กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--เอ้าท์ดอร์ พีอาร์
บ.ยูโรครีเอชั่น จก. บริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์อันดับต้น เดินเครื่องบุกตลาดในประเทศอินเดีย และตะวันออกกลาง หลังประสบความสำเร็จมียอดขายติด 1 ใน 5 ผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์กลุ่มไฮเอ็นด์ในเมืองไทย เตรียมพร้อมตอกย้ำความยิ่งใหญ่ฉลองครบรอบ 50 ปี “นาทุซซี่” ในเดือนพ.ย.นี้
นางอมรัตน์ กัมบีย์ Executive Vice President บริษัท ยูโรครีเอชั่น จำกัด ผู้นำเข้าส่งออกและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอ็นด์ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ บริษัทฯ ได้นำสินค้าเปิดตลาดรุกไปยังประเทศอินเดีย และกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง เนื่องจากที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จในเมืองไทยค่อนข้างมาก และ “ยูโรครีเอชั่น” ถือว่าเป็นหนึ่งในห้าของบริษัทชั้นนำที่นำเข้าสินค้าแบรนด์ยุโรปต่างๆ อาทิ Natuzzi, Mizura Emme ฯลฯ สำหรับปีนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาดสินค้าเฟอร์นิเจอร์นำเข้า 20 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าตลาดรวมเครื่องเรือนประเภทโซฟาที่มีอยู่ประมาณ 800 ล้านบาท
“แบรนด์ “นาทูซซี่” ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์หลักที่ทางบริษัทฯนำเข้าและได้รับเสียงตอบรับอย่างดีในตลาดเมืองไทยโดยครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ถึง ร้อยละยิ่สืบในกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ไฮเอ็นท์ มีสิ่งสำคัญหลายอย่าง โดยเน้นออกแบบเป็น soft shapes ที่รับประกันความนุ่มสบาย ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำการค้นคว้าเกี่ยวกับหนังฟอก ซึ่งทำให้สามารถใช้ความแตกต่างของของสีได้อย่างหลากหลาย ซึ่งไม่เคยปรากฏในการออกแบบเครื่องหนังมาก่อน อีกประการสำคัญ คือเราได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการผลิต เช่น การสร้างเก้าอี้นั่งตัวเดี่ยวหรือ Sound armchair และ โซฟาตัวยาวโค้งเป็นมุมรุ่นใหม่ หรือ Surround sectional sofa โดยมีเทคโนโลยีที่ประกอบด้วย 2 ลำโพง และที่เสียบหูฟังสำหรับ i-Pod ซึ่งจะเป็นสินค้าพิเศษในการเฉลิมฉลอง 50 ปี ของ “นาทูซซี่” ในเดือนพฤศจิกายนนี้อีกด้วย”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 60 ล้านบาท ในการพัฒนาโชว์รูมสินค้า 2 แห่ง คือที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน และที่ยูโร ลิฟวิ่ง แกลอรี่ซอยทองหล่อ เพื่อสร้างแบรนด์ “นาทูซซี่” ให้เป็นที่รู้จักในเมืองไทย โดยเน้นไปที่เฟอร์นิเจอร์กลุ่มห้องรับแขก สไตล์โมเดิร์น คอนแทมโพรารี่ มีราคาตั้งแต่ 2 แสนบาทขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน และลูกค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ในภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย และสภาพการเมืองที่ยังไม่นิ่ง อาจจะส่งผลกระทบกับยอดขายของบริษัทฯ นั้น นางอมรัตน์ ยอมรับว่า อาจจะมีผลกระทบบ้าง แต่เป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาวนั้นเชื่อว่าจะไม่กระทบ เพราะจากสถิติ 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจนำเข้าฟอร์นิเจอร์แบรนด์ยุโรป ยังมีอัตราที่เติบโตต่อเนื่อง ดังนั้นบริษัทฯจึงเตรียมเปิดกลยุทธ์เชิงรุกใหม่ โดยเน้นบริการหลังการขาย (CRM) การสร้างพันธมิตรทางการค้า รวมถึงการทำตลาดแบบถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ให้มากขึ้น
ด้าน คุณ Mariangela Oliveri ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุดิบ เทรนด์ สี ของเฟอร์นิเจอร์แบรนด์นาทูซซี่ ได้กล่าวถึงทิศทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ “Naruzzi” ในช่วงหลายปีที่ผ่านว่า ได้นำแนวคิดของ natural living มาใช้ เป็นการค้นพบการมีรสนิยมที่ง่ายๆ ไม่ต้องทันสมัย และเป็นทางที่หันไปสู่การใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายอย่างแท้จริง มีการใช้วัสดุและสีจากธรรมชาติ เช่น สีอันอบอุ่นของพื้นดิน การใช้ธรรมชาติและเครื่องหนังที่งดงามดูดี อย่าง Cassidy ประเภทหนาพิเศษ (3-3.5มม.) โดยไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ ไม้ American walnut สีดำ ที่ถูกนำมาใช้ทำเป็นเครื่องเรือนไม้ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นความโดดเด่นของแบรนด์ “Naruzzi”
“ภายใต้แนวคิดการออกแบบ NATUZZI เราได้พยายามค้นหาสีธรรมชาติ โดยออกแบบโซฟาแบบโซปราโน่ ด้วยแนวคิดที่กลับมาของโซฟาเบาะนวมตัวใหญ่แบบดั้งเดิมที่บุด้วยหนังกึ่งมันวาว ในขณะที่ออกแบบให้โซฟาแบบโค้งหรือ Opus sectional สร้างความสบายอย่างที่สุด และด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูจากหนังด้านที่เสริมความทันสมัยให้เด่นชัดขึ้น”
ทั้งนี้ คุณ Mariangela Oliveri บอกว่า เทรนด์ในการบริโภคสินค้าระดับไฮเอ็นด์ในเมืองไทย จากเดิมจะเน้นไปที่ดีไซน์เพียงอย่างเดียว สังเกตได้ว่าระยะหลังคนไทยหันมาใส่ใจในเรื่องของวัตถุดิบโดยเน้นที่ความ Comfort ควบคู่ไปกับการดีไซน์มากขึ้น ความใส่ใจดังกล่าวนี้เอง ได้กลายมาเป็นกุญแจสำคัญในการทำตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดไฮเอ็นด์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้ามีขนาดเล็ก แต่หากลูกค้าถูกใจในสินค้าชิ้นใด ก็จะตัดสินใจซื้อทันที โดยไม่คำนึงถึงราคา แต่จะเอาความพึงพอใจเป็นหลัก