กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มร่วง แม้ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งทางฝั่งสหรัฐและยุโรปที่ออกมาดีเกินคาดในช่วงนี้ จะสนับสนุนให้นักลงทุนส่วนหนึ่งมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นก็ตาม หากแต่นักลงทุนอีกส่วนหนึ่งกลับตั้งข้อสังเกตถึงความยั่งยืนของการฟื้นตัวท่ามกลางอุปสงค์ที่ยังอ่อนแอ + การขยับเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มสูงขึ้น ได้สร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนในส่วนนี้หันกลับมามองว่าดอลลาร์น่าจะได้ประโยชน์จากตรงนี้ นอกจากนี้ การที่จีนเริ่มจำกัดการลงทุนที่มีมากเกินไป ได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะซื้อดอลลาร์และเยนในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยมากขึ้นด้วย (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป)
กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source : Bisnews (Daily)
Source : Bisnews (30 Min)
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD 30 นาทีเคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบทว่าได้ตัดเส้น Trigger จากด้านล่างทำให้ดูราคาเป็นบวก, MACDF 30 เคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวก ทำให้ดูตลาดเป็นบวก, Fast Stochastic กำลังเคลื่อนตัวขึ้น ทำให้ราคามีโอกาสจะปรับตัวขึ้น, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 52.088 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $940-$950 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.95-฿34.06
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, RSI อยู่ที่ระดับ 50.088 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD เคลื่อนตัวอยู่ใกล้ 0 ทำให้ดูว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACDF เคลื่อนตัวอยู่ใกล้ 0 ทำให้ดูว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, Fast-Stochastic กำลังเคลื่อนตัวลงทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวลงในช่วงนี้, ทิศทางตลาดระยะกลางเป็นตลาด Sideways โดยจะใช้แนวต้านที่ $960 เป็นต้านระยะกลางที่สำคัญและแนวต้านต่อไปจะอยู่ที่ $990 ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $927 และ $912
ตาราง 3 : แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,300 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,280 หรือที่ $945.25) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ 20 บาท ขณะที่ราคาของ GFQ09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,330 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาในตลาดโลกเท่ากับ 50 บาท ซึ่งเท่ากับว่า GFQ09 มีพรีเมี่ยมมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFQ09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 50-20 = 30 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท ซึ่งยังคงไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) และดอกเบี้ยในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — เมื่อคืนนี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพุ่งขึ้นมากเกินคาดถึง +4.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2007 หลังร่วงลง -1.3% ในเดือน มิ.ย. และมากกว่าที่คาดไว้ว่า จะเพิ่มขึ้น +3.0% ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง อย่างไรก็ดี นักลงทุนบางรายได้มุ่งความสนใจไปที่ตัวเลขคำสั่งซื้อที่ไม่รถยนต์ ที่ขยับขึ้นเพียง +0.8% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น +1.1%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น +9.6% มาที่ 4.33 แสนยูนิต ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 10 เดือน จาก 3.95 แสนยูนิตในเดือน มิ.ย. และเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่ปริมาณบ้านที่ยังขายไม่ได้ลดลง -3.2% มาที่ 2.71 แสนยูนิต ต่ำสุดในรอบ 16 ปี
EIA รายงานในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ส.ค. ปริมาณสำรองน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น +0.2 แสนบาร์เรล มาที่ 343.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น +0.8 แสนบาร์เรล มาที่ 162.4 ล้านบาร์เรลและปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินลดลง -1.7 ล้านบาร์เรล มาที่ 208.1 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณสำรองน้ำมัน heating oil เพิ่มขึ้น +1.1 ล้านบาร์เรล มาที่ 48.5 ล้านบาร์เรล หลังมีการใช้อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น +0.1% มาที่ 84.1%
ภาวะเศรษฐกิจเยอรมัน — สถาบัน IFO ของเยอรมนีรายงาน ดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจทะยานขึ้นสู่ 90.5 ในเดือนส.ค. จาก 87.4 ในเดือนก.ค. และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 88.9 ซึ่งตอกย้ำว่าเศรษฐกิจเยอรมนีกำลังจะฟื้นตัวออกจากภาวะถดถอย
ปัจจัยลบ
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น -$0.0052 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4243 จากที่ปิด $1.4295 เมื่อวันก่อนหน้า หลังมีข่าวจีนจะจำกัดการลงทุนและสภาพคล่องส่วนเกินในเศรษฐกิจที่มีมากเกินไปนั้น ได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และลดผลบวกของข้อมูลเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐและยุโรปที่ออกมาดีเกินคาดอย่างมาก โดยนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะซื้อดอลลาร์และเยนในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยและเป็นเหตุผลในการขายทำกำไรสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงออกมา หลังมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจลดน้อยลง ขณะที่เช้านี้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น -$0.0019 มาที่ $1.4224
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น -1 สต. มาที่ 34.00 บาท จากที่ปิด 34.01 บาท เมื่อวันก่อนหน้า โดยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ และเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าสกุลเงินอื่นๆ ที่เคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างกว่า โดยดีลเลอร์คาดว่า ธปท.ยังคงเข้าดูแลค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าลง +2 สต. มาที่ 34.02 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.95 บาทและ 33.90 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 34.06 บาทและ 34.12 บาท
ราคาน้ำมันดิบ — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ต.ค. ร่วงลง -$0.62 มาปิดที่ $71.43 ต่อบาร์เรล หลัง EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วเพียง +0.2 แสนบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าที่การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานในคืนวันอังคารว่าเพิ่มขึ้น +4.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ต.ค. ร่วงลงอีก -$0.27 มาอยู่ที่ $71.16 ต่อบาร์เรล
การประมูลพันธบัตรอายุ 5 ปี - ผลการประมูลพันธบัตรอายุ 5 ปี มูลค่า $3.9 หมื่นล้าน ยังคงได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นถึงกว่า 2.51 เท่าของยอดประมูล ที่อัตราดอกเบี้ย 2.494% แม้จะต่ำกว่าเมื่อเดือนก่อนหน้าที่อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 2.689% ซึ่งเมื่อบวกกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด จึงเป็นเหตุให้นักลงทุนส่วนหนึ่งหันมามองว่าดอลลาร์นั้นน่าดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — คืนนี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 2 ปี 2009 โดยผลสำรวจคาดว่า GDP สหรัฐจะติดลบ -1.5% ในไตรมาส 2 ปี 2009 เทียบกับที่รายงานไปก่อนหน้านี้ติดลบ -1.0% กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ โดยผลสำรวจคาดว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ส.ค.จะอยู่ที่ 5.65 แสนราย ลดลงจาก 5.76 แสนรายในสัปดาห์ก่อนหน้า ? ภาวะเศรษฐกิจเยอรมัน - เยอรมันจะเปิดเผยข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงบ่ายโมงวันนี้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 3.6 จาก 3.5 ในเดือนก่อนหน้า
กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 26 ส.ค.52 เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,061.83 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.21 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34.14 ล้านออนซ์
ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
Source : Bloomberg
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com