กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บิ๊กซี โชว์กำไรสุทธิครึ่งปีแรก 1,136.7 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม32,265 ล้านบาท ครึ่งปีหลังอัดแคมเปญ “ถูกชัวร์” ตอกย้ำความเป็นผู้นำราคาและสร้างแบรนด์ ลอยัลตี้กับลูกค้า
นายอีฟ แบร์กนาร์ เบรบ๊อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำ ไตรมาส 2 ปี 2549 ว่า มีกำไรสุทธิ 478.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานในไตรมาสเดียวกันปี 2548 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 461.7 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 15,244 ล้านบาท เป็น 16,826 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.4% ถือว่าผลประกอบการปี 2549 เป็นตามที่บิ๊กซีได้คาดการณ์ไว้ ขณะที่ 6 เดือนแรกของปี 2549 มีกำไรสุทธิ 1,136.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2548 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 989.5 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 32,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.2% จาก 29,010 ล้านบาท
“แม้ภาวะเศรษฐกิจในครึ่งปีแรกจะชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการจับจ่ายซื้อของ แต่บิ๊กซียังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมียอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเป็นเพราะบิ๊กซีจำหน่ายสินค้าใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นผลจากการตอบรับของกลุ่มลูกค้าต่อภาพพจน์ความเป็นผู้นำด้านราคาของบิ๊กซี รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยเฉพาะในช่วงฟุตบอลโลก เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดขายมีการเติบโตขึ้น” นายอีฟกล่าว
โดยบิ๊กซีมียอดขายในไตรมาส 2 จำนวน 14,967 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส เดียวกันปี 2548 ซึ่งมียอดขาย 13,709 ล้านบาท รายได้ค่าเช่าและค่าบริการจาก 512 ล้านบาทเป็น 604 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.9% และรายได้อื่นจาก 1,023 ล้านบาทเป็น 1,255 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 22.7% ขณะที่ 6 เดือนแรกของปี 2549 มียอดขาย 28,486 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2548 ซึ่งมียอดขาย 25,866 ล้านบาท รายได้ค่าเช่าและค่าบริการจาก 996 ล้านบาทเป็น 1,180 หรือเพิ่มขึ้น 18.5% และรายได้อื่นจาก 2,145 ล้านบาท เป็น 2,599 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21%
นายอีฟ กล่าวต่อไปว่า สำหรับครึ่งปีหลัง บิ๊กซีจะเน้นการจัดกิจกรรมทางการตลาด “ถูกชัวร์” เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านราคา ซึ่งเป็นแคมเปญที่บิ๊กซีจะดำเนินการตรวจสอบเปรียบเทียบราคาสินค้าของห้างอื่นทุกวัน เพื่อรับประกันว่า สินค้าของบิ๊กซีมีราคาถูกกว่าหรือเท่ากับสินค้าของคู่แข่ง ทำให้ลูกค้ามั่นใจในการเข้ามาซื้อสินค้าที่บิ๊กซี และเกิดแบรนด์ลอยัลตี้
“ในภาวะที่ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย การจัดแคมเปญประกันราคาสินค้าเพื่อให้มั่นใจว่า บิ๊กซีจำหน่ายสินค้าในราคาถูกกว่าคู่แข่ง ตลอดจนการจำหน่ายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ที่มีราคาต่ำกว่าสินค้าปกติประมาณ 10-15% เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าที่มีความคุ้มค่าและมีราคาที่ สมเหตุสมผล จะเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี” นายอีฟกล่าว ทิ้งท้าย
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ: BIGC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536 เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในรูปแบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ ภายใต้ชื่อ “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่หลากหลายในราคาสมเหตุสมผลภายใต้สโลแกน “เราให้คุณมากกว่าคำว่าถูก” “เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้บริโภค ปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการจำนวน 47 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.bigc.co.th
รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
สุภาภรณ์ สุธรรมโกศล หรือ บรากรม์ เพชรน้อย
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 0 2252 9871
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net