กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--คต.
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศข้อตัดสินว่าด้วยเกณฑ์ในการปิดฉลาก eco-label สำหรับผลิตภัณฑ์ฟูกที่นอน (Commission Decision of 9 July 2009 establishing the ecological criteria for the award of the community ecolabel for bed mattresses) เพื่อใช้แทนข้อตัดสินเดิมของคณะกรรมาธิการยุโรป (Decision 2002/740/EC) โดยกำหนดให้ผลิตภัณฑ์ฟูกที่นอน (Bed mattresses ในรหัส ‘014’) ที่จะปิดฉลาก eco-label ต้องปฏิบัติตามข้อตัดสินใหม่ดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย 13 หัวข้อหลัก ดังนี้
1.โฟมยางพารา (Latex foam) : กำหนดเกณฑ์เพดานค่าโลหะหนักฟอร์มาลดีฮายด์ สารประกอบ VOCs สีย้อม/สารหน่วงการติดไฟ เช่น ควรมีสารฟอร์มาลดีฮายด์ไม่เกิน 20 ppm ตามมาตรฐาน EN ISO 14184-1 และสารประกอบ VOCs ไม่เกิน 0.5 mg/m3 เป็นต้น
2.โพลียูรีเทนโฟม (PUR foam) : กำหนดเกณฑ์เพดานค่าโลหะหนักฟอร์มาลดีฮายด์ สารประกอบ VOCs สีย้อม/สารหน่วงการติดไฟ สารเร่งปฏิกิริยาสำหรับยาง สารทำให้เกิดฟอง ซึ่งเพดานค่าโลหะส่วนใหญ่จะสอดคล้องตามหลักเกณฑ์ที่ใช้กับโฟมยางพารา
3. ลวดและสปริง (Wire and springs) : กำหนดเกณฑ์ในเรื่อง degreasing และ galvanization เช่น ผิวของสปริงไม่ควรมีชั้นของ galvanic metallic คลุมอยู่
4. เส้นใยมะพร้าว (Coconut fibres) : กำหนดให้ฟูกที่นอนมีส่วนประกอบของเส้นใยมะพร้าวมากกว่าร้อยละ 5 โดยน้ำหนัก ถ้ามีการ rubberized วัสดุเส้นใยมะพร้าวต้องสอดคล้องตามหลักเกณฑ์ที่ใช้กับโฟมยางพารา
5. วัสดุไม้ (Wooden Material) : กำหนดเกณฑ์ปฏิบัติในเรื่องการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน (Sustainable forest management) เช่น ให้ระบุชนิดไม้ ปริมาณ และแหล่งกำเนิดของไม้ นอกจากนั้นกำหนดปริมาณการปลดปล่อยฟอร์มาลดีฮายด์จากไม้วัสดุไม้ใน particleboard และ fibreboard
6. ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ (Textiles) : สิ่งทอที่ใช้ห่อหุ้มฟุกที่นอนต้องปฏิบัติตามเกณฑ์การย้อมสีและผลิตภัณฑ์สารเคมี รวมทั้งมีความเหมาะสมต่อการใช้งานตามหลักเกณฑ์ eco-label ของผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ในเรื่องต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์กัน/ฆ่าเชื้อรา (biocides) สารเคมีและส่วนผสมต้องห้าม (Auxilliary chemicals) เป็นต้น
7. กาว (Glues) : ห้ามใช้กาวที่มีสารทำละลายอินทรีย์ (Organic solvents) และห้ามใช้ในกรณีที่มีความเสี่ยงตาม classification criteria ในการก่อสารมะเร็ง เป็นอันตรายต่อระบบสืบพันธ์และพันธุกรรม
8. การปลดปล่อยสารประกอบ Volatile organic compounds (VOCs) : กำหนดเพดานการปลดปล่อยสาร VOCs และขั้นตอนการประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการปลดปล่อยสาร VOCs ของผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่พัฒนาเมื่อปี 2005 โดย AgBB
9. สารหน่วงการติดไฟ (Flame retardants used in the entire mattress) : สารหน่วงการติดไฟเฉพาะที่เป็น chemically bound อยู่ในวัสดุหรือพื้นผิววัสดุของฟูกที่นอน และตามข้อกำหนด R-phrases ที่กำหนดใน Annex อาจมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ได้
10. สารกัน/ฆ่าเชื้อราในผลิตภัณฑ์สุดท้าย (Biocides in final products) : ใช้ได้เฉพาะสารที่อยู่ใน Annex I, IA และ IB และที่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ในฟูกที่นอนตามAnnex V ของระเบียบ Directive 98/8/EC ว่าด้วยการวางตลาดของผลิตภัณฑ์กัน/ฆ่าเชื้อรา
11. ความคงทน (Durability) : คาดหวังอายุการใช้งานของฟูกที่นอนควรอยู่ที่ 10 ปี ตามเกณฑ์มาตรฐานการทดสอบ EN 1957 เช่น การสูญเสียความสูงของฟูกที่นอนสำหรับผู้ใหญ่ ไม่ควรเกินร้อยละ 15
12. ข้อกำหนดเรื่องหีบห่อ (Packaging requirements) : หีบห่อควรใช้วัสดุรีไซเคิลและมีเครื่องหมายแสดงประเภทพลาสติกตามมาตรฐาน ISO 11469 รวมทั้งควรมีข้อความ “For more information as to why this product has been awarded the Flower, please visit the website: http://www.ecolabel.eu Please consult your local authority on the best way to dispose of your old mattress” ปรากฎบนหีบห่อ
13. ข้อมูลปรากฎบนฉลาก eco-label (Information appearing on the ecolabel) : ใน Box 2 ของ Ecolabel ควรระบุข้อความต่อไปนี้ Minimise indoor air polution, Hazardous subsyance restricted และ Durable and high quality
ทั้งนี้ คำขอปิดฉลาก eco-label ที่ยื่นก่อนวันที่ข้อตัดสินฉบับใหม่ (Decision 2009/598/EC) ได้รับความเห็นชอบจะได้รับการประเมินตามเงื่อนไขของข้อตัดสินเดิม (Decision 2002/740/EC) ส่วนคำขอที่ยื่นตั้งแต่วันที่ข้อตัดสินฉบับใหม่ได้รับความเห็นชอบจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2553 สามารถรับการประเมินตามเงื่อนไขของข้อตัดสินฉบับเดิมหรือฉบับใหม่ก็ได้ อย่างไรก็ดี การปิดฉลาก eco-label ตามเกณฑ์ของ ข้อตัดสินฉบับเดิม จะใช้ได้ 12 เดือน นับจากวันที่ข้อตัดสินฉบับใหม่ได้รับความเห็นชอบ ดังนั้น ผู้ประกอบการส่งออกสินค้าฟูกที่นอน ควรทำความเข้าใจเงื่อนไข/หลักเกณฑ์ต่างๆ ตามข้อตัดสินฉบับใหม่นี้ โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://eur-lex.europa.eu/LexUriServ/LexUriServ. do?uri=OJ:L:2009:203:0065:0080:EN:PDF