนิดที่ใช้กับอาคารสำนักงานและบ้านพักอาศัย ส่วนเครื่องปรับอากาศชนิดที่ใช้กับรถยนต์จะยังคงจัดเก็บภาษีในอัตราตามมูลค่าร้อยละ 15 เช่นเดิม แต่หากกฎหมายว่าด้วยสิ่งแวดล้อมมีผลใช้บังคับจะต้องมีการทบทวนการยกเว้นภาษีเครื่องปรับอากาศชนิดที่ใช้กับอาคารสำนักงานและบ้านพักอาศัยดังกล่าวอีกครั้ง สำหรับวิธีการในการดำเนินงานดังกล่าว กระทรวงการคลังต้องออกเป็นประกาศกระทรวงการคลัง โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 103 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2534 และต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีก่อน ซึ่งหากการยกเว้นภาษีเครื่องปรับอากาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้ราคาขายปลีกของเครื่องปรับอากาศที่วางจำหน่ายในท้องตลาดมีราคาลดลง โดยเครื่องปรับอากาศขนาด 9,000 — 12,000 BTU ราคาจะลดลงประมาณ 2,300 บาท และเครื่องปรับอากาศขนาด 13,000 - 18,000 BTU ราคาจะลดลงประมาณ 2,100 บาท ทั้งนี้กระทรวงการคลังจะสูญเสียรายได้จากการลดภาษีครั้งนี้ประมาณ 1,600 ล้านบาท ต่อปี ตารางเปรียบเทียบราคาขายปลีกเครื่องปรับอากาศ หน่วย: บาท/เครื่อง ขนาดBTU เดิม ใหม่ ราคาลดลง (ยกเว้นภาษีเหลือ 0%) 9,000— 12,000 28,900 26,600 2,300 13,000 — 18,000 34,900 32,800 2,100 ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเก็บภาษีจากสินค้าฟุ่มเฟือย และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศไม่ได้ถือว่าเป็นสินค้าที่ฟุ่มเฟือยอีกต่อไป และในต่างประเทศ เช่น จีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ก็ไม่ได้มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องปรับอากาศแล้ว นอกจากนี้ในปัจจุบันเครื่องปรับอากาศยังได้มีการพัฒนาให้เป็นมิตรต่อสิงแวดล้อมและประหยัดพลังงานมากขึ้น ดังนั้นการยกเว้นภาษีเครื่องปรับอากาศชนิดที่ใช้กับอาคารสำนักงานและบ้านพักอาศัยดังกล่าวจึงช่วยให้ผู้ประกอบการภายในประเทศมีศักยภาพและความสามารถทางการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้น นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าว กรมสรรพสามิต โทร/โทรสาร 0 2241 4778

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ