กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--ปูนซีเมนต์นครหลวง
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่อันดับสองของประเทศ ได้รายงานผลประกอบการประจำปี 2548 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ประเด็นสำคัญในการแถลงผลประกอบการดังกล่าว ได้ระบุถึงการเติบโตของยอดขายรวมทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออก ต้นทุนด้านเชื้อเพลิงและพลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้น และภาวะการแข่งขันอย่างต่อเนื่องของราคาขายภายในประเทศ
สำหรับปี 2548 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายสุทธิรวมทั้งกลุ่ม 22,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 8 โดยปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ภายในประเทศได้เพิ่มขึ้นจาก 7.1 ล้านตันในปี 2547 เป็น 7.8 ล้านตันในปี 2548 ขณะที่ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50
บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในปี 2548 เท่ากับ 4,073 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปี 2547 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 4,141 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทฯ ได้ทำการขายหุ้นทั้งหมดของบริษัท รอยัล ปอร์ชเลน จำกัด (มหาชน) ในช่วงปลายปี 2547 เพื่อมุ่งดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทฯ เพียงอย่างเดียว จึงทำให้งบการเงินของปี 2547 รวมรายได้ กำไรสุทธิ และกำไรจากการขายหุ้นของบริษัทดังกล่าวไว้ด้วย หากในปี 2547 ไม่นับรวมผลประกอบการดังกล่าว จะทำให้รายได้สุทธิในปี 2548 เปลี่ยนเป็นเติบโตขึ้น ร้อยละ 4 และกำไรต่อหุ้น เติบโตขึ้น ร้อยละ 5 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ขายหุ้นทั้งหมดของบริษัท กะรัต ฟอเซท จำกัด ให้กับบุคคลที่ 3 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2548
มร. ลีโอ มิทเทลโฮลเซอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ สามารถรักษาระดับผลกำไรโดยรวมไว้ได้เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าจะมีอัตราการทำกำไรที่ลดลง ทั้งนี้เป็นเพราะยอดขายและราคาปูนซีเมนต์ส่งออกที่สูงขึ้นสำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลาง ได้ช่วยชดเชยกับผลกระทบจากราคาของเชื้อเพลิงและไฟฟ้า รวมถึงแรงกดดันด้านราคาของปูนซีเมนต์ในประเทศ การเพิ่มปริมาณการผลิตจนเต็มประสิทธิภาพของโรงงานของเรา ประกอบกับราคาปูนซีเมนต์ส่งออกที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทฯสามารถบริหารกำไรได้ดีในปีที่ผ่านมา”
การปรับภาพลักษณ์ของบริษัทฯ สู่ความเป็น “ผู้ให้บริการด้านปูนซีเมนต์ครบวงจร” ผ่านแนวคิด "As I wish" หรือ “ได้ดั่งใจ” ในปีที่ผ่านมานับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งในการปฏิรูปบริษัทฯ ให้เป็นองค์กรซึ่งยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เราเชื่อว่าการพัฒนาบุคลากรผ่านกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องคือพลังที่จะช่วยให้บริษัทฯ เดินสู่จุดหมายที่วางไว้ด้วยความแข็งแกร่งและความพร้อมที่จะเผชิญกับการแข่งขันในระยะยาว”
“บริษัทในเครือของปูนซีเมนต์นครหลวงทุกบริษัท มีการเติบโตขึ้นอย่างมั่นคงเช่นเดียวกัน อาทิ บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด ได้มีการเพิ่มหน่วยผลิตคอนกรีตสำเร็จรูปอย่างต่อเนื่อง ในกรุงเทพฯและปริมณฑล และในภาคตะวันออกของประเทศ ส่วน บริษัท คอนวูด จำกัด ก็ได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว”
“นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ตัดสินใจลงทุนจัดตั้งสายงานธุรกิจใหม่ชื่อ “อีโคสยาม” (EcoSiam) เพื่อพัฒนาด้านเชื้อเพลิงและวัตถุดิบทดแทน (Alternative Fuels and Raw Materials) เพื่อให้บริการด้านการกำจัดกากอุตสาหกรรมในประเทศแบบครบวงจร ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะลงทุนเพื่อขยายโรงงานที่จังหวัดสระบุรีเพื่อรองรับการพัฒนาในด้านนี้ด้วยงบประมาณ 400 ล้านบาทในปี 2549”
“สำหรับนโยบายด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยนั้น บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ในการเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารความเสี่ยง การลดความสูญเสียซึ่งอาจเกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติงาน การเพิ่มความปลอดภัย และสุขอนามัยที่ดีให้กับพนักงาน”
มร. ลีโอ มิทเทลโฮลเซอร์ ยังกล่าวเสริมว่า “กลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้บริษัทฯประสบความสำเร็จในอนาคตขึ้นอยู่กับการแสวงหาแนวทางและความคิดริเริ่มใหม่ๆในการบริหารต้นทุน การปรับปรุงการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งการสร้างตลาดใหม่ๆ”
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2512 จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี พ.ศ. 2520 โฮลซิม สวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในบริษัทปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ของโลก ได้เข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปี พ.ศ. 2531
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จาก www.siamcitycement.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ดร.สถาพร เพชรทองคำ
เลขานุการบริษัทและธุรกิจสัมพันธ์
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 0-2685-8000 ต่อ 1100
โทรสาร 0-263-0559
อีเมล์ : staporn.phettongkam@sccc.co.th--จบ--