กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--กทม.
เมื่อวันที่ 1 เม.ย.48 เวลา 15.30 น. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเข้าพบ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือข้อราชการและการร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกทม.ว่า ในเบื้องต้นนี้ตนได้หารือถึงการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกทม. เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นบางส่วนต้องประสานตรงกับมหาดไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น ปัญหาโบ๊เบ๊ การจัดระเบียบผู้ค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาผู้มีอิทธิพลเรียกเก็บเงิน ทั้งนี้การแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้นก็เป็นนโยบายหลักของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเนื่องจากเคยดูแลในเรื่องดังกล่าวโดยตรง นอกจากนี้ ฯพณฯ ยังพร้อมให้การสนับสนุนและร่วมมือกับ กทม. ในด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาความยากจน การปราบปรามผู้มีอิทธิพล และปัญหาอื่นๆ อีกด้วย
สำหรับเรื่องการจัดระเบียบผู้ค้านั้น ผู้ว่าฯ อภิรักษ์ กล่าวว่า วานนี้ (31 มี.ค.48) กทม.ได้ประชุมกับทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ได้ข้อสรุปว่าจะมีการพิจารณาหาแนวทางแก้ไขพื้นที่ทำการค้าที่เป็นปัญหา ซึ่งบางส่วนยังไม่ได้รับการอนุญาตจาก บชน.ให้ทำการค้าได้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงมอบนโยบายให้สำนักงานเขตร่วมกับสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่เร่งสำรวจผู้ค้าและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเสนอบชน.พิจารณาอนุญาตเป็นจุดผ่อนผัน ซึ่งนอกจากพื้นที่โบ๊เบ๊แล้ว ยังมีพื้นที่ชั้นในที่มีปัญหาผู้ค้าซึ่งต้องเร่งแก้ไข ภายใน 2 สัปดาห์ ได้แก่ เขตพระนคร เขตดุสิต และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ส่วนเขตอื่นๆ ที่เหลือจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ในการพิจารณากำหนดจุดทำการค้าเพื่อเป็นจุดผ่อนผันเพิ่มเติมในพื้นที่ 50 เขต อีก 466 จุด ผู้ค้า 10,792 ราย ในขณะเดียวกัน หากผู้ค้าบางรายมีปัญหาไม่มีสถานที่ทำการค้าขาย กทม.จะหารือทางแก้ไขให้แก่ผู้ค้าต่อไป ทั้งในด้านการยกระดับมาตรฐานของหาบเร่แผงลอยให้ดีขึ้น การจัดสถานที่ขายใกล้เคียงกับบริเวณตลาดนัด หรือศูนย์อาหาร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม กรณีปัญหาโบ๊เบ๊นั้น ขณะนี้ กทม.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ภายใน 7 วัน โดยมี นายไชยวัฒน์ ฉลองพันธรัตน์ ผู้ตรวจราชการ 10 เป็นประธานกรรมการ และคณะกรรมการอีก 4 คน ซึ่งจะทราบข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมด หากการสอบสวนพบว่ามีเจ้าหน้าที่เทศกิจหรือข้าราชการกทม.เข้าไปเกี่ยวข้อง จะดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าตนจะประชุมเชิญเจ้าหน้าที่เทศกิจทั้งหมดของกทม. เนื่องจาก กทม.มีนโยบายชัดเจนว่าจะต้องไม่มีการเรียกรับเงินนอกระบบ หากผู้ค้าได้รับอนุญาตถูกต้องจะต้องมีบัตรประจำตัวผู้ค้าโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใด นอกจากค่าธรรมเนียมบริการรักษาความสะอาดบริเวณที่มีการตั้งแผงค้า เดือนละ 100 บาท/ตารางเมตรเท่านั้น--จบ--