กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
คกก. พิจารณางบประมาณรายจ่าย ปี 53 แนะหน่วยงานกทม. ต้องซื่อสัตย์ในการบริหารงานและปฏิบัติงานให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อให้เกิดความพอใจสูงสุดต่อชาวกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งให้ความสำคัญจัดสรรงบประมาณเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุให้เพียงพอและไม่ให้เกิดความล่าช้าในการเบิกจ่าย รวมถึงใช้กฎหมายให้เป็นประโยชน์เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีป้ายโฆษณาผิดกฎหมายโดยเร็ว ทั้งควบคุมผู้ค้าหาบเร่แผงลอยให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกด้วย
นายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตลาดกระบัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เพื่อประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ของหน่วยงานกรุงเทพมหานครที่ค้างการพิจารณา ได้แก่ สำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร สำนักพัฒนาสังคม สำนักงานเขตลาดพร้าว หลักสี่ สะพานสูง ลาดกระบัง บางเขน และทุ่งครุ โดยมีนายประกอบ จิรกิติ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารสำนัก ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 4-6 สภากรุงเทพมหานคร
ในที่ประชุมคณะกรรมการฯ ตั้งข้อสังเกต ถึงการดำเนินการของสำนักพัฒนาสังคมในด้านการสำรวจจำนวนผู้พิการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ควรขอความร่วมมือจากประชาชนหรือประสานสมาชิกสภากรุงเทพมหานครในการสำรวจเพื่อให้ได้จำนวนที่ถูกต้อง เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จากฝ่ายพัฒนาชุมชนของสำนักงานเขตยังสำรวจไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร ซึ่งประชาชนจะสูญเสียประโยชน์จากสวัสดิการตรงนี้ได้ อีกทั้งควรให้ความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณด้านเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุไม่ให้เกิดความล่าช้าในการเบิกจ่าย เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความมั่นใจในสวัสดิการของกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งสำนักงานเขตควรเร่งดำเนินการในการกำหนดจุดผ่อนผันการทำการค้าบนทางเท้าให้มีความชัดเจน และกำชับให้เจ้าหน้าที่เทศกิจควบคุมดูแลผู้ค้าให้วางร้านค้าและหาบเร่แผงลอยให้มีระเบียบและมีความสะอาดถูกหลักอนามัย โดยยึด พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ศ. 2538 ในการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งจะต้องเข้มงวดเพื่อให้ผู้ค้ามีความรับผิดชอบในพื้นที่ของตน รวมทั้งการจัดเก็บภาษีและดำเนินคดีป้ายโฆษณาต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่กรุงเทพมหานครจะต้องใช้กฎหมายมาเร่งรัดดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณฯได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับในส่วนนี้ด้วย พร้อมทั้งยังสอบถามการดำเนินการจัดเก็บภาษีประเภทต่างๆ และตั้งข้อสังเกตเห็นควรให้ผู้บริหารของสำนักงานเขตมีความจริงจังกับป้ายโฆษณาเถื่อนและกำชับให้เจ้าหน้าที่มีการดำเนินการอย่างจริงจังอีกด้วย
ย้ำหน่วยงานกทม. ปฏิบัติงานต้องซื่อสัตย์และเป็นธรรมพร้อมนำเงินไปใช้ประโยชน์สูงสุด
นายวิสูตรฯ ประธานคณะกรรมการฯ กล่าวว่า สำหรับการพิจารณางบประมาณของคณะกรรมการฯมุ่งหวังให้หน่วยงานกรุงเทพมหานครนำเงินงบประมาณของกรุงเทพมหานครที่ได้จากเงินภาษีอากรของประชาชน สามารถที่จะนำกลับไปพัฒนาด้านต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งงบประมาณในปี 2553 นี้ มีอยู่ค่อนข้างจำกัด รวมทั้งกรุงเทพมหานครได้ตั้งงบประมาณแบบงบสมดุลมีรายได้และรายจ่ายเท่ากัน ดังนั้นการพิจารณาในแต่ละครั้งคณะกรรมการวิสามัญฯและอนุกรรมการฯจะถือหลักการพิจารณาตามหมวดครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ฯลฯ โดยดูจากความเหมาะสมตามเนื้องานจริงในการของบประมาณจากหน่วยงานกรุงเทพมหานคร โดยต้องเป็นประโยชน์และมีความจำเป็นในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนต่อประชาชนเป็นสำคัญ ที่สำคัญจะต้องยึดถือแนวทางการบริหารราชการที่ต้องมีความซื่อสัตย์ในการบริหารงานและปฏิบัติงานให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อสร้างความมั่นใจและความพอใจสูงสุดต่อชาวกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ภายหลังจากที่คณะกรรมการวิสามัญฯพิจารณากลั่นกรองในรายละเอียดเสร็จสิ้น จะทำนำเข้าที่ประชุมสภาฯ ทำการพิจารณาในวาระที่สองและวาระที่สาม โดยจะต้องพิจารณาเพื่อยกร่างและเสนอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาต่อไป