กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--สสส.
สสส. เอาใจวัยรุ่นผ่านงาน “เวทีวัยทีน : ร้องเล่นเป็นสุข” กระตุ้นให้เยาวชนคิดบวก คิดเป็น เพิ่มทักษะด้านละครและดนตรี ขณะเดียวกันหวังให้ภาคธุรกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาให้ความสนใจ เปิดพื้นที่ให้กับเยาวชนได้แสดงความสามารถมากขึ้น
เมื่อวันที่ 22- 23 สิงหาคม 2552 สำนักเปิดรับทั่วไปฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส. เปิดรับทั่วไป) ร่วมกับ มูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม) และกลุ่มสลึง จัดงาน “เวทีวัยทีน : ร้องเล่นเป็นสุข” ณ centerpoint@centralworld นำผลงานจากโครงการละครสะท้อนปัญญา และโครงการดนตรี กวี คีตา เพื่อการเรียนรู้สู่ปัญญา มาประกวดโดยมีละครเข้าร่วมประกวด 8 คณะ และ 18 วงดนตรี จากสถานบันอุดมศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ
นพ.บัญชา พงษ์พาณิชย์ กรรมการบริหารแผนสนับสนุนโครงการเปิดรับทั่วไป สสส. กล่าวว่า แม้ สสส. จะไม่มีหน้าที่โดยตรงในการส่งเสริมด้านศิลปวัฒนธรรม แต่พันธกิจหนึ่งคือการสริมสร้างสุขภาวะทางปัญญา สสส. จึงน่าจะเข้าไปมีส่วนเพิ่มกิจกรรมในทางบวกและสร้างสุขผ่านงานศิลปะได้ อย่างไรก็ตามทั้งสองโครงการที่มีเยาวชนเข้าร่วมอาจจะไม่เป็นที่ถูกใจของทุกๆ ฝ่าย แต่ขอให้เป็นกิจกรรมสร้างสุขอย่างที่ถูกที่ควร และเพิ่มการคิดอย่างมีเหตุและผลให้กับวัยรุ่น ได้แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
นพ.บัญชา กล่าวอีกว่า เยาวชนคืออนาคตของเราและเต็มไปด้วยศักยภาพ ภารกิจของเราคือเพิ่มกระบวนการที่จะเปิดศักยภาพของพวกเขาให้สังคมรับรู้ ที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจดูจะเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ในฐานะที่วัยรุ่นเป็นเป้าหมายทางการตลาด ถ้าสังคมหรือหน่วยงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจเข้าไปจัดกิจกรรมเพื่อให้เยาวชนมีความรู้มากขึ้น อนาคตเราก็พอจะมีความหวัง
ทางด้านนายจิรพรรณ อังศวานนท์ กรรมการตัดสินประกวดเพลงจากโครงการดนตรี กวี คีตา กล่าวว่า ทุกวันนีแวทีสำหรับวัยรุ่นมีน้อยเกินไป การที่ สสส. เข้ามาจัดกิจกรรมนี้ช่วยให้วัยรุ่นมีพื้นที่แสดงออกมากขึ้น สื่อถึงเพลงในแนวบวก สร้างทัศนคติและการมองโลกที่ดีให้กับเยาวชน โครงการนี้ได้เข้าถึงกลุ่มเด็กที่มีความต้องการจะสร้างสรรค์ผลงานของตนเอง ซึ่งควรมีหน่วยงานเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมายังไม่มีภาครัฐและเอกชนเข้ามาสนใจอย่างแท้จริง
นายจิรพรรณ กล่าวอีกว่า เพลงที่จะดังในปัจจุบันต้องมาจากหลายปัจจัยทั้งด้านคุณภาพของเพลง ตัวศิลปิน ไม่ได้ขึ้นกับเนื้อหาว่าจะบวกหรือลบ การนำเสนอเพลงสร้างสรรค์ แม้ว่าจะเน้นไปที่การสร้างเพลงในแนวบวกก็ตาม ในขณะที่เพลงปัจจุบันกว่า 90% เป็นแนวลบ มีเนื้อหาเป็นเรื่องรัก วัตถุนิยม สนุกสนาน และเซ็กส์จนล้นตลาด
“สสส. ควรนำผลงานเพลงของเด็กเหล่านี้ไปทำการตลาดต่อ สร้างให้เกิดเทรนด์ใหม่ เป็นเพลงแนวบวก โดยเชิญศิลปินที่มีชื่อเสียงมานำเสนอผลงานของเยาชนที่ได้จากโครงการ ให้เพลงแนวนี้ซึมซับเข้าไปในตลาดเพิ่มขึ้น” นายจิรพรรณ กล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม วนาลี จันทร์อร่าม vanalee_now@hotmail.com โครงการประชาสัมพันธ์ สน.เปิดรับทั่วไป สสส.